อยากทำสีรถใหม่ ควรเลือกใช้สีแบบไหนดีที่สุด 

อยากทำสีรถใหม่ ควรเลือกใช้สีแบบไหนดีที่สุด

ในการใช้รถยนต์ในแต่ละวันจำต้องขับลุยแดดลุยฝนมาเป็นเวลานานๆอาจทำให้สีเกิดเสื่อมสภาพได้ หรือต้องการทำสีทับลอยถลอกบนชิ้นส่วนต่างๆ โดยเราพาทุกท่านไปดูกันว่าหาก อยากทำสีรถใหม่ ควรเลือกใช้สีแบบไหนดีที่สุด ให้อยู่ทนทานกับรถยนต์ของเรา โดยสีที่ใช้พ่นรถยนต์นั้นก็จะมีหลายเกรดหลายประเภท จึงทำให้การเลือกใช้สีต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน และงบประมาณในการทำด้วย แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องสีเลย วันนี้เราจะมาแบ่งประเภทและคุณสมบัติต่างๆของสีที่ใช้ เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ และไว้ป้องกันในเวลาที่ไปเจออู่หรือร้านรับทำสีที่มักจะบอกเราไม่หมดทุกเรื่อง สีที่ใช้ทำรถยนต์ มี 3 ประเภท สี 1K คือสีที่มี 1 องค์ประกอบ โดยประกอบด้วยตัวสีเพียงอยากเดียว ส่วนมากจะนำมาใช้ผสมกับตัวนำละลาย เช่นทินเนอร์ เมื่อเวลาที่สีแห้งแล้วตัวนำละลายจะระเหยออกไปจนหมดเหลือเพียงฟิล์มสีที่แห้งเกาะกับตัวรถ ซึ่งสีประเภทนี้จะมีทำแบบแห้งช้าและแห้งเร็วขึ้นอยู่กับชนิดของสี  สี 1K ซินเทติกอีนาเมล หรือสีน้ำมันที่รู้จักกัน จะเป็นแบบแห้งตัวช้าโดยแห้งตัวจากการที่สารเคมีเกิดปฏิกิริยากับระดับออกซิเจนในอากาศ (Oxidation) สี 1K ไนโตรเซลลูโลส เป็นสีแบบแห้งตัวเร็วส่วนมากจะใช้ผสมกับตัวนำละลาย และแห้งตัวจากสารตัวทำละลายที่ผสม เช่น ทินเนอร์  สี 1K อะคริลิคหรือสีอะคริลิค จะเป็นแบบแห้งตัวเร็วจากสารนำละลายเช่นกัน  สี 2K เป็นสีประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสีเดิมโรงงานมาก ซึ่งเป็นสีที่มี 2 องค์ประกอบ ระหว่างสีกับตัวเร่งปฏิกิริยา (Hardener หรือ Activator) […]

จะแก้ไขอย่างไร ? หากหม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น และเกิดจากสาเหตุอะไร ?

จะแก้ไขอย่างไร ? หากหม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น และเกิดจากสาเหตุอะไร ?

หากผู้ใช้งานรถยนต์ท่านใดที่กำลังประสบปัญหาพบเจอกับเหตุการณ์ประเภทนี้ ห้ามพลาดกับบทความในครั้งนี้เลย เพราะในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาหาวิธีกันว่า จะแก้ไขอย่างไร ? หากหม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น และเกิดจากสาเหตุอะไร ? โดยปกติในการทำงานของรถยนต์จะมีระบบระบายความร้อนที่จะทำหน้าที่คอยรักษาระดับอุณหภูมิในเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาวะปกติสามารถใช้งานได้ แต่ในกรณีที่ความร้อนขึ้นนั้นก็อาจจะเป็นผลมาจากระบบระบายความร้อนหรือหม้อน้ำอุดตันไม่สามารถระบายความร้อนได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้ โดยจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้างรวมถึงวิธีการป้องกันดูแลรักษาเพื่อไม่ให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับรถของคุณ  สาเหตุที่ทำให้ความร้อนขึ้น หม้อน้ำเดือด  โดยอาการเข็มความร้อนขึ้น หรือที่เรียกกันว่า โอเวอร์ฮีท จะส่งผลเสียกับการทำงานของระบบและชิ้นส่วนของเครื่องยนต์โดยตรง อาจทำให้ชิ้นส่วนต่างๆทำงานผิดปกติจนทำให้เกิดความเสียหายได้ โดยส่วนมากจะเกิดจากน้ำในหม้อน้ำมีความร้อนสูงจนเดือด มักจะพบใบในรถที่มีอายุมานาน 10 ปีขึ้นไปที่หม้อน้ำเกิดการเสื่อมสภาพเกิดการรั่วซึมของหม้อน้ำทำให้น้ำขาดหายบ่อยจนทำให้ความร้อนขึ้น หรืออาการหม้อน้ำตันที่เกิดจากเศษสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันทำให้ระบายความร้อนไม่ได้จนความร้อนขึ้น โดยในส่วนมากคนมักจะเข้าใจว่าสาเหตุต้องมาจากหม้อน้ำโดยตรงแน่นอน ซึ่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใดแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะยังมีสาเหตุอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ เช่น  เกิดการทำงานขัดข้องของอุปกรณ์ระบายความร้อนเช่น พัดลมหม้อน้ำ เทอร์โบสวิตช์อินเตอร์คูลเลอร์ หรือตัวรีเรย์พัดลม เสียหาย หรือร้ายที่สุดก็อาจจะเสียหายทั้งหมด  ปั๊มน้ำอาจเสียหรือพังทำให้ไม่มีน้ำพอที่จะไปเลี้ยงระบบ วาล์วน้ำเสียหรือพังทำให้การจ่ายน้ำมีปัญหา หม้อน้ำรั่วหรือหม้อน้ำตัน  สนิมในหม้อน้ำและระบบระบายความร้อนต่างๆ ฝาปิดหม้อน้ำเสื่อมสภาพ  ประเกนฝาสูบโก่งจะเกิดช่องทำให้น้ำในหม้อน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ได้ งานนี้เรื่องใหญ่แน่ น้ำมันเครื่องหมดอายุหรือขาดการเปลี่ยนถ่ายนาน มีทางปฏิบัติแก้ไขอย่างไรบ้างเมื่อเกิดเหตุ  ขับรถเข้าข้างทาง เมื่อสังเกตเห็นว่าไฟสัญญาณเตือนความร้อนขึ้นให้ทำการค่อยๆเปิดไฟฉุกเฉินแล้วขอทางเข้าข้างทางจอดเช็คดูก่อน ห้ามขับต่อไปเพราะอาจเกิดอันตรายและทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ เปิดฝากระโปรงตรวจสอบ เมื่อเข้าข้างทางเรียบร้อยแล้วอย่ารีบดับเครื่องยนต์ในทันที ให้เปิดฝากระโปรงลงไปเช็คดูก่อน โดยที่เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ในรอบเดินเบาอาจจะทำให้เห็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นปัญหา จึงทำให้สามารถแก้ไขได้ หากหาไม่พบแล้วจอดติดเครื่องอยู่สักพักรอดูว่าระดับความร้อนรถลงหรือไม่หากไม่รถลงให้ดับเครื่องรอจนเครื่องเย็นลง พร้อมไปสู่ขั้นตอนต่อไป  รอให้เครื่องเย็นแล้วเปิดฝาหม้อน้ำตรวจสอบ ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องร้อนโดยเด็ดขาด […]

