ถ้าหากพูดถึงชื่อ Mitsubishi Outlander ก็คงจะมีหลายท่านที่คุ้นหูอยู่เป็นไม่น้อย เพราะเป็นรถยนต์ที่มือชื่อเสียงและถูกใช้งานมาอย่างยาวนานในบ้านเรา และ Mitsubishi ก็ยังเป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยในครั้งนี้ทางผู้ผลิตก็ได้ทำการเผยโฉมรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV GT รถยนต์ที่ไม่ยอมแก่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ได้รับการพัฒนาก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยนำระบบปลั๊กอินมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหญ่รุ่นนี้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาในอนาคต โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันครับ
ถ้าหากพูดถึงชื่อ Mitsubishi Outlander ก็คงจะมีหลายท่านที่คุ้นหูอยู่เป็นไม่น้อย เพราะเป็นรถยนต์ที่มือชื่อเสียงและถูกใช้งานมาอย่างยาวนานในบ้านเรา และ Mitsubishi ก็ยังเป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยในครั้งนี้ทางผู้ผลิตก็ได้ทำการเผยโฉมรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV GT รถยนต์ที่ไม่ยอมแก่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ได้รับการพัฒนาก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยนำระบบปลั๊กอินมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหญ่รุ่นนี้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาในอนาคต โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันครับ
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- มีไฟหน้า Projecter Lens Twin แบบ LED
- มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- มีไฟตัดหมอกหน้าแบบฮาโลเจน
- มีไฟเลี้ยวแบบ LED อยู่บริเวณกระจกมองข้าง
- มีกระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
- มีราวหลังคาดีไซน์ใหม่
- มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์
- มีชุดกระจังหน้าที่ออกแบบเป็นรูพรุน เพื่อนำลมไประบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์
- มีชุดกระจังหน้าประดับด้วยพลาสติกโครเมี่ยมและสีดำ Piano Black ทั้งชุด
- มีตัวอักษร Outlender อยู่ด้านหน้าของฝากระโปรงรถ
- มีเสาอากาศทรงครีบฉลาม
- มีมือจับเปิดปิดประตูแบบโครเมี่ยม
- ชายล่างของบานประตู เดินเส้นพลาสติกสีเงินโครเมียม
- ประตูด้านท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- มีล้อแม็กซ์ขนาดรอบวง 18 นิ้ว
- มาพร้อมกับยาง Dunlop SP Sport 5000 ขนาด225/55R18 และยางอะไหล่
- มีไฟท้ายแบบ LED Tail Lights
- มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED
- มีไฟตัดหมอกด้านท้าย
- มีกันชนท้ายใหม่แบบไม่เนอร์เชนจ์
- มีสปอยเลอร์ใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ประตูด้านท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- มีเซนเซอร์ 4 ตำแหน่ง ด้านท้าย
- มีกล้องมองหลังอยู่ที่ด้านซ้ายของกรอบป้ายทะเบียน
- มีสัญลักษณ์ PHEV สีฟ้าสวยงาม
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาวทั้งหมด 4,695 มิลลิเมตร
- มีความกว้างทั้งหมด 1,800 มิลลิเมตร
- มีความสูงทั้งหมด 1,710 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร
- มีระยะห่างล้อคู่หน้า 1,539 มิลลิเมตร
- มีระยะห่างล้อคู่หลัง 1,539 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 190 มิลลิเมตร
- มีน้ำหนักทั้งหมด 1,930 กิโลกรัม
- มีความจุถังเชื้อเพลิงทั้งหมด 45 ลิตร
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
Interior:ภายในรถยนต์
- มีเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทั้งด้านคนนั่งและคนขับ
- มีระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
- มีเบาะทุกตำแหน่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาวตัดกันแบบไดมอนคัต
- มีเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง 3 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย
- เบาะหลังสามารถปรับพับแบบ 40:60:40
- บริเวณเบาะกลางของตอนหลังเป็นที่วางแก้วและที่วางแขนในตัว
- ภายในตกแต่งโทนสีดำ ตกแต่งวัสดุด้วยคาร์บอนหุ้มตามขอบของวัสดุต่างๆ
- มีแผงประตูแบบซอฟต์ทัช เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาวแบบไดมอนคัต
- มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้าน สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น/ลง และเข้า/ออก
- มีเกียร์ Paddle Shift
- มีสวิตช์สำหรับระบบปรับอากาศ ซึ่งเป็นแบบ Dual Zone ปรับแยกอุณหภูมิซ้าย/ขวาได้ และมีฮีทเตอร์เป่าลมร้อนมาให้ ซึ่งเป็นฮีทเตอร์ที่อาศัยเครื่องยนต์ในการช่วยทำความร้อน ดังนั้นเวลาใช้ฮีทเตอร์จำเป็นต้องติดเครื่องยนต์อยู่ตลอด
- มีปุ่มสำหรับเปิด/ปิดระบบเตือนรถในจุดบอดกระจกมองข้างอยู่บริเวณคอนโซลกลางรถ
- มีสวิตช์เปิดใช้ระบบไฟฟ้า 1,500w และปุ่มโหมด Eco อยู่บริเวณคอนโซลกลางรถ
