แม้ Nissan GT-R รุ่นปัจจุบัน ในรหัสตัวถัง R35 จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 แต่บริษัทยังลากขายมาจนถึงปัจจุบัน โดยแต่ละปีจะมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปีนี้เช่นกันที่มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นญี่ปุ่นรุ่นปี 2025 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2024 มีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่น GT-R และ NISMO GT-R ส่วนความพิเศษที่เพิ่มมาคือเพลทเครื่องยนต์อะลูมิเนียม สลักชื่อคนประกอบด้วยมือในสีแดง และเพลทตัวถังสีทองในห้องเครื่อง บทความ Nissan GT-R Model 2025 กับการอัพเกรดอัตราเร่งของเครื่องยนต์ให้แรงกว่าเดิมพร้อมเพิ่มสีใหม่อย่าง Blue Heaven ที่สื่อถึงชื่อ Skyline เข้ามา เรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่น ที่มีการเผยโฉม GT-R ปี 2025 ด้วยชุดแต่ง Nismo Goodies สำหรับในรุ่น Premium Edition T-Spec และ Track Edition นอกจากนี้ยังมี Option ภายในใหม่สี Blue Heaven เพิ่มให้ในรุ่น Premium Edition T-Spec แน่นอนว่ามีข่าวลือออกมาหนาหูว่า Nissan GT-R ปี 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ R35 ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2007 เพราะหลายคนตั้งข้อสังเกตุว่า ไม่มีการอัพเดทภายนอกแต่อย่างใด รวมถึงมีเพียงแค่การนำเสนอชุดแต่งออกมาเท่านั้น
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- สำหรับในโมเดลใหม่ปี 2025 นี้ จะมาพร้อมตัวเลือกภายในกับเฉดสีใหม่ ที่เป็นสีฟ้า Blue Heaven นอกจากนั้นยังเสริมความพิเศษด้วยป้ายชื่อ “Takumi” ที่เป็นตัวอักษรสีแดง บ่งบอกว่าใครจะเป็นผู้สร้างตัวแรงคันนี้ไว้ที่ตัวตัวเครื่องยนต์ รวมทั้งยังติดแผ่นป้ายระบุหมายเลขแชสซี ที่มาในแผ่นเพลทสีทองสุดพิเศษ สำหรับในรุ่น Premium Edition T-spec และ Track Edition เส้นสายงานออกแบบภายนอกและภายในยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยยกชุดมาจาก Model Year 2024
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มิติตัวถัง ยาว x กว้าง x สูง : 4,710 x 1,895 x 1,370 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,780 มิลลิเมตร
- ระยะห่างล้อหน้า-หลัง : 1,590 / 1,600 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearence : 110 มิลลิเมตร
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.27
- น้ำหนักตัวรถ 1,770 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 74 ลิตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 315 ลิตร
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
Interior:ภายในรถยนต์
- ดีไซน์การออกแบบภายในของโฉม Premium Edition ยังใช้เส้นสายแบบเดียวกับตัวโฉมก่อน แต่จะสามารถเลือกสีภายในสีฟ้า Blue Heaven ได้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นสีใหม่ที่สื่อถึงท้องฟ้าเหมือนดั่งชื่อรุ่นต้นตำหรับอย่าง Skyline นั่นเอง ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ก็ยังคงดีเทลเดิมเอาไว้ทั้งหมดตั้งแต่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พวงมาลัย GT-R พร้อม Paddle Shift แต่ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะยังคงเดิม แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ คือภายในสีฟ้า Blue Heaven นี้เป็นอะไรที่สวยงามลงตัวมาก ๆ เลย ไม่แน่อาจจะเกิดเทรนด์ใหม่ขึ้นมาอีกก็ได้
- เบาะนั่ง Bucket Seat หุ้มด้วยหนัง Nappa สีฟ้า Blue Heaven ทั้ง 4 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีหน้าจอระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 8 นิ้ว มีชุดเครื่องเล่น รองรับระบบ FM/AM และ MP3 มีลำโพง 11 ตัวจาก BOSE พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง มีระบบเชื่อมต่อ Smartphone รองรับ Apple Car Play และ Android Auto มีระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth มีช่องเชื่อมต่อ USB มีช่องเชื่อมต่อ AUX มีช่องเชื่อมต่อ SD Card มีระบบนำทาง Navigation System
เครื่องยนต์รถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
Engine:เครื่องยนต์
- ไฮไลท์อยู่ที่การอัพเกรดชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ของรุ่นย่อย Premium Edition T-Spec และ Track Edition (รุ่นพร้อมลงสนามปรับแต่งโดย NISMO แต่งไม่ใช่รุ่น NISMO แบบ complete car) เริ่มต้นด้วยแหวนบาลานซ์ลูกสูบที่ถูกผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีความละเอียดสูง ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งแต่เดิมชิ้นส่วนเหล่านี้จะถูกติดตั้งลงในเครื่องยนต์ในเวอร์ชั่น NISMO Special Edition เท่านั้น เพื่อให้เครื่องยนต์ V6 รหัส VR38DETT สามารถเร่งรอบได้ไวขึ้นและเพิ่มอัตราการตอบสนองของเทอร์โบ ยิ่งไปกว่านั้นทั้ง 2 รุ่นย่อยยังมาพร้อมแผ่นเพลทอะลูมิเนียมบ่งบอกความพิเศษหรือ “Takumi” certified ผู้รับผิดชอบการพัฒนาเครื่องยนต์บล๊อคนี้
- ขุมพลังยังคงเลือกใช้บริการเครื่องยนต์เบนซิน รหัส VR38DETT V6 ขนาด 3.8 ลิตร 3,799 ซีซี. Twin-Turbo 24 วาล์ว กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 95.5 x 88.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 573 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 637 นิวตัน-เมตร ที่ 3,300 – 5,800 รอบ/นาที ขณะที่เวอร์ชั่น NISMO ถูกอัพเกรดให้มีพละกำลัง 608 แรงม้า (PS) จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ GR6 ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
Safety:ระบบความปลอดภัย
- ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Aluminum Space Frame