ควรเตรียมตัวอย่างไรให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ปลอดภัยที่สุด

ควรเตรียมตัวอย่างไรให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ปลอดภัยที่สุด

ในการเดินทางไกลด้วยรถยนต์แต่ละครั้งที่หลายท่านมักพบเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิดเสมอในระหว่างการเดินทาง ทั้งเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องร้ายแรง เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่า ควรเตรียมตัวอย่างไรให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ปลอดภัยที่สุด เป็นเกร็ดความรู้รอบตัวที่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านควรจะมี เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งในการเดินทาง และเมื่อในยามเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็สามารถรู้ก่อนและแก้ไขได้อย่างทันที จะมีวิธีการเตรียมรถและเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันครับว่าผู้ที่เค้าเดินทางไกลเป็นประจำกันว่าพวกเขามีวิธีปฏิบัติกันอย่างไร สำคัญมากห้ามพลาดกันเลยนะครับ  วิธีเตรียมความพร้อมของรถยนต์ ทำการตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องก่อนออกเดินทางสัก 1 วันเพื่อที่หากขาดไปจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาในวันเดินทางอีกรอบ และตรวจเช็คก่อนวันเดินทางอีกรอบหากได้ทำการเติมไปแล้วแต่ยังขาดอยู่แสดงว่ามีจุดที่รั่วซึมให้รีบแก้ไขทันที หากใช้เดินทางต่อต้องเกิดปัญหาระหว่างทางได้แน่ ตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง หากในการเดินทางของคุณแบตเตอรี่เกิดมีปัญหาระหว่างทางไม่ว่าจะเสื่อมหรือใดๆก็ตามก็คงจะทำให้หมดสนุกไปเลยก็ได้ โดยปกติแบตเตอรี่ที่ติดมากับรถยนต์จะมีอายุใช้งานไม่เกิน 3-4 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และแบตเตอรี่แบบแห้งที่มีราคาสูงจะอยู่ได้ยาวนานถึง 10 ปีเลย เพราะฉะนั้นเราจึงนำวิธีการตรวจเช็คแบตเตอรี่เบื้องต้นมาฝากกัน เริ่มจาก สังเกตสัญลักษณ์แจ้งเตือนบริเวณหน้าปัดเรือนไมล์ เป็นฝากระโปรงตรวจดูที่ขั้วแบตเตอรี่ว่ามีอาการหลวม หรือมีขี้เกลือขึ้นหรือไม่เพราขี้เกลือจะเป็นจุดที่ทำให้กระแสไฟเดินได้ไม่สะดวก ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบแห้งให้ดูที่ตาแมวแบตเตอรี่ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีตำแหน่งที่แตกต่างกัน  หรือทดสอบแบตเตอรี่แบบ Virtuel โดยผ่านอุปกรณ์ ตรวจเช็คลมยางให้เรียบร้อยให้อยู่ระดับที่เหมาะสมของรถยนต์ของคุณ ในส่วนการเดินทางไกลควรเติมลมยางเพิ่มจากมาตรฐานไปอีกประมาณ 3-5 ปอนด์ (PSI) หากลมยางอ่อนไปอาจเกิดความเสี่ยงทำให้ยางระเบิดได้ หากใช้ความเร็วสูงในการเดินทางไกล และลมยางอ่อนจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้นถึงจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาขับก็ตามแต่ไม่เหมาะยางมากในเวลาเดินทางไกล ตรวจเช็คผ้าเบรคอาจจะฟังดูยุ่งยากแต่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของรถยนต์ ที่ต้องหมั่นตรวจเช็คในระยะเวลาทุกๆ 3 เดือน และควรเปลี่ยนเมื่อมีอายุการใช้งานครบ 40,000 – 50,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ และน้ำมันเบรกที่ควรเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยปีละ 1 […]

