ในการใช้รถยนต์ในแต่ละวันจำต้องขับลุยแดดลุยฝนมาเป็นเวลานานๆอาจทำให้สีเกิดเสื่อมสภาพได้ หรือต้องการทำสีทับลอยถลอกบนชิ้นส่วนต่างๆ โดยเราพาทุกท่านไปดูกันว่าหาก อยากทำสีรถใหม่ ควรเลือกใช้สีแบบไหนดีที่สุด ให้อยู่ทนทานกับรถยนต์ของเรา โดยสีที่ใช้พ่นรถยนต์นั้นก็จะมีหลายเกรดหลายประเภท จึงทำให้การเลือกใช้สีต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน และงบประมาณในการทำด้วย แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องสีเลย วันนี้เราจะมาแบ่งประเภทและคุณสมบัติต่างๆของสีที่ใช้ เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ และไว้ป้องกันในเวลาที่ไปเจออู่หรือร้านรับทำสีที่มักจะบอกเราไม่หมดทุกเรื่อง
สีที่ใช้ทำรถยนต์ มี 3 ประเภท
- สี 1K คือสีที่มี 1 องค์ประกอบ โดยประกอบด้วยตัวสีเพียงอยากเดียว ส่วนมากจะนำมาใช้ผสมกับตัวนำละลาย เช่นทินเนอร์ เมื่อเวลาที่สีแห้งแล้วตัวนำละลายจะระเหยออกไปจนหมดเหลือเพียงฟิล์มสีที่แห้งเกาะกับตัวรถ ซึ่งสีประเภทนี้จะมีทำแบบแห้งช้าและแห้งเร็วขึ้นอยู่กับชนิดของสี
- สี 1K ซินเทติกอีนาเมล หรือสีน้ำมันที่รู้จักกัน จะเป็นแบบแห้งตัวช้าโดยแห้งตัวจากการที่สารเคมีเกิดปฏิกิริยากับระดับออกซิเจนในอากาศ (Oxidation)
- สี 1K ไนโตรเซลลูโลส เป็นสีแบบแห้งตัวเร็วส่วนมากจะใช้ผสมกับตัวนำละลาย และแห้งตัวจากสารตัวทำละลายที่ผสม เช่น ทินเนอร์
- สี 1K อะคริลิคหรือสีอะคริลิค จะเป็นแบบแห้งตัวเร็วจากสารนำละลายเช่นกัน
- สี 2K เป็นสีประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสีเดิมโรงงานมาก ซึ่งเป็นสีที่มี 2 องค์ประกอบ ระหว่างสีกับตัวเร่งปฏิกิริยา (Hardener หรือ Activator) ที่ต้องนำมาผสมกันตามอัตราส่วนที่กำหนด เพื่อทำให้เกิดการแห้งตัว โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้จะเป็นสารไซโอไซยาเนท ที่ต้องผสมตามอัตราส่วนที่บริษัทกำหนด โดยสีชนิดนี้หลังจากที่แห้งตัวแล้วจะให้ความแข็งแรงของชั้นฟิล์มที่สูงกว่าประเภทแรก ทนทานต่อคราบน้ำมันเบนซิน,ดีเซล และคราบน้ำมันเครื่องได้ดี รวมถึงสารเคมีต่างได้ จะไม่ทำให้สีเกิดความเสียหาย โดยมีคุณสมบัติที่ทนทานแสงแดดได้ดี คงสภาพเหมือนใหม่ไม่ซีดจางง่าย ให้ความเงางามและมีเนื้อสีมาก มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับสีเดิมโรงงานแบบ OEM เลย แต่มีราคาและค่าบริการที่ถูกกว่า
- สี OEM หรือสีอบเทคโนโลยีที่ใช้ในโรงงานผลิตรถยนต์ สีชนิดนี้จะมีสีเป็นส่วนประกอบเดียว แต่อาจนำมาผสมกับตัวทำละลายเพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้น โดยสาเหตุหนึ่งที่อู่นอกไม่ค่อยใช้กัน เพราะต้องอบที่อุณหภูมิ 120-160 องศาเซลเซียส ที่ต้องใช้พื้นที่และอุปกรณ์หลายอย่าง โดยคุณสมบัติของสีประเภทนี้เมื่อเวลาแห้งแล้ว จะมีชั้นฟิล์มสีที่แข็งแรงมากคุณภาพของชั้นฟิล์มจะดีกว่าเดิม มีเนื้อสีที่นวลนุ่ม ป้องการสารเคมี,น้ำมันรถ,น้ำมันเบรก,น้ำมันเครื่องได้ดีทำความสะอาดง่ายไม่เป็นคราบติด รวมถึงทนทานต้องแสงแดดไม่ซีดจาง คงสภาพเหมือนใหม่เป็นระยะเวลานานมากๆ
