สำหรับในปัจจุบันนี้เราจะเห็นกระแสของรถสปอร์ตยุค 90 กับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แถมถ้ายิ่งเป็นคันที่คงสภาพเหมือนมือ 1 นั้น จะมากับราคาที่สูงชนิดที่ว่า Go To The Moon กันไปเลย แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้รถยนต์กลุ่มนี้กลับมาเป็นกระแส และ เป็นที่ต้องการจากผู้คนทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เหล่าคอคนรักรถไม่ควรพลาด กับบทความ 4 King of JDM 4 จตุรเทพแห่งวงการรถซิ่งยุค 90s ของญี่ปุ่น ที่เป็นขวัญใจของนักสะสมทั่วโลก เรื่องนี้ สำหรับคำว่า JDM นั้นย่อมาจาก Japanese Domestic Market หรือ ก็คือรถยนต์ที่เป็น Spec ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ใช้ขายเฉพาะในประเทศเท่านั้น ที่ในบางรุ่นจะไม่ส่งออกไปจำหน่ายนอกประเทศเลย โดยทั้ง 4 คัน ที่จะมากล่าวถึงในวันนี้ล้วนเป็นรุ่นพิเศษที่ถูกผลิตและวางจำหน่ายตั้งแต่ในช่วงปี ค.ศ. 1990-2000 และ ได้ถูกกล่าวขานจนเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้ ที่ใครมีไว้ครอบครองนั้นราคาจะขึ้นยิ่งกว่าทองเสียอีก ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้นเราไปรับชมกันเลย
4 King of JDM มีรถยนต์รุ่นอะไรบ้าง
Mazda RX-7 Spirit R
- สำหรับคันแรกที่เราจะหยิบมาพูดถึงเลยจะเป็น รถสปอร์ตร่างเล็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก Mazda อย่างรุ่น RX-7 คันนี้ และ สำหรับในรุ่น FD3S จะถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1993-1997 และ Spirit R จะถูกผลิตมาในปี 1997 แน่นอนว่าหากพูดถึงชื่อนี้คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อ ที่โดดเด่นมากับไฟ Pop-up สุดคลาสสิคที่หาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน พร้อมเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบ Rotary ที่ทำงานด้วยลูกสูบหมุน 2 Rotor ซึ่งมีความจุเพียง 1.3 ลิตรเท่านั้น แต่กลับรีดพละกำลังออกมาได้มาถึง 254 แรงม้า และ สามารถทำ 0-100 กม.ชม.ได้ในเวลาเพียง 5.4 วินาทีเท่านั้น
- ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้ถ้าหากนำมาปรับจูนดี ๆ นั้น ก็สามารถทำแรงม้าขึ้นไปถึง 500 แรงม้าได้เลย ซึ่งอาจจะฟังดูไม่เยอะแต่สำหรับรถที่มีน้ำหนักเพียง 1,200 กิโลกรัมนิด ๆ นั้นเป็นอะไรที่ลงตัวมาก ๆ จึงทำให้ RX-7 กวาดรางวัลไปได้ในหลาย ๆ รายการ ที่ไม่ว่าจะเป็นการ Drift . Drag หรือ แม้กระทั่ง Circuit เองก็ไม่ใช่ปัญหา และ รวมไปถึงการเป็นขวัญใจของขาซิ่งสาย Street ในยุค 90s ด้วยเช่นกัน
- ราคาปัจจุบัน ของ RX-7 ตอนนี้ก็จะมีเริ่มตั้งแต่ 2 ล้านบาทที่อาจจะต้องนำไปเก็บสภาพอีกเล็กน้อย กับ สภาพนางฟ้าที่ราคาขึ้นไปแตะ 3-4 ล้านบาทแล้ว
Toyota Supra A80 MK4
- คันต่อมาเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องรู้จักและเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างกับ Toyota Supra ที่ถูกยกให้เป็น King of JDM โดยเฉพาะใน Generation ที่ 4 หรือ MK4 กับรหัสตัวถัง A80 สุดคลาสสิคที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1993-2002 ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วร่วม 30 ปี เราก็ยังมองรถคันนี้สวยไม่สร่างเสมอ แถมยังมากับขุมพลังที่ว่ากันว่าแรงที่สุดแห่งยุคอย่างเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง เบนซินทวินเทอร์โบ ขนาด 3,000 ซีซี ที่รูกจักกันในรหัส 2JZ-GTE ที่มากับพละกำลัง 280 แรงม้า จากโรงงาน กับ แรงบิดอีก 431 นิวตันเมตร
- ซึ่งคนที่รู้จักเครื่องยนต์ตัวนี้ อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงน้อยจัง เพราะแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น ได้ทำสัญญากันไว้ว่าจะไม่ทำรถยนต์ที่มีแรงม้าเกิน 280 ออกมาเพื่อช่วยลดปัญหามลพิษกับรัฐบาลญี่ปุ่น จึงแอบปรับจูนรถให้มีแรงม้าน้อย ๆ แต่ใส่เทอร์โบใหญ่กับแคมคู่พร้อมระบบวาล์วแปรผันมาให้ด้วย แถมตัวเทอร์โบยังช่วยทำงานร่วมกันเพื่อหลอกค่าวัดด้วย จึงทำให้รถยนต์คันนี้นำไปเติมแต่งนิดหน่อยก็มีแรงม้าขึ้นไปถึง 800 แรงม้าได้ อาจจะดูไม่เยอะถ้าเทียบกับในปัจจุบัน แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว รถยนต์ F1 ของนักแข่งอันดับหนึ่งยังมีแรงม้าเพียง 700 ปลาย ๆ เท่านั้น
- ราคาปัจจุบันของ Toyota Supra A80 จะเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านบาทไปจนถึง 5 ล้านบาท จากเมื่อยุคปี 2,000 ต้น ๆ เงิน 5 แสนก็สามารถซื้อได้ แต่ในตอนนี้เงิน 5 แสน ยังซื้อเครื่องยนต์ 2JZ สภาพพร้อมใช้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
Honda NSX-R
- สำหรับ Honda NSX-R คันนี้เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของ Honda ในช่วงเวลานั้น ที่นอกจากจะเป็นต้นแบบของตระกูล Type R Series ให้กับแบรนด์แล้ว ยังเป็นรถยนต์ที่ได้รับฉายาว่า Ferrari of Japan เพราะมากับรูปร่างหน้าตาที่สปอร์ตเต็มขั้น พร้อมกับเครื่องยนต์แบบวางกลางคันแรกของแบรนด์ และ เป็นคันแรกของประเทศที่ได้วางจำหน่ายจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นรถสปอร์ตที่มีมาดหรูที่สุดใน 4 จตุรเทพเลย ให้สมกับคำที่ว่าผู้ดีขี่ Honda ซึ่งรถยนต์คันนี้จะมีรายละเอียดความสุดยอดอย่างไรบ้าง
- สำหรับจุดเด่นในส่วนแรกที่ต้องพูดถึงเลยคื่อเรื่องขอดีไซน์การออกแบบที่ดูเหมือนรถ Super Car ในปัจจุบันมาก ๆ ที่ตัวรถจะมากับรูปร่างที่เตี้ยติดดินดูเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับถนนมากที่สุด มีสัดส่วนที่ช่วยเสริม Aero Dynamic ที่ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ แถมยังมากับเครื่องยนต์แบบ V6 N/A วางกลาง คันเดียวในยุคอีกด้วยซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้เองก็เป็นต้นแบบของเครื่องยนต์ VTEC ในปัจจุบัน ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้จะรีดพละกำลังได้ 290 แรงม้า กับ แรงบิด 304 นิวตันเมตร ซึ่งอาจจะฟังดูไม่เยอะแต่รถยนต์คันนี้ก็ถูกผลิตมาในระหว่างช่วงสัญญาที่กล่าวเอาไว้ด้านบน จึงทำให้ต้องแอบซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ และ พอมาปรับจูนเพียงเล็กน้อยก็จะมีแรงม้าขึ้นมาถึง 500-600 แรงม้าได้เลย ซึ่งความแรงและความโหดของรถยนต์คันนี้ก็ทำให้กวาดชัยชนะไปจนแทบจะทุกสนาม จนการแข่งขันถูกปรับกฏมาใหม่จนทำให้รถยนต์คันนี้ไม่สามารถลงแข่งได้ ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้เราจะเอามาเจาะลึกกันในครั้งหน้านะครับ
- ราคาปัจจุบันของ Honda NSX รุ่นธรรมดาก็จะอยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาท ส่วนรุ่น NSX-R NA1 ก็จะอยู่ที่ 6-8 ล้านบาท ส่วนรุ่น NA2 นั้น ล่าสุดถูกนำออกมาประมูลที่ประเทศญี่ปุ่น และ จบลงไปที่ราคา 55 ล้านเยน หรือ 16.7 ล้านบาท เลย
Nissan Skyline GT-R R34
- และคันสุดท้ายที่เป็นไฮไลต์ของบทความเรื่องนี้เลยคือ Nissan Skyline GTR R34 หรือ รถคู่กายของพระเองหนัง The Fast & The Furious อย่าง Pual Walker ที่เพียงเวลาผ่านไปไม่นานพอได้กลับมาดูราคา ก็ขึ้นไปแล้วเป็น 2-3 เท่าตัว ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี เท่านั้น ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะความโดดของรถยนต์คันนี้นั้นมีรอบคัน ที่ดูหล่อเท่ห์ในทุกมุมมองจนกลายเป็นรถยนต์ในฝันของใครหลายคน แถมยังมากับขุมพลังความแรงอย่างเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงเบนซินทวินเทอร์โบ ขนาด 2.6 ลิตร รหัส RB26DETT ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ ที่พัฒนามาจากรุ่น R32 ที่จะงานแบบล้อหลัง 80 ล้อหน้า 20 โดย 20 เปอร์เซ็นจะทำงานเมื่อรถเกิดการท้ายปัด และ ออกตัวเท่านั้น
- ส่วนพละกำลังมาจากโรงงานจะอยู่ที่ 280 แรงม้า ตามข้อตกลงเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ และ ก็ได้แอบซ่อนขุมพลังความแรงเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากในไป Modifly เพียงเล็กน้อยก็จะได้พละกำลัง 600 แรงม้าขึ้นมาเป็นระดับพื้นฐาน
- สำหรับราคาในปัจจุบันนี้ถ้าเป็น GTR R34 แท้ ๆ ก็จะอยู่ที่ 10 ล้านบาทขึ้นไป และ ถ้ายิ่งเป็นรุ่นพิเศษอย่าง Nismo หรือ V Spec II Nur ก็จะขึ้นไปถึง 20 ล้านบาทเลย หรือ ถ้าพิเศษไปกว่านั้นก็จะเป็นหนึ่งใน 21 คัน ของ Paul Walker ที่กำลังจะนำออกมาประมูล
สรุป
เรียกได้ว่าแต่ละรุ่นนั้นสมกับที่ถูกยกให้เป็นรถยนต์ระดับตำนานของรถยนต์ JDM จริง ๆ ที่ทุกคันนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้อีก และ หวังว่าบทความ 4 King of JDM 4 จตุรเทพแห่งวงการรถซิ่งยุค 90s ของญี่ปุ่น ที่เป็นขวัญใจของนักสะสมทั่วโลก ของเราเรื่องนี้ จะมอบความสนุกความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่านได้ทุกท่านนะครับ และ สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลเจาะลึกของในแต่ละรุ่น ไว้ติดตามกันในบทความครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ mywonderwheel