- มีหน้าจอมาตรวัดแบบแยก 2 ฝั่ง ทางด้านซ้ายจะบอกการทำงานของรอบเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ทางด้านขวาจะเป็นเข็มวัดความเร็ว และหน้าจอ Digital ตรงกลางที่บอกรายละเอียดต่างๆของรถยนต์ได้อย่างชัดเจน
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีหน้าจอเครื่องเล่นสั่งการด้วย Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว เป็นหน้าจอสีสามารถแสดงภาพจากกล้องที่ติดอยู่รอบตัวรถได้อย่างชัดเจน
- มีระบบรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน สามารถรองรับ Apply CarPlay และ Android Auto
- มีระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ด้วย Bluetooth
- มีลำโพง 6 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์รถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
Engine:เครื่องยนต์
- ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ เบนซิน 2,400 ซีซี 16 วาล์วทวินแคม มาพร้อมกับระบบแปรผันอากาศ MIVEC ของ Mitsubishi สามารถเรียกแรงม้าได้ 128 ตัวใน 4,500 รอบต่อนาที มากับแรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที เน้นการประหยัดพลังงานและการขับขี่ที่นุ่มนวล รองรับน้ำมันพลังงานทางเลือก E20 ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ AC Synchronous Permanent Magnetic Motor เป็นมอเตอร์ส่งกำลังไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ได้หน้าให้กำลัง 82 แรงม้ากับแรงบิด 137 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ด้านหลังให้กำลัง 95 แรงม้ากับแรงบิด 195 นิวตันเมตร ใช้ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- มีโหมดการทำงานของเครื่องยนต์ให้เลือก 3 รูปแบบ โดยแต่รูปแบบเครื่องยนต์จะมีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- EV Drive Mode คือการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเท่านั้น มีไว้ใช้ในการขับแบบปกติ ในเมือง กดคันเร่งไม่หนัก
- Series Hybrid Mode ก็คือ มอเตอร์ยังทำงานอยู่แต่เครื่องยนต์จะติดขึ้นเพื่อชาร์จไฟ โหมดนี้จะทำงานเมื่อแบตเตอรี่เริ่มอ่อน และทำงานเมื่อคุณกดคันเร่งหนักๆ
- Parallel Hybrid Mode จะทำงานต่อเมื่อใช้ความเร็วสูง 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โหมดนี่จะทำงานด้วยการใช้เครื่องยนต์เป็นหลักและใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหน้าการเสริมกำลัง
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
Suspension : ช่วงล่าง
- ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และโช๊คอัพ
- ส่วนด้านหลังเป็นช่วงล่างอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง และโช๊คอัพ
- ระบบเบรกเป็นแบบ ดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
- มีการเจาะครีบระบายความร้อนให้ในจานเบรกหน้า
Safety:ระบบความปลอดภัย
- มีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
- มีระบบกระจายแรงเบรก EBD
- มีระบบเสริมแรงเบรก BA
- มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC
- มีระบบป้องกันการลื่นไถล ATC
- มีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- มีระบบช่วยลงบนทางลาดชัน HDC
- มีระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้
- มีสัญญาณแจ้งเตือนขณะขับถอยหลัง RCTA
- มีระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM
- มีระบบแจ้งเตือนในจุดอับสายตา BSW
- มีระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องทางจราจร LCA
- มีระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB
- มีระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ACC พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ทำหน้าที่รักษาระดับความเร็ว ตรวจจับท้ายรถคันหน้า พร้อมควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างที่มีความปลอดภัย จนกว่ารถคันหน้าจะหยุดแล้วออกตัว ระบบจะหยุดรถโดยเว้นระยะห่างไว้ และทำการออกตัวตามแบบอัตโนมัติ
- มีระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก Brake Override System
- มีระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ESS
- มีระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว Auto Door Lock by Speed
- มีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Multi Around View Monitor
- มีเซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า – ด้านหลัง
- มีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- คู่หน้า
- ด้านข้าง
- ม่านนิรภัย
- หัวเข่าคนขับ
จุดเด่นของรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
จุดเด่นของรถยนต์คันนี้คือรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาและสมรรถนะการขับขี่ แต่ยังเป็นรถที่มีลูกเล่นในตัวให้เลือกหลากหลายมาก เพราะมีโหมดต่างให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยจะมีโหมดอะไรบ้าง เราไปดูกันครับ
Battery Control (ปุ่มข้างซ้ายของมาร์กโชว์ตำแหน่งเกียร์) มีปุ่มเดียว แต่กด 1 ครั้งหรือ 2 ครั้งได้ผลต่างกัน แสดงผลบนหน้าปัด
