หากพูดถึงแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง Ferrari ก็เรียกได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ในฝันของใครหลาย ๆ คนก็ว่าได้ ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับรถยนต์ Ferrari Portofino M รถยนต์ Super Car คลาส GT เปิดประทุนเครื่องยนต์วางกลาง รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ กับขุมพลัง 620 แรงม้า คันนี้ โดยจะมากับเครื่องยนต์ V8 รุ่นใหม่แบบบล็อกเดียวกับ SF90 ที่มาพร้อมการปรับกำลังเครื่องยนต์ ให้ขุมพลัง 620 แรงม้า มีการขับขี่ที่นุ่มนวลมากที่สุด ผสมกับเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็มีเข้ามาให้อย่างครบถ้วน เป็น Super Car เปิดประทุนหลังคาแข็ง ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับรถสปอร์ต ทั้งรูปร่างหน้าตาและขนาดของตัวรถ แต่แอบแฝงไปด้วยสมรรถนะของรถ Super Car เอาไว้เต็มขั้นอย่างเช่น โหมด Race ก็ใส่เข้ามาให้เป็นครั้งแรกของคลาส GT อีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับการเริ่มต้น ซึ่งรถยนต์คันนี้จะมีรายละเอียด และ สิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดอย่างไรบ้าง
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Ferrari Portofino M
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- ในส่วนแรกเรามาดูในดีไซน์การออกแบบกันก่อนเลย โดยรถยนต์คันนี้จะเป็นรุ่นที่มาแทนที่ของรุ่น California ที่เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นเริ่มต้นของ Ferrari ซึ่งรถยนต์คันนี้ก็จะมากับรูปร่างหน้าตาที่ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยจะไม่ได้ดูเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนแบบเรียบง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะในรุ่นนี้มากับชุดแต่งและเส้นสายบนบอดี้ของตัวรถ ที่บ่งบอกถึงความเป็นรถ Super Car ได้อย่างชัดเจน ดูเพรียวลมมาขึ้นกว่าเดิม แถมยังมากับชิ้นส่วนแบบคาร์บอนไฟเบอร์มาตัดขอบในส่วนต่าง ๆ ด้วย ส่วนชุดไฟหน้า และ ไฟท้ายเองก็มาในดีไซน์ใหม่เช่นกัน แถมยังมากับไฟ Adaptive LED เวอร์ชั่นใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สุดอัจฉริยะมากมากมายใส่เข้ามา และ ขอย้อนไปในส่วนของชุด Body Part รอบคันอีกนิดเดียวที่นอกจากจะเพิ่มความหล่อเท่ให้กับตัวรถแล้ว ยังช่วยเป็นตัวจัดการอากาศในเวลาที่รถใช้ความเร็วสูงได้ดีมากกว่าในโฉมก่อนเป็นเท่าตัว ทำให้รถคันนี้ มี Aerodynamic ที่ดีมากกว่ารุ่นก่อนในทุกด้าน จนถูกเรียกว่าเป็น Super Car โดยจะไม่ใช่รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอีกต่อไป
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาว 4,594 มิลลิเมตร
- มีความกว้าง 1,938 มิลลิเมตร
- มีความสูง 1,318 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 110 มิลลิเมตร
- มีน้ำหนักตัวถัง 1,545 กิโลกรัม
- มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 200 ลิตร
- มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 72 ลิตร
- มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่ ลายดาว 5 แฉก ขนาด 20 นิ้ว
- มียางหน้าขนาด 245/35 ZR20
- มียางหลังขนาด 285/35 ZR20
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Ferrari Portofino M
Interior:ภายในรถยนต์
- ส่วนดีไซน์การออกแบบภายในห้องโดยสารของในรุ่นนี้ก็เพิ่มในส่วนของอุปกรณ์กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาให้มากขึ้น ตั้งแต่ชุดหน้าจอมาตรวัดที่ในครั้งนี้มากับหน้าจอ LCD 2 หน้าจอแล้ว แต่บริเวณกึ่งกลางยังคงเอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตด้วยเข็มวัดรอบแบบ Analog เอาไว้อยู่ ไปจนถึงพวงมาลัยเองก็มากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ที่ในรอบนี้สามารถควบคุมระบบความบันเทิงได้บนพวงมาลัยแล้ว แถมยังเพิ่มชุดหน้าจอมาให้บนแผงแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสารด้วย ส่วนปุ่มควบคุมระบบการทำงานต่าง ๆ ของตัวรถก็จะถูกออกแบบให้อยู่ใกล้มือผู้ขับขี่มาที่สุด และ แน่นอนถ้าเป็นรถเปิดประทุนแบบนี้ภายในก็จะใช้วัสดุหุ้มเป็นหนังทั้งหมด โดยมาในแบบสีทูโทนแบบที่สามารถเลือกสีได้อย่างอิสระเช่นเดิม
- มีเบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยหนังแบบ Nappa สามารถเลือกสีและวัสดุหุ้มได้อย่างอิสระ โดยจะมีเบาะนั่งทั้งหมด 4 ที่นั่งเช่นเคย โดยเบาะคู่หน้าจะเป็นแบบ Bucket Seat หลังแข็งดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับสรีระร่างกายมากขึ้น พร้อมปรับตำแหน่งได้ด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนเบาะนั่งด้านหลังจะมาในสไตล์สปอร์ตที่ยึดกับโครงสร้างของตัวถังรถ ไม่สามารถปรับตำแหน่งได้