วิธีการจองคิวต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19

วิธีการจองคิวต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19

ด้วยในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จึงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนมาตรการต่างๆตามสถานการณ์ตลอดเวลา โดยในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปดู วิธีการจองคิวต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชัน ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง โดยในปัจจุบันทางกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศไทยได้เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งการให้บริการเรื่องทะเบียนและภาษีรถ แต่ยังไม่มีการเปิดอบรมในสำนักงาน โดยจะเป็นการจองการต่ออายุแบบออนไลน์แทนผ่านแอพพลิเคชัน DLT Smart Queue และ อบรมออนไลน์ผ่านทางเว็บไซด์ dlt-elearning มาตรการเยียวยาสำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุอีกมากมายดังนี้ วิธีการต่ออายุใบขับขี่มี จองผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue  โหลดแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue โดยแสกนจากคิวอาร์โค้ดด้านบน หรือ เข้าไปที่เว็บไซด์ https://www.dlt-elearning.com/Home  ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อยสำหรับผู้ที่ใช้งานครั้งแรกจะต้องทำการ Register ใหม่ โดยจะต้องกรอกข้อมูลต่างๆให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน ตั้งแต่  หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน  สร้างรหัสผ่าน เบอร์โทรศัพท์  อีเมล เมื่อลงทะเบียนเสร็จจะได้รับการแจ้งเตือนเข้ามาที่โทรศัพท์  เมื่อได้รับข้อความแจ้งเตือนแล้วให้ทำการเข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนและรหัสผ่านที่ตั้งไว้ เมื่อเข้าไปแล้วให้ทำการเลือกสถานที่ของสำนักงานขนส่งใกล้บ้านที่สะดวกเดินทางมากที่สุด เลือกรายการที่ต้องการ เช่น การต่อใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี […]

การวอร์มเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน มีประโยชน์จริงหรือไม่ ?

การวอร์มเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน มีประโยชน์จริงหรือไม่

ก่อนการใช้งานรถยนต์แต่ละครั้งในเรามักจะเห็นผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักจะสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่ง เพื่อเป็นการวอร์มให้เครื่องร้อนพร้อมใช้งาน ในสำหรับท่านที่กำลังสงสัยว่า ในปัจจุบันนี้ การวอร์มเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน มีประโยชน์จริงหรือไม่ ? โดยในการทำงานของเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์นั้นจะต้องมีอุณหภูมิที่พอดีถึงจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและไร้ซึ่งปัญหา หากเครื่องเย็นเกินไปก็จะทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างทำงานไม่ได้จึงอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งหลายท่านที่กำลังสงสัยว่าแล้วรถรุ่นใหม่ อย่างในปัจจุบันยังจำเป็นต้องวอร์มเครื่องอยู่หรือไม่ และทำไมในรถรุ่นเก่าถึงต้องวอร์มเครื่องก่อนใช้งาน  จำเป็นขนาดไหนสำหรับในรถยนต์รุ่นเก่า  สำหรับผู้ที่ใช้งานรถยนต์ที่มาอายุ 30 ปี ขึ้นไปน่าจะต้องเคยได้ยินมาบ้างว่าก่อนขับรถจะต้องวอร์มเครื่องยนต์ให้ร้อนกำลังดีก่อนที่จะใช้งาน ไม่ว่าจะเคยได้ยินมาจากคุณพ่อหรือผู้ที่สอนขับรถต่างๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เพราะรถยนต์ในสมัยก่อนจำเป็นต้องใช้ความร้อนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะรถที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องพึ่งพากลไกลแบบแม็คเคอร์นิคในการขับเคลื่อนชิ้นส่วนต่างๆภายในเครื่องยนต์ ที่ต้องพึ่งพาอาศัยอุณหภูมิความร้อนสูง อย่างแรกก็คือ  น้ำมันเครื่อง ในน้ำมันเครื่องสมัยก่อนยังไม่ได้มีน้ำมันเครื่องเกรดดีเท่าปัจจุบัน ส่วนมากยังเป็นน้ำมันเครื่องที่สกัดจากน้ำมันดิบและน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ซะส่วนใหญ่ ที่ต้องการความร้อนในการหล่อลื่นหากมีอุณหภูมิที่ร้อนไม่พอจะทำให้น้ำมันหนืดไม่ลื่นไหล ทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ทำงานช้ากว่าปกติ จึงต้องอาศัยการวอร์มเครื่องยนต์จากรอบเดินเบาของรถยนต์เพื่อให้อุณหภูมิขึ้นมาอยู่ในระดับที่ร้อนพอไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น อุุณหภูมิหม้อน้ำ  ในรถรุ่นเก่านั้นการทำงานของตัววาล์วน้ำและเกจวัดระดับยังเป็นระบบ Analog ที่อาจเกิดปัญหาเสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา การวอร์มเครื่องก่อนประมาณ 5 นาที จะเป็นการตรวจเช็คสภาพรถไปในตัวว่ามีอะไรทำงานผิดปกติหรือไม่ ความร้อนของรถยนต์ขึ้นไวเกินกว่าปกติหรือไม่ก็จะสามารถรู้ได้และแก้ไขได้ทันก่อนที่จะไปมีปัญหาระหว่างทาง  โดยสิ่งที่กล่าวมาจะเป็นข้อมูลสำหรับการใช้งานรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ คาร์บูเรเตอร์นะครับ โดยเครื่องยนต์ประเภทนี้ได้ถูกเลิกผลิตไปในโดยประมาณปี ค.ศ. 1995 โดยประมาณ โดยจะหลงเหลืออยู่น้อยมากในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่ที่มีก็จะเป็นแต่รถเก่าเก็บมูลค่าสูง ที่บางท่านอาจมีเพื่อนบ้านแล้วเรามักจะได้ยินเสียงการวอร์มเครื่องยนต์ในทุกเช้า นั่นก็อย่าเพิ่งไปรำคาญเขานะครับเพราะเครื่องยนต์พวกนี้จำเป็นต้องได้รับการวอร์มเครื่องอุ่นเครื่องอยู่ตลอด หากไม่ทำและทิ้งไว้นานๆก็จะพังและเสียหาย ดีไม่ดีอาจจะหาอะไหล่เปลี่ยนกันไม่ได้แล้วด้วย หรือถ้าหาได้ก็ต้องมีราคาที่แสนแพงเพราะหายากตามกาลเวลานั่นเอง โปรดเข้าใจคนใช้รถเก่าด้วยนะครับ  […]