ปัญหาที่เกิดขึ้นและข้อควรระวังในการทำสีรถ
ในการทำสีรถยนต์แต่ละครั้งควรเลือกอู่ที่ได้มาตรฐานและสามารถไว้ใจได้ ไม่งั้นอาจเกิดปัญหาตามมาหลังทำสีได้ เช่น สีแตกลาย สีย่นบวมนูนขึ้นมา ไม่เรียบเนียน แก้ยังไงก็ไม่หาย จะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งส่วนมากก็จะเกิดจากการที่ช่างทำงานไม่เรียบร้อยเช่น
- สีที่หนาเกินไปเกิดจากการที่ช่างรีบพ่นสีทับจุดเดิมตอนที่ยังทิ้งช่วงเวลาไม่มากพอ จึงทำให้ชั้นสีหนาและย่นได้
- เกิดจากการโป๊วพลาสติกที่มีความชื้นมากเกินไป เมื่อพ่นสีทับจึงทำให้สีเกิดการพองตัวเป็นปุ่มๆ
- เกิดจากใช้สีผิดชนิดกันกับสีเดิม การพ่นสีที่มีเฉดสีต่างกันก็หายนะแล้วแต่การที่ใช้สีคนละชนิดกันนั้นยิ่งกว่าหายนะซะอีก
- เกิดจากสารเคมีนำละลายที่ใช้เสื่อมสภาพหรือหมดอายุเช่น ทินเนอร์ หรือ แลคเกอร์
- อาการแตกลายงา เกิดจากการโป๊วเก็บลอยไม่เรียบเนียน ทางแก้ไขคือลอกใหม่และต้องทำผิวให้เรียบเนียนใหม่อีกครั้ง
วิธีการดูแลรักษาสีรถให้คงสภาพเหมือนใหม่หลังทำสีเสร็จ
- ให้ล้างรถด้วยน้ำเปล่า โดยไม่ใช้ผงซักล้างใดๆ ในช่วงหนึ่งเดือนแรก เพราะจะทำให้ไปทำลายสีรถโดยตรงได้
- ล้างรถยนต์ด้วยแรงดันน้ำปกติ ไม่ควรเอาเข้าไปล้างอัดฉีด เพราะการยึดเกาะของชั้นสียังไม่แห้งสนิท โดยจะเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน ถ้าโดนแรงดันน้ำแรงๆอาจทำให้สีส่วนที่ทำมาเคลื่อนตัวหรือลอกออกได้ หลังจากล้างด้วยน้ำปกติแล้วให้ใช้ผ้าชามัวร์เช็ดให้แห้ง ให้เช็ดเบาๆอย่างระมัดระวัง
- ละเว้นการขัดเคลือบสี ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 1-3 เดือน ตามสภาพอากาศในช่วงนั้น ยิ่งถ้าเป็นฤดูร้อนก็จะทำให้สารละลายแห้งได้เร็วและสียึดเกราะได้คงที่เร็วขึ้น หลังจากนั้นค่อยไปเคลือบสีหรือใช้ Wax อีกครั้งก็ไม่เสียหาย ดีกว่าทำไปแล้วสีเคลื่อนไปต้องมาลอกทำสีใหม่เสียทำเวลาและเงินในกระเป๋าเพิ่มอีก
สุดท้ายนี้การเลือกทำสีในแต่ละครั้งควรต้องเลือกร้านให้ดีดูจากผลงานและความพึงพอใจของลูกค้าที่ทำด้วย เพราะในการทำสีแต่ละครั้งใช้ระยะเวลานาน เว็บสล็อตแตกง่าย 2021 ไม่ผ่านเอเย่นต์ ถ้าผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวก็ต้องมาเริ่มใหม่กันหมด จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว หวังว่าบทความ อยากทำสีรถใหม่ ควรเลือกใช้สีแบบไหนดีที่สุด ในครั้งนี้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้ใช้งานรถยนต์ทุกท่านนะครับ แล้วพบกันในบทความเรื่องต่อไปนะครับ สวัสดีครับ mywonderwheel