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- สำหรับระบบความบันเทิงของในรุ่นนี้ก็มากับชุดหน้าจอเครื่องเล่นระบบสัมผัสรุ่นใหม่ แบบ Full Touch Screen ขนาด 10.25 นิ้ว ที่รองรับระบบเชื่อมต่อ Smart Phone เข้ากับตัวรถได้สามารถใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถหลังการใช้งานได้ รวมไปถึง ระบบ Apple Car Play , Android Auto และ ระบบ Navigation เองก็มีครบจบในคันเดียว และ ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยที่ในรุ่นนี้จะมากับกุญแจรีโมทสุดอัจฉริยะแบบ Smart Key ที่สามารถสั่งการ สตาร์ทเครื่องยนต์ให้เปิดระบบปรับอากาศรอเอาไว้ก็สามารถทำได้เหมือนใน Super Car รุ่นอื่น ๆ ของแบรนด์
เครื่องยนต์รถยนต์ : Ferrari Portofino M
Engine:เครื่องยนต์
- สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์ V8 เบนซิน Twin Turbo ขนาด 3.9 ลิตร 3,902 ซีซี 32 วาล์ว โดยเป็นเครื่องยนต์ V8 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในสาขา International Engine Of The Year Award ติดต่อกัน 4 ปี ซ้อน แบบเดียวกับในรุ่น SF90 แต่จะไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้ 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Dual Clutch รุ่น F1 แบบเดียวกับรุ่น SF90 ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3.5 วินาที กับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งหมด 5 โหมด
- โหมด Comfort
- โหมด Ice
- โหมด Rain
- โหมด Sport
- โหมด Race
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Ferrari Portofino M
- ในรุ่นนี้จะใช้โครงสร้างตัวถังแบบไฮบริดแบบเดิม แต่ในเรื่องของระบบช่วงล่างและเบรกนั้นได้อัพเกรดเข้ามาเพื่อรองรับกับพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะใช้เป็นระบบเบรกแบบ Carbon Ceramic ที่มาพร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Brembo โดยจะเป็นข้างหน้า 6 Pot และ ข้างหลัง 4 Pot เป็นระบบเบรกสมรรถนะสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ส่วนช่วงล่างนั้นก็เพิ่มระยะในการยืดยุบตัวที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้รถมีการขับขี่ที่นุ่มสบายแบบรถ Sport แต่ถ้าหากเปิดโหมด Race ระบบช่วงล่างก็จะถูกเซ็ตให้แข็งและปรับความสูงให้เตี้ยลงด้วยระบบไฟฟ้า และ อุปกรณ์ทั้งหมดที่กล่าวมาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ในแต่ละด้านของ Ferrari ที่ใส่เข้ามานั้นช่วยให้รถยนต์คันนี้เป็น Super Car ที่ขับง่ายเหมือนรถ Sport
สรุปรถยนต์ : Ferrari Portofino M
สำหรับแบรนด์ Ferari ในปัจจุบันก็ยังคงมุ่งเน้นไปในการผลิตรถแข่งกับรถยนต์สมรรถนะสูงเป็นหลัก แต่ก็ไม่ลืมถึงกลุ่มลูกค้าในคลาส GT ที่ต้องการรถสปอร์ตสไตล์บ้าน ๆ ในราคาที่เป็นมิตร หรือ กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์รุ่นเริ่มต้นจากเฟอรารี่ ทางผู้ผลิตจึงได้เปิดตัว Ferrari Portofino M ออกมาเป็นรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ และ ยังเป็นรุ่นที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถ Super Car ที่ขับขี่ง่ายที่สุดของแบรนด์ Ferrari อีกด้วย
รถยนต์ Ferrari Portofino M สามารถเลือกสีได้อย่างอิสระ
รถยนต์ Ferrari Portofino M มีสีให้เลือกมากกว่า 300 สี
ราคารถยนต์ : Ferrari Portofino M
รถยนต์ Ferrari Portofino M ราคา 21,840,000 บาท
Link ซื้อรถยนต์ : Ferrari Portofino M
สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์รุ่นเริ่มต้นที่จะมาสานฝันให้เป็นจริง จากแบรนด์ Ferrari ในปัจจุบัน ก็ต้องห้ามมองข้าม รถยนต์ Ferrari Portofino M รถยนต์ Super Car คลาส GT เปิดประทุนเครื่องยนต์วางกลาง รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ กับขุมพลัง 620 แรงม้า คันนี้ ถึงแม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่ดูคล้ายกับรถสปอร์ต แต่สมรรถนะภายในนั้นคือรถ Super Car ขนานแท้แถมยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของ Ferrari อัดแน่นเข้ามาให้แบบเต็มคันในราคาเริ่มต้นที่ถูกที่สุดในค่าย และ สุดท้ายนี้เราหวังว่าบทความของเราเรื่องนี้ จะมอบประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้ทุกท่านนะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นบทความเรื่องอะไร โปรดติดตาม https://mywonderwheel.com/ ของเราด้วยนะครับสวัสดีครับ