หากพบเจอสนิมบนรถยนต์ต้องแก้ไขอย่างไร 

หากพบเจอสนิมบนรถยนต์ต้องแก้ไขอย่างไร

ต้องเป็นเรื่องกวนใจให้กับคนรักรถมากแน่ๆสำหรับเจ้าสนิมตัวร้ายที่คอยเกาะกินชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นโลหะบนรถยนต์หากขาดการดูแลเพียงระยะเวลาสั้นก็สามารถเกิดสนิมขึ้นได้ และถ้า หากพบเจอสนิมบนรถยนต์ต้องแก้ไขอย่างไร เชื่อว่าเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนต้องการคำตอบเป็นแน่ สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้วิธีจัดการกับเจ้าสนิมตัวร้ายนี้อย่างไร วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปดูกันอาจจะง่ายกว่าที่คุณคิดก็ได้นะครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย  สนิมคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร สนิมเป็นเหมือนผื่นที่สามารถลุกลามไปยังส่วนอื่นได้หากไม่ได้รับการดูแลรักษา เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กโดยไม่ได้ผ่านการเคลือบจากสีหรือน้ำยาป้องกันสนิม ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางเคมีปกติของธาตุเหล็กเมื่อสัมผัสกับน้ำ ความชื้น และออกซิเจนในอากาศ จะทำให้เหล็กที่ถูกความชื้นแร่อิเล็กตรอนที่อยู่ภายในเหล็กจะทำการแตกตัวทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนเกิดเป็นสนิมขึ้น มักจะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนที่ได้รับการเฉี่ยวชนจนถลอด ทำให้เนื้อสีที่เคลือบโลหะอยู่หลุดออกเหลือแต่โลหะ จะทำให้เกิดสนิมขึ้นในบริเวณนั้นได้หากไม่ทำการแก้ไข ก็จะลุกลามไปที่อื่นได้ เช่นชิ้นส่วนของตัวถังหากเกิดสนิมขึ้นก็จะทำให้โครงสร้างของรถยนต์เสื่อมสภาพตามไปด้วย  สาเหตุที่ทำให้รถยนต์เกิดสนิม สีรถยนต์หลุดถลอก ส่วนนี้จะทำให้รถยนต์เป็นสนิมง่ายที่สุดและพร้อมที่จะลุกลามไปบริเวณรอบข้างอย่างรวดเร็วเพราะผิวรถที่เป็นโลหะชั้นในแล้วสีที่เคลือบชั้นนอกหลุดออกทำให้โลหะสัมผัสกับความชื้นและอากาศโดยตรงจึงทำให้เกิดสนิมขึ้นได้ง่ายมากๆ หรือการโดนเศษหินก็ทำให้สีลอกเช่นกัน โดนแดดโดนลม ในส่วนที่ไม่ได้ถูกเคลือบสีไว้และชิ้นส่วนที่เป็นโลหะแล้วสัมผัสกับแสงแดดหรือลมฝนโดยตรงหากโดนบ่อยเข้าแล้วไม่ได้ทำความสะอาดให้ดี ก็สามารถสะสมเป็นครบสกปรกจนกลายเป็นสนิมได้ การเสียดสี ชิ้นส่วนที่ได้รับการเสียดสีบ่อยจะเกิดสนิมได้ง่ายมากกว่าชิ้นส่วนอื่นจึงต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ น้ำมันเชื้อเพลง การเติมน้ำมันหากผู้เติมไม่ได้ระวังแล้วมีคราบน้ำมันติดกับสีรถน้ำมันในบางชนิดก็จะกัดกร่อนสีจนสีลอกได้เช่นกัน จึงต้องหมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดในบริเวณฝาถังน้ำมันอยู่บ่อยๆ  จุดที่เกิดสนิมได้ง่ายและจำเป็นต้องหมั่นตรวจสอบดูแล  บริเวณบานพับประตู ในบริเวณนี้เป็นจุดที่ความชื้นเข้าถึงง่าย และใช้งานเปิดปิดอยู่ตลอดเวลา หากถูกสนิมกินมากจะทำให้บานพับประตูฉีกได้ เป็นเหตุให้ตัวประตูตกจากตำแหน่งเปิดปิดยากกว่าเดิม หรือร้ายที่สุดอาจะทำให้ประตูหลุดได้เลย หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ฝากระโปรงหน้า บริเวณฝากระโปรงหน้าจะเป็นชิ้นส่วนที่ได้รับการเปิดปิดอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกับบานพับประตู ในชิ้นส่วนที่เกิดความเสียดสีบ่อย สารที่เคลือบสีป้องกันไว้อาจทำให้อะไหล่ผุพังได้ หรือเจอกับความชื้นมากๆโดยเฉพาะในหน้าฝน หากไม่คอยเช็ดให้แห้งทุกครั้งก็เกิดสนิมได้เช่นกัน  ฝาถังน้ำมัน เช่นเดียวกับชิ้นส่วนทั้ง 2 ชิ้นที่กล่าวไว้ในด้านบน เพราะเป็นชิ้นส่วนที่เปิดปิดใช้งานบ่อยและเป็นจุดที่เจอความชื้นได้บ่อย ง่ายต่อการเกิดสนิมมากเช่นเดียวกัน หากเกิดสนิมไปก็จะทำให้ฝาถังน้ำมันเปิดไม่ออกได้ เป็นชิ้นส่วนที่ต้องคอยตรวจเช็คตลอด เพื่อไม่ให้เกิดสนิมได้ง่ายๆ  ใต้ท้องรถ […]