- SAVE – ก็ตามชื่อเลยระบบจะช่วย Save พลังงานให้กับแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานที่สุด
- CHARGE – พอใช้งานระบบนี้ ระบบจะทำการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ในระหว่างที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน
EV Mode (ปุ่มข้างขวาของมาร์กโชว์ตำแหน่งเกียร์)
- เป็นระบบที่จะใช้ไฟฟ้า 100 % ในการขับเคลื่อนรถยนต์ สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในโหมดนี้ใน และสามารถวิ่งได้ถึง 55 กิโลเมตร หากชาร์จไฟแบตเตอรี่มาจนเต็ม แต่ถ้าเรากระแทกคันเร่ง ระบบ จะตัดกลับมาใช้เครื่องยนต์อัตโนมัติ
TWIN MOTOR 4WD Selector เอาไว้ควบคุมการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ S-AWC
- NORMAL – ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะจัดการแบ่งกำลังล้อหน้าและหลังตามปกติ โดยตัวรถจะคุมการแบ่งกำลังล้อหน้าและหลังด้วยพลังจากมอเตอร์ และแบ่งกำลังซ้าย-ขวาด้วยระบบแยกจับเบรกซ้ายและขวา ซึ่งโดยปกติรถจะเซ็ตการส่งกำลังไว้ล้อหน้าและหลังเท่ากัน เวลากดคันเร่งหลังติดเบาะจะถ่ายแรงขับมาล้อคู่หลัง และเวลาเบรกหนักจะถ่ายไปล้อข้างหน้า
- SNOW – ระบบจะส่งกำลังไปล้อหลังมากกว่าหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อการบังคับควบคุมรถบนทางลื่นได้ดีที่สุด
- LOCK – ปรับการส่งกำลังให้อยู่ในอัตราส่วนล้อหน้าและหลังให้อยู่ที่ 50:50 เกือบตลอด แต่อย่าไปคิดว่ามันจะทำงานเหมือนเกียร์ 4L นะครับ เพราะไม่มีเพลากลาง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือการสั่งงานของระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น บางครั้งก็อาจจะหลุดจาก 50:50 ได้ถ้า ECU สั่ง
DRIVE Mode Selector
- SPORT – ปุ่มอยู่ที่หลังสวิตช์ Twin Motor 4WD เมื่อกดแล้ว คันเร่งจะตอบสนองดุดันขึ้น ระบบ S-AWC (Super All Wheel Control) จะส่งกำลังแบ่งไปด้านล้อหลังและหน้าแบบก้าวร้าวมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเวลาเหาะเข้าโค้ง ถ่ายกำลังไปหลังมากขึ้นและสั่งจับเบรกล้อวงในหนักขึ้น พอออกจากโค้งกระแทกคันเร่ง ก็ถ่ายกลับเป็น 50:50 ไวขึ้น
- ECO mode – ปุ่มอยู่ที่คอนโซลกลางตอนล่าง ปรับคันเร่งให้ทำงานนุ่มนวลมากขึ้น ลดการใช้ไฟฟ้าส่วนที่ไม่จำเป็นลง
สรุปรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV GT
รถ SUV ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่มีรูปร่างใหญ่ดูแข็งแกร่งทนทาน เหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันหรือจะใช้ในการเดินทางไกลก็เป็นอีกหนึ่งคันที่คุ้มค่า เป็นรถยนต์ที่เน้นการใช้งานมากกว่ารูปร่างหน้าตาที่ในปัจจุบันมีรถรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่มาให้เลือกอย่างมากมาย รถยนต์คันนี้จึงมักจะเป็นที่ถูกใจของผู้ใช้งานที่ค่อนข้างมีอายุที่รักการเดินทางเป็นครอบครัว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลด้วยความที่เป็นรถปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งทำงานผสมกันระหว่างน้ำมันและไฟฟ้า ทำให้รถยนต์คันนี้มีระยะการเดินทางที่ไกลมากขึ้นแถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัวอีกด้วย พร้อมมั่นใจไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถพาคุณผ่านอุปสรรคได้แม้เจอเส้นทางที่อยากลำบาก และ ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีเซนเซอร์ตรวจจับมาให้รอบคันรถที่จะคอยตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามายังจุดอับสายตา เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยได้มากในปัจจุบัน
รถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV มีทั้งหมด สี
- สีขาว White Diamond
- สีเงิน Sterling Silver
- สีดำ Jet Black Mica
ราคารถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV
รถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV GT ราคา 1,640,000 บาท
รถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV GT Premium ราคา 1,749,000 บาท
Link ซื้อรถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV
https://www.mitsubishi-motors.co.th
Youtube Review รถยนต์ : Mitsubishi Outlander PHEV
อย่างไรก็ตามในบ้านเราอาจจะยังไม่เป็นที่สะดวกมากนัก เนื่องจากจุดจ่ายไฟที่ยังมีไม่มากพอและในบางทีก็มีราคาสูงจึงยังไม่ได้เป็นการประหยัดกว่าการใช้น้ำมันแต่อย่างใด จึงทำให้ Mitsubishi Outlander PHEV GT รถยนต์ที่ไม่ยอมแก่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด คันนี้ยังได้เปรียบมากกว่าอยู่ในเวลานี้ เพราะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้น้ำมันหรือพลังงานไฟฟ้า ทำให้ไม่ต้องกังวลหากใช้พลังงานไฟฟ้าแล้วเกิดแบตเตอรี่หมด ก็เพียงแค่สลับไปใช้น้ำมันเท่านั้นเองครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน ขอขอบคุณทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านบทความของเราในครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ mywonderwheel
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ
