ก่อนโช๊คอัพพังจะมีสัญญาณเตือนและข้อสังเกตอย่างไรบ้าง
ในการทำงานของรถยนต์ส่วนหนึ่งที่สำคัญและช่วยเสริมความปลอดภัยในการใช้งานนั่นก็คือระบบช่วงล่างที่ใช้โช๊คอัพเป็นตัวดูดซับแรงกระแทก ถึงจะใช้งานในรุ่นที่มีเกรดดีมากเพียงใด แต่หากขาดการดูแลและใช้งานอย่างไม่ทะนุถนอมก็สามารถเสียหายและเสื่อมสภาพได้เช่นกัน หากต้องการจะทราบว่า ก่อนโช๊คอัพพังจะมีสัญญาณเตือนและข้อสังเกตอย่างไรบ้าง พร้อมกับพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ รวมถึงสิ่งที่ต้องรู้เมื่อเราต้องการเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบกับเรื่องนี้กันครับ สัญญาณเตือนและข้อสังเกตก่อนโช๊คอัพจะพัง โช๊คอัพย้วยกว่าปกติ ในเวลาก่อนขึ้นรถยนต์ให้ลองเอามือกดที่บริเวณฝากระโปรงของรถหากพบว่ารถยนต์ เด้งขึ้นเด้งลงกว่าปกติ หรือโช๊คอัพย้วยกว่าเดิมจากการลงน้ำหนักเพียงแค่เล็กน้อยแสดงว่าโช๊คของคุณใกล้จะพังเป็นที่เรียบร้อย โช๊คอัพผิดรูปบิดเบี้ยว หากลองสังเกตด้วยตาแล้วเห็นว่าช่วงล่างมีการคดงอหรือบิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิมให้รีบเปลี่ยนทันทีหากใช้งานต่อจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ทั้งกับตัวท่านเองและผู้ใช้งาน เพราะเป็นการที่โช๊คอัพเสียหายโดยตรงหากได้รับการกระแทกเพิ่มอาจทำให้หักในระหว่างที่ขับอยู่ได้ หากใช้ความเร็วก็จะเป็นอันตรายอยากมาก ห้ามปล่อยไว้แล้วนำไปใช้งานเด็ดขาด โช๊คอัพมีการรั่วซึม หากโช๊คอัพของคุณมีการรั่วซึมของน้ำมันไหลนองมาที่กระบอกโช๊คแสดงว่าซีบโช๊คแตกจนมีรอยรั่วจนน้ำมันไหลออกมา ซึ่งการทำงานของโช๊คอัพก็จำเป็นต้องใช้การหล่อลื่นของน้ำมันเช่นกันหากขาดไปก็จะทำให้โช๊คอัพทำงานไม่ได้จนเกิดสภาวะโช๊คตายได้ คือไม่มีการตอบสนองใดทั้งยุบและคืนตัว ทำให้แรงกระแทกส่งไปถึงชิ้นส่วนต่างๆมากขึ้น โช๊คอัพไม่มีความร้อน หากหลังจากใช้งานเสร็จแล้วพบว่าโช๊คอัพไม่มีความร้อนเลยยังคงอุณหภูมิปกติ แสดงว่าโช๊คอัพเสียหายและไม่ได้มีการทำงานในระหว่างใช้งาน ให้รีบหาสาเหตุโดยด่วน อาจจะเกิดจากการที่โช๊คอัพขาดน้ำมันหรือปัญหาอื่นๆอีกมากมาย หน้ายางและดอกยางไม่สม่ำเสมอกัน หากเราสังเกตเห็นว่าหน้ายางและดอกยางมีผิวเป็นบั้งๆ ไม่สม่ำเสมอกัน แสดงว่าโช๊คอัพไม่ได้ทำงานตลอดเวลาหรือมีอาการเสื่อมสภาพแล้ว ออกตัวแล้วหน้าเชิดขึ้นกว่าปกติ หรือเวลาเบรกด้วยความเร็วแล้วหน้ารถทิ่มลงมากกว่าปกติ แสดงว่าโช๊คอัพย้วยไม่คืนตัวเหมือนเดิม เกิดจากการที่โช๊คเสื่อมสภาพหรือโช๊คอัพเกิดความเสียหายแล้ว รถจะไม่ค่อยเกาะถนนเมื่อใช้ความเร็วสูง หากเวลาที่เราใช้ความเร็วสูงแล้วรู้สึกว่ารถของเราร่อนลอยตัวออกจากพื้นหรือโครงเครงมากกว่าปกติเมื่อเจอกับแรงปะทะจากลม แสดงว่าโช๊คอัพเริ่มจะมีปัญหาแล้ว ให้ลดระดับความเร็วลงทันทีเพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายไปมากกว่านี้ หากรถลอยตัวออกจากพื้นถนนที่ความเร็วสูงจะเป็นอันตรายอย่างมากที่สุด เวลาผ่านลูกระนาดจรถเด้งกว่าปกติ เวลาที่รับขับรถขึ้นลูกระนาดหรือขับผ่านทางที่ชำรุดแล้วรถยนต์เด้งมากกว่าปกติหรือไม่เด้งแต่กระโดดเลยแสดงว่าโช๊คอัพเสียหายจนไม่สามารถทำงานได้ จนทำให้ไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้จึงทำให้ย้วยกว่าปกติ หรือถ้าหากโช๊คตายก็อาจจะทำให้รถกระโดดลอยตัวจากพื้นได้เลย หากขับมาไม่เร็วมากก็อาจจะจุกท้องเพียงเล็กน้อยแต่ถ้าหากขับผ่านด้วยความเร็วล่ะก็จะเป็นอันตรายมากๆ เพราะอย่างที่เคยกล่าวไว้ด้านบนหากรถลอยตัวออกจากพื้นถนนที่ความเร็วจะเป็นอันตรายให้กับตัวท่านและผู้อื่นมากที่สุด ซึ่งบางท่านอาจเคยเห็นได้จากข่าวหรือสื่อวีดีโอต่างๆนโลกออนไลน์ พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรขับด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานาน การที่ขับด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานานๆจะทำให้โช๊คอัพทำงานอย่างหนักและด้วยจากสภาพพื้นถนนของประเทศไทยที่ค่อนข้างจะคาดเดายากว่าจะเรียบเนียนไปตลอดหรือหากเจอเนินหรือพื้นที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้โช๊คอัพได้รับแรงกระแทกมากขึ้นอาจทำให้โช๊คอัพเสียหายได้ หลีกเลี่ยงการขับลงหลุมหรือขับบนถนนที่ไม่เรียบ การขับบนถนนที่ไม่เรียบเนียนหรือการขับลงหลุมจะเป็นการสร้างแรงกระแทกให้กับรถยนต์เกินความจำเป็น หากบ่อยเข้าจะเป็นการทำให้โช๊คอัพชำรุดหรือถึงขั้นเสียหายได้ […]