หากต้องการทำความสะอาดชิ้นส่วนของเครื่องยนต์จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง

วิธีทำความสะอาดเครื่องยนต์

หากใช้งานเครื่องยนต์มาเป็นเวลานานเชื่อว่าผู้ใช้งานบางท่านต้องมีความอยากถอดชิ้นส่วนภายในออกมาล้างทำความสะอาดบ้างต้องก็ไม่รู้ว่าจะสามารถล้างได้หรือไม่หากทำไปแล้วเครื่องจะพังรึป่าว ในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปหาคำตอบกันว่า หากต้องการทำความสะอาดชิ้นส่วนของเครื่องยนต์จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง จะสามารถทำเองได้หรือไม่หรือต้องให้ร้านทำให้อย่างเดียว โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ห้ามพลาดกันเลยนะครับ  การล้างชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีแบบไหนบ้าง เครื่องยนต์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์เป็นจุดกำเนิดของแรงขับเคลื่อนให้กับรถยนต์และยังเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานหนักที่สุด แถมยังต้องปะทะกับลมกับฝุ่นอยู่ตลอดเวลา และคราบน้ำมันที่สะสมตามกาลเวลา โดยในการทำความสะอาดให้กับชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนทางที่ดีควรให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างช่างที่ชำนาญเป็นคนทำให้หรือร้านที่เชื่อถือได้ โดยวิธีการทำความสะอาดจะมีอยู่ทั้งหมดดังนี้ การถอดชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ออกมาล้าง แนะนำให้เป็นช่างผู้ชำนาญหรือร้านที่เชื่อถือได้เป็นคนทำ โดยเมื่อไปถึงช่างจะทำการ ล้างชิ้นส่วนภายนอกก่อนหรือที่เรียกกันว่าการฟลัชชิ่ง จากนั้นจะทำการถอดชิ้นส่วนต่างๆออกมาล้างด้วยน้ำยาฟอกหรือสารชะล้าง ปล่อยให้น้ำยากัดคราบอยู่สักพักแล้วล้างออกใช้ลมเป่าจนแห้งดีถึงค่อยใส่กับเข้าไปอีกครั้งหลังจากนั้นให้ทำการรันอินให้น้ำมันเครื่องกับเข้าไปครอบคลุมชิ้นส่วนทั้งหมดก่อนแล้วถึงจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในระหว่างช่วงรันอินห้ามใช้ความเร็วและรอบสูงเด็ดขาดอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ โดยในข้อดีของการใช้วิธีนี้จะทำให้เครื่องยนต์สะอาดหมดจดในทุกชิ้นส่วนและถ้าหากมีชิ้นส่วนไหนเสียหายหรือมีรอยรั่วของน้ำมันเครื่องก็จะทำให้เราสามารถเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงยังสามารถทำให้เครื่องยนต์กับมาระบายความร้อนได้ดีอีกครั้ง ส่วนในข้อเสียน้ำยาชะล้างที่ใช้หากใช้ของที่มีคุณภาพไม่ดีจะทำให้กัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นโลหะได้ รวมถึงถ้าทำความสะอาดไม่หมดดีก่อนก็อาจจะทำให้เกิดสนิมได้ และน้ำยาชะล้างต่างๆห้ามนำไปเคลือบชิ้นส่วนที่เสียดสีกันแทนน้ำมันเครื่องเด็ดขาด เพราะไม่ได้มีคุณสมบัติในการช่วยหล่อลื่นให้กับโลหะแต่อย่างใด ยิ่งจะเป็นการทำร้ายชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เสียมากกว่า ใช้น้ำมันเครื่องที่ผสมน้ำยาชะล้าง จะมีน้ำมันเครื่องบางชนิดที่ใช้ส่วนผสมของน้ำมันชะล้างเข้าไปด้วย หรือรถยนต์เบนซินให้ลองไปใช้น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ดีเซลแต่จะต้องเป็นแบบที่ใช้งานกับเครื่องยนต์เบนซินได้ดีด้วยส่วนใหญ่จะเป็นเกรดพิเศษที่มี S ตามหลัง จะเป็นการชะล้างเครื่องยนต์ไปในตัว แล้วพอใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่งค่อยถ่ายออกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูงเพรียวๆอีกครั้งจะเป็นการถนอมเครื่องยนต์ไปในตัวด้วย ควรทำอย่างไรถ้าอยากให้เครื่องยนต์สะอาดอยู่เสมอ ถ้าอยากทำให้เครื่องยนต์สะอาดอยู่เสมอมีวิธีง่ายๆเพียงแค่ใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง และหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถช่วยได้แล้ว เพราะในปัจจุบันน้ำมันเครื่องมีหลายเกรดและได้พัฒนาให้มีสารชะล้างคราบสกปรกหรือเขม่าเข้ามาด้วยในบ้างรุ่น ทำให้ตัวน้ำมันเครื่องดันสิ่งสกปรกขึ้นไปลอยอยู่เหนือน้ำมันจะไม่ทำให้ลงไปปนเปื้อนในขั้นตอนการทำงานได้อย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นสิ่งสกปรกที่มีชิ้นใหญ่ก็จะถูกไส้กรองน้ำมันเครื่องดักเอาไว้ไม่ให้ไหลผ่านมาได้ ส่วนชิ้นส่วนที่เล็กน้อยก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะว่าเราต้องถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่แนะนำไว้ด้านบนอยู่แล้ว  รวมถึงการใช้งานในแต่ละวันควรจะใช้งานอย่างทะนุถนอมไม่ขับกระชากไปรอบสูงบ่อยๆรวมถึงการรากรอบสุงนานๆ และการขับที่ความเร็วสูงก็จะเป็นการทำร้ายชิ้นส่วนภายในโดยไม่รู้ตัวหากทำพฤติกรรมเหล่านี้บ่อยๆ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักหากเป็นเวลานานก็จะยิ่งมีความร้อนสะสมสูง จะทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วกว่ากำหนดและอาจเกิดการเผาไหม้ไม่หมดและตกค้างอยู่ภายในได้ หากทำในเวลาที่ล้างเครื่องมาใหม่ๆ โดยที่ยังไม่ได้รันอินจนครบเวลาที่กำหนด ก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์พังได้เลย ไม่ว่าจะใช้น้ำมันเครื่องดีแค่ไหนก็ตามแต่หากลัดขั้นตอนไปก็เกิดความเสียหายที่รุนแรงได้เช่นกัน  อย่างไรก็ตามควรศึกษาขั้นตอนการล้างเครื่องยนต์ให้ละเอียดก่อนการล้างเครื่องยนต์ ควรศึกษาวิธีการและขั้นตอนให้ละเอียดจากนั้นให้หาร้านหรือศูนย์บริการที่ไว้ใจได้ ที่จำเป็นต้องศึกษาวิธีการให้ละเอียดก่อนที่จะไปทำนั้นเพราะ เพื่อที่เราจะได้คุยกับช่างได้อย่างเข้าใจและรู้ว่าช่างกำลังทำอะไรกับรถยนต์ของเราอยู่รู้ไว้ก่อนไม่เสียหาย และหากจะทำการล้างเองโดยการใช้น้ำมันเครื่องแบบผสมน้ำยาชะล้างวิธีนี้ต้องหมั่นจำและสังเกตด้วยตัวเองว่าได้ผลมากน้อยเพียงใดจะถ่ายรูปไว้ระหว่างก่อนทำกับหลังทำเพื่อเปรียบเทียบกันได้ และอย่าลืมถ่ายกับไปเป็นน้ำมันเครื่องล้วนอย่างเดิมเด็ดขาดเพราะจะมีอายุการใช้งานไม่นานเท่าน้ำมันเครื่องล้วนที่ใช้ในปกติ  ก่อนจากกันในครั้งนี้ทางเราและทีมงานหวังว่าบทความ […]

