วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก ดูอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวคุณและไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตมากที่สุด

วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก

“รถยนต์” เป็นยานพาหนะที่ช่วยให้เราเดินทางได้สะดวกและออกไปผจญภัยได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูกาลไหน เพราะมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม สามารถวิ่งระยะไกลติดต่อกันได้ ทั้งยังปกป้องคุณจากความร้อนและฝนที่ตกลงมาได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถยนต์นั้นมีหลายประเภท แถมยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย จึงอาจทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการซื้อรถสับสนได้ว่า ควรเลือกอย่างไรจึงจะตอบโจทย์การใช้งานของตนเองมากที่สุด ดังนั้น เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกรถยนต์คันแรกได้ง่ายยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงได้รวมรวบข้อมูลดี ๆ มาให้อย่างครบถ้วนกันใน บทความ วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก ดูอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวคุณและไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตมากที่สุด เรื่องนี้ เพื่อให้ทุกคนใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อกันอีกด้วย เมื่อเป็นรถยนต์คันแรก เชื่อว่าทุกคนคงจะอยากได้รถยนต์ที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน เพื่อให้รถยนต์คันนี้อยู่กับคุณไปได้อีกยาวนานใช่ไหมครับ ดังนั้น อันดับแรก เรามาดูวิธีการเลือกเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถยนต์ที่เหมาะกับตัวเองได้กันดีกว่าครับ

วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก

วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก
  1. เลือกรถยนต์คันแรกจากงบประมาณที่ตั้งไว้

ก่อนเลือกซื้อรถยนต์ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ราคาสัมพันธ์กับงบประมาณที่เราตั้งไว้หรือไม่ โดยคุณสามารถเลือกการจ่ายเงินได้ 2 แบบ ได้แก่ การซื้อด้วยเงินสดและการซื้อแบบผ่อนชำระรายเดือน ซึ่งหากคุณมีเงินสดเพียงพอ เราขอแนะนำให้ซื้อด้วยเงินสดมากกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยที่อาจสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสน ขึ้นอยู่กับราคาของรถยนต์และระยะเวลาที่ผ่อนชำระครับ หากคุณต้องการผ่อนชำระ แต่ต้องการลดดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด เราขอแนะนำให้วางเงินดาวน์สูงและเลือกระยะเวลาผ่อนน้อยครับ เพราะยิ่งเงินดาวน์สูง ค่างวดที่คุณต้องผ่อนชำระก็จะถูกลง และยิ่งระยะเวลาผ่อนน้อยก็จะช่วยให้ดอกเบี้ยถูกลงอีกด้วย ซึ่งโดยปกติ คุณสามารถวางเงินดาวน์ได้ตั้งแต่ 5% – 50% หรืออาจมากน้อยกว่านี้แล้วแต่ที่ตกลงกับสถาบันการเงินไว้ และสามารถผ่อนชำระได้ตั้งแต่ 48 เดือนจนถึง 84 เดือนครับ นอกจากนี้ ในการตัดสินใจวางเงินดาวน์และเลือกระยะเวลาผ่อน อย่าลืมพิจารณาเงินเก็บและรายรับในแต่ละเดือนควบคู่ไปด้วย โดยควรตัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เงินที่จะนำไปเก็บสะสมและค่าบำรุงรักษารถออก จากนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบว่าเพียงพอต่อการผ่อนชำระหรือไม่ เพื่อให้คุณได้รถที่ราคาเหมาะสมและผ่อนชำระได้สบายที่สุดครับ

  1. เลือกประเภทรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน รถยนต์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทด้วยกัน ขึ้นอยู่กับขนาด, เครื่องยนต์, จำนวนที่นั่งและจุดประสงค์ของการใช้งานครับ ซึ่งลำดับต่อไป เราจะขอแนะนำจุดเด่นของรถยนต์แต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดได้ครับ
รถ Eco Car ที่สุดของการประหยัดน้ำมัน