หากคอยล์จุดระเบิดเสียส่งผลร้ายแรงกับรถยนต์หรือไม่และมีวิธีสังเกตอย่างไรหากคอยล์เสื่อมสภาพ 

สำหรับในรถยนต์ทุกคันมักจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวช่วยในการทำงานของระบบต่างๆทั้งเครื่องยนต์รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคต่างๆ ที่จะใช้คอยล์เป็นจุดกำเนิดของพลังงานไฟฟ้าแรงสูงในรถยนต์ ทำหน้าทีี่สร้างกระแสไฟเป็นจำนวนมากส่งมากระตุ้นการทำงานของระบบและชั้นตอนต่างๆ โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาหาคำตอบกันว่า หากคอยล์จุดระเบิดเสียส่งผลร้ายแรงกับรถยนต์หรือไม่และมีวิธีสังเกตอย่างไรหากคอยล์เสื่อมสภาพ เชื่อว่าหลายท่านก็ต้องมีคำถามนี้อยู่ในใจเป็นแน่ ถ้าหากทราบว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สำคัญกับรถยนต์ของท่านมากเพียงใด คอยล์จุดระเบิด คอยล์จุดระเบิด คืออะไร เป็นอุปกรณ์ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าแรงสูงเป็นการจุดระเบิดการทำงานของรถยนต์ โดยจะใช้หลักการทำงานเดียวกับหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งจะเพิ่มแรงเคลื่อนจาก 12 โวลท์ไปเป็นไฟฟ้าแรงสูงได้มากถึง 20,000-40,000 โวลท์เลย ในรายละเอียดภายในของคอยล์จุดระเบิดจะประกอบด้วย ขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทุติยภูมิ เป็นลวดที่รองรับไฟฟ้าแรงสูงและพร้อมจ่ายกระแสไฟไปที่หัวเทียนต่อไป คอยล์จุดระเบิดมีทั้งหมด 2 ประเภท  คอยล์จุดระเบิดแบบใช้จานจ่าย คอยประเภทนี้อยู่ในรถยนต์เบนซินรุ่นเก่าที่ใช้จานจ่ายไฟโดยจะมีคอยล์จุดระเบิดอยู่บนจานจ่ายไฟหรืออยู่นอกจานจ่ายไฟ และเปลี่ยนให้คอยล์จุดระเบิดเข้ามาอยู่ในจานจ่ายในเจนเนอเรชั่นต่อมา คอยล์จุดระเบิดแบบไดเร็ก ในทุกวันนี้รถยนต์เบนซินทุกรุ่นจะใช้คอยล์จุดระเบิดแบบไดเร็กประเภทนี้ โดยตัวคอยล์จะอยู่บริเวณด้านบนของฝาวาลว์ต่อตรงไปยังหัวเทียน ควบคุมการทำงานด้วยกล่องสมองกลอัจฉริยะ หรือ ECU  Duo คอยล์ จะเป็นคอยล์แบบไดเร็กแต่จะแตกต่างกันตรงที่ 1 คอยล์มี 2 สูบ จากที่คอยล์แบบไดเร็กใช้อย่างละ 1 ตัว ต่อ 1 ลูกสูบ  คอยล์จุดระเบิดเสียมีอาการอย่างไร เครื่องยนต์ดับในรอบต่ำ เครื่องยนต์จะชอบดับในเวลาออกตัวหรือในเวลาที่ขับเคลื่อนโดยใช้รอบต่ำ คืออาการอย่างหนึ่งที่บอกว่าคอยล์จุดระเบิดเสียแล้วนั่นเอง เร่งแล้วเครื่องสั่น เวลาเร่งแล้วเครื่องยนต์สั่นกว่าปกติเหมือนจะดับอยู่ตลอดเวลา เป็นอาการที่คอยล์จ่ายไฟได้ไม่เต็มที่หรือเกิดจากคอยล์ที่เสียแล้วนั่นเอง รอบเครื่องยนต์เดินสะดุด เวลาที่จอดสตาร์ทเครื่องอยู่กับที่แล้วพบว่ารอบการทำงานของเครื่องยนต์มีอาการสะดุดไม่ไหลลื่น เหมือนการทำงานขาดหายไปในบางช่วง […]

ก่อนโช๊คอัพพังจะมีสัญญาณเตือนและข้อสังเกตอย่างไรบ้าง 

ก่อนโช๊คอัพพังจะมีสัญญาณเตือนและข้อสังเกตอย่างไรบ้าง 

ในการทำงานของรถยนต์ส่วนหนึ่งที่สำคัญและช่วยเสริมความปลอดภัยในการใช้งานนั่นก็คือระบบช่วงล่างที่ใช้โช๊คอัพเป็นตัวดูดซับแรงกระแทก ถึงจะใช้งานในรุ่นที่มีเกรดดีมากเพียงใด แต่หากขาดการดูแลและใช้งานอย่างไม่ทะนุถนอมก็สามารถเสียหายและเสื่อมสภาพได้เช่นกัน หากต้องการจะทราบว่า ก่อนโช๊คอัพพังจะมีสัญญาณเตือนและข้อสังเกตอย่างไรบ้าง พร้อมกับพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ รวมถึงสิ่งที่ต้องรู้เมื่อเราต้องการเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบกับเรื่องนี้กันครับ  สัญญาณเตือนและข้อสังเกตก่อนโช๊คอัพจะพัง  โช๊คอัพย้วยกว่าปกติ ในเวลาก่อนขึ้นรถยนต์ให้ลองเอามือกดที่บริเวณฝากระโปรงของรถหากพบว่ารถยนต์ เด้งขึ้นเด้งลงกว่าปกติ หรือโช๊คอัพย้วยกว่าเดิมจากการลงน้ำหนักเพียงแค่เล็กน้อยแสดงว่าโช๊คของคุณใกล้จะพังเป็นที่เรียบร้อย โช๊คอัพผิดรูปบิดเบี้ยว หากลองสังเกตด้วยตาแล้วเห็นว่าช่วงล่างมีการคดงอหรือบิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิมให้รีบเปลี่ยนทันทีหากใช้งานต่อจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ทั้งกับตัวท่านเองและผู้ใช้งาน เพราะเป็นการที่โช๊คอัพเสียหายโดยตรงหากได้รับการกระแทกเพิ่มอาจทำให้หักในระหว่างที่ขับอยู่ได้ หากใช้ความเร็วก็จะเป็นอันตรายอยากมาก ห้ามปล่อยไว้แล้วนำไปใช้งานเด็ดขาด  โช๊คอัพมีการรั่วซึม หากโช๊คอัพของคุณมีการรั่วซึมของน้ำมันไหลนองมาที่กระบอกโช๊คแสดงว่าซีบโช๊คแตกจนมีรอยรั่วจนน้ำมันไหลออกมา ซึ่งการทำงานของโช๊คอัพก็จำเป็นต้องใช้การหล่อลื่นของน้ำมันเช่นกันหากขาดไปก็จะทำให้โช๊คอัพทำงานไม่ได้จนเกิดสภาวะโช๊คตายได้ คือไม่มีการตอบสนองใดทั้งยุบและคืนตัว ทำให้แรงกระแทกส่งไปถึงชิ้นส่วนต่างๆมากขึ้น โช๊คอัพไม่มีความร้อน หากหลังจากใช้งานเสร็จแล้วพบว่าโช๊คอัพไม่มีความร้อนเลยยังคงอุณหภูมิปกติ แสดงว่าโช๊คอัพเสียหายและไม่ได้มีการทำงานในระหว่างใช้งาน ให้รีบหาสาเหตุโดยด่วน อาจจะเกิดจากการที่โช๊คอัพขาดน้ำมันหรือปัญหาอื่นๆอีกมากมาย  หน้ายางและดอกยางไม่สม่ำเสมอกัน หากเราสังเกตเห็นว่าหน้ายางและดอกยางมีผิวเป็นบั้งๆ ไม่สม่ำเสมอกัน แสดงว่าโช๊คอัพไม่ได้ทำงานตลอดเวลาหรือมีอาการเสื่อมสภาพแล้ว ออกตัวแล้วหน้าเชิดขึ้นกว่าปกติ หรือเวลาเบรกด้วยความเร็วแล้วหน้ารถทิ่มลงมากกว่าปกติ แสดงว่าโช๊คอัพย้วยไม่คืนตัวเหมือนเดิม เกิดจากการที่โช๊คเสื่อมสภาพหรือโช๊คอัพเกิดความเสียหายแล้ว รถจะไม่ค่อยเกาะถนนเมื่อใช้ความเร็วสูง หากเวลาที่เราใช้ความเร็วสูงแล้วรู้สึกว่ารถของเราร่อนลอยตัวออกจากพื้นหรือโครงเครงมากกว่าปกติเมื่อเจอกับแรงปะทะจากลม แสดงว่าโช๊คอัพเริ่มจะมีปัญหาแล้ว ให้ลดระดับความเร็วลงทันทีเพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายไปมากกว่านี้ หากรถลอยตัวออกจากพื้นถนนที่ความเร็วสูงจะเป็นอันตรายอย่างมากที่สุด เวลาผ่านลูกระนาดจรถเด้งกว่าปกติ เวลาที่รับขับรถขึ้นลูกระนาดหรือขับผ่านทางที่ชำรุดแล้วรถยนต์เด้งมากกว่าปกติหรือไม่เด้งแต่กระโดดเลยแสดงว่าโช๊คอัพเสียหายจนไม่สามารถทำงานได้ จนทำให้ไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้จึงทำให้ย้วยกว่าปกติ หรือถ้าหากโช๊คตายก็อาจจะทำให้รถกระโดดลอยตัวจากพื้นได้เลย หากขับมาไม่เร็วมากก็อาจจะจุกท้องเพียงเล็กน้อยแต่ถ้าหากขับผ่านด้วยความเร็วล่ะก็จะเป็นอันตรายมากๆ เพราะอย่างที่เคยกล่าวไว้ด้านบนหากรถลอยตัวออกจากพื้นถนนที่ความเร็วจะเป็นอันตรายให้กับตัวท่านและผู้อื่นมากที่สุด ซึ่งบางท่านอาจเคยเห็นได้จากข่าวหรือสื่อวีดีโอต่างๆนโลกออนไลน์  พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรขับด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานาน การที่ขับด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานานๆจะทำให้โช๊คอัพทำงานอย่างหนักและด้วยจากสภาพพื้นถนนของประเทศไทยที่ค่อนข้างจะคาดเดายากว่าจะเรียบเนียนไปตลอดหรือหากเจอเนินหรือพื้นที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้โช๊คอัพได้รับแรงกระแทกมากขึ้นอาจทำให้โช๊คอัพเสียหายได้  หลีกเลี่ยงการขับลงหลุมหรือขับบนถนนที่ไม่เรียบ การขับบนถนนที่ไม่เรียบเนียนหรือการขับลงหลุมจะเป็นการสร้างแรงกระแทกให้กับรถยนต์เกินความจำเป็น หากบ่อยเข้าจะเป็นการทำให้โช๊คอัพชำรุดหรือถึงขั้นเสียหายได้ […]