รถ Eco Car ที่สุดของการประหยัดน้ำมัน 

รถ Eco Car เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นเรื่องอัตราประหยัดน้ำมัน รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเงินในกระเป๋าของคุณ เนื่องจากมีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ไม่เกิน 1,500 ซีซี และมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอัตราการปล่อยมลพิษที่ปลอดภัยในระดับ Euro4 ที่เป็นมาตรฐานในระดับสากลครับ นอกจากนี้ รถ Eco Car ยังเป็นรถที่มีขนาดเล็กและราคาย่อมเยาที่สุดในบรรดารถทุกประเภท จึงมีความคล่องตัวสูง จอดรถง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการขับขี่ในตัวเมือง และช่วยประหยัดเงินให้เหลือเก็บไปเป็นค่าประกันหรือค่าบำรุงรักษาได้ ทั้งยังเป็นรถยนต์ที่เข้าเงื่อนไขโครงการรถยนต์คันแรก เนื่องจากมีราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท และมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ที่ผู้ซื้อสามารถขอเงินภาษีคืนได้อีกด้วย หากคุณต้องการรถคันขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันสักคันหนึ่ง รถ Eco Car ถือว่าตอบโจทย์อย่างยิ่งเลยครับ

รถ Sedan และ Hatchback ที่มีความคล่องตัวสูง

รถ Sedan และ Hatchback ที่มีความคล่องตัวสูง

หากคุณกำลังมองหา City Car หรือรถสำหรับขับขี่ในเมือง เราขอแนะนำให้เลือกรถ Sedan 4 ประตู หรือรถ Hatchback 5 ประตู เนื่องจากรถประเภทนี้มีขนาดกำลังดีและมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ทำให้มีความคล่องตัวสูง ทั้งยังง่ายต่อการจอดรถในบริเวณแคบ ๆ อีกด้วย ซึ่งนอกจากจุดเด่นในเรื่องความคล่องตัวแล้ว รถ Sedan และรถ Hatchback ยังออกแบบมาให้มีห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย สะดวกต่อการขึ้น-ลงรถและมีช่วงล่างค่อนข้างต่ำ รถจึงไม่เหวี่ยงไปมาขณะขับขี่ครับ ความแตกต่างระหว่างรถ Sedan และรถ Hatchback คือ ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ โดยรถ Sedan จะมีที่เก็บสัมภาระแยกจากห้องโดยสาร จึงมีข้อดีตรงที่กลิ่นต่าง ๆ จะไม่มารบกวนขณะขับขี่ ส่วนที่เก็บสัมภาระท้ายรถของรถ Hatchback จะอยู่รวมกับห้องโดยสาร ทำให้อาจมีกลิ่นลอยเข้ามาได้ แต่ในขณะเดียวกัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องต่อเติมที่เก็บสัมภาระแยกด้านหลัง จึงทำให้ส่วนท้ายของรถสั้น ง่ายต่อการถอยจอดและรถยนต์บางรุ่นยังสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อีกด้วยครับ

รถ SUV ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

รถ SUV ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

หากคุณกำลังมองหารถยนต์สำหรับครอบครัวอยู่ เราขอแนะนำรถ SUV (Sport Utility Vehicle) หรือที่เรียกกันว่า รถอเนกประสงค์เลยครับ เนื่องจากรถยนต์ประเภทนี้มีจุดเด่นในเรื่องความนิ่มนวลขณะขับขี่ และความกว้างขวางของห้องโดยสาร โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 7 คน จึงสามารถเดินทางได้ทั้งครอบครัว นั่งได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังสามารถพับเบาะหลังได้ ทำให้วางสัมภาระได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ตัวถังรถประเภท SUV นั้นยังอยู่สูงจากพื้นมากกว่ารถ Sedan และรถ Hatchback ทำให้คุณสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ แม้ในเส้นทางที่ค่อนข้างขรุขระอย่างถนนลูกรัง และยังช่วยให้ผู้สูงอายุขึ้น-ลงรถได้ง่าย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องก้มตัวระหว่างเข้า-ออกจากรถอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นประเภทที่เกิดมาเพื่อเป็นรถครอบครัวจริง ๆ ครับ

รถกระบะ สำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกของ

รถกระบะ สำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกของ

รถกระบะ เป็นรถยนต์ยอดนิยมที่ติดอันดับขายดีมาอย่างยาวนาน เนื่องจากสามารถบรรทุกสัมภาระได้เป็นจำนวนมาก มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดี มีกำลังแรงม้าสูง ออกตัวได้ไว ทนทานต่อการวิ่งทางไกล และสามารถขับขี่ในพื้นที่ลาดชันหรือขรุขระได้ แถมยังสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งสำหรับภายในครัวเรือนและสำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ รถกระบะยังสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะของตัวถัง ได้แก่ แบบตอนเดียว แบบตอนครึ่ง และแบบสองตอน ซึ่งรถกระบะแบบตอนเดียวจะมีเพียง 2 ที่นั่ง และมีพื้นที่สำหรับบรรทุกของมากที่สุด ขณะที่รถกระบะแบบตอนครึ่งหรือกระบะมีแค็บจะมีพื้นที่ด้านหลังคนขับเพิ่มมาเล็กน้อยเพื่อให้สามารถนั่งได้ และรถกระบะแบบสองตอนจะมี 4 ประตูและมีห้องโดยสารกว้างขวางที่สุด ซึ่งคุณสามารถเลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ครับ

  1. เลือกรถยนต์คันแรกจากฟังก์ชันและระบบความปลอดภัย นอกจากการเลือกประเภทของรถยนต์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของเราแล้ว ฟังก์ชันภายในรถและระบบความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน โดยฟังก์ชันและระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้ครับ
  • ระบบ Push Start ช่วยให้คุณสามารถสตาร์ตรถได้ทันทีเมื่อกุญแจอยู่ใกล้ตัวรถ โดยไม่จำเป็นต้องเสียบกุญแจ เพียงกดปุ่ม Push Start เท่านั้น
  • ระบบ Adaptive Cruise Control เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน รถสามารถวิ่งเองตามความเร็วที่เรากำหนดไว้ได้โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง และรถจะเพิ่ม-ลดความเร็วอัตโนมัติ แปรผันตามความเร็วของรถคันข้างหน้า
  • ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับรถ เพื่อให้สามารถใช้งานการโทรออก-รับสาย, ข้อความ, แผนที่ และเครื่องเล่นเพลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องละสายตาจากการขับขี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ
  • กล้องรอบคัน 360 องศา ช่วยให้เห็นสิ่งกีดกวางในมุมอับสายตาที่เรามองไม่เห็น ช่วยลดอุบัติเหตุ ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบจะเบรกเองโดยอัตโนมัติหากอยู่ในระยะอันตราย และยังไม่มีการเหยียบเบรกเพื่อป้องการเกิดอุบัติเหตุ
  • ระบบรักษาช่องทาง ระบบจะส่งเสียงเตือนและช่วยดึงพวงมาลัยกลับเมื่อรถออกนอกเลน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับในของผู้ขับขี่
  • ระบบจับจุดบอด ระบบจะขึ้นสัญญาณเตือนบริเวณกระจกส่องหลัง หากมีรถกำลังขับขี่อยู่ในจุดบอดที่เรามองไม่เห็น

หากคุณเลือกรถยนต์ที่มีฟังก์ชันที่สะดวกต่อการใช้งานและมีระบบความปลอดภัยที่ดี นอกจากจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ขับขี่ได้อย่างอุ่นใจในความปลอดภัยของตัวคุณและคนที่คุณรักอีกด้วยครับ

สรุป

รถกระบะ สำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกของ

ก่อนที่จะจากกันไปใน บทความ วิธีการเลือกซื้อรถยนต์คันแรก ดูอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวคุณและไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตมากที่สุด เรื่องนี้ สิ่งสุดท้ายที่เราอยากจะฝากเพื่อน ๆ ไว้ เนื่องจากรถยนต์เป็นยานพาหนะที่มีราคาสูงและใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระค่อนข้างนาน ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมคำนึงถึงการใช้งานระยะยาวกันด้วยนะครับ เช่น หากต้องเดินทางบนเส้นทางที่เป็นถนน Off-Road บ่อย ๆ ควรเลือกซื้อรถที่มีสมรรถนะในการวิ่งสูงและตัวถังมีความสูงจากพื้นค่อนข้างมาก หรือหากใช้งานในเมืองเป็นหลักและไม่ได้ใช้เดินทางระยะไกลบ่อย ๆ รถ Eco Car หรือ City Car จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่าครับ

ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

บริการรับ จำนำรถ

TAG