หากรถยนต์มีควันสีขาวเกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

หากรถยนต์มีควันสีขาวเกิดจากสาเหตุอะไร

เชื่อว่าผู้ใช้งานหลายๆท่านต้องเคยพบเห็นรถยนต์ที่มีควันขาวออกมาในระหว่างเครื่องยนต์ทำงาน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นจุดที่บ่งบอกว่าเครื่องยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่า หากรถยนต์มีควันสีขาวเกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร กันอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณในอนาคตได้ ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทั้งแบบที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และ แบบที่ใช้แก๊ส รวมถึงรถยนต์ ดีเซลที่มีควันดำมากเกินกว่าปกติอีกด้วย โดยจะมีรายละเอียดและสิ่งที่หน้าสนใจอย่างไรบ้าง วันนี้ต้องห้ามพลาดกันเลยนะครับ สล็อต pg เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ สาเหตุที่ทำให้เกิดควันขาว เกิดจากการเผาไหม้ไม่หมด ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักเกิดจากเครื่องยนต์เผาไหม้ไม่หมด หรือมีน้ำมันเครื่องหลุดเข้าไปในห้องเผาไหม้ในขั้นตอนการจุดระเบิด จึงทำให้ควันที่ออกมาได้รับการเผาไหม้ไม่ถึงอุณหภูมิที่กำหนด แล้วถูกส่งออกมาสัมผัสกับอาการที่มีอุณหภูมิต่างกันหรือมีความชื้นอยู่ในอากาศมาก จึงทำให้เกิดควันขาวได้ เกิดจากเครื่องหลวม หากชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์หลวมไปก็จะทำให้เกิดควันขาวขึ้นได้ เช่นเสื้อสูบ ลูกสูบ ฝาสูบ ที่ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานานก็อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้ เป็นปกติ ฝาสูบโก่ง หากปล่อยให้เครื่องยนต์ความร้อนขึ้นบ่อยก็จะทำให้ฝาสูบโก่งได้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถพังเร็วกว่าปกติและเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดควันขาวเช่นกัน แหวนลูกสูบหลวม หรือมีการเสียหายเกิดการแตกหัก ก็จะทำให้เกิดควันขาวออกมาได้มากกว่าปกติ ให้รีบแก้ไขโดยด่วน  ปั้มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย ไม่สามรถทำงานได้เหมือนปกติ ก็จะมีน้ำมันเข้ามาหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอจะนำไปสู่การทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆชำรุดจนเกิดควันขาวได้ กรองอากาศอุดตัน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดควันขาวได้เช่นกัน เพราะไม่สามารถกรองอากาศในปริมาณที่ควรจะได้รับ ส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิิภาพ  น้ำมันเครื่องหมดอายุ หรือเสื่อมสภาพ ก็ทำให้เกิดควันขาวได้ เป็นสิ่งที่ต้องหมั่นตรวจเช็คตลอดหาดเกินหรือขาดมากเกินไปเด็ดขาด น้ำมันเครื่องรั่วหยุดลงฝาวาล์ว การที่น้ำมันเครื่องรั่วไหลหยดลงฝาวาล์วที่มีความร้อนสูงอยู่ก็อาจทำให้เกิดควันขาวขึ้นได้  วิธีแก้ปัญหาและป้องกัน เบื้องต้นให้หมั่นตรวจเช็คปริมาณของเหลว น้ำมันเครื่องหรือของเหลวในชิ้นส่วนต่างๆของรถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องหมั่นตรวจเช็คอยู่เป็นประจำเพราะ เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆของรถยนต์ โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องหากขาดไปก็จะส่งผลให้เกิดควันขาวหรืออาจจะร้ายแรงกว่านั้นได้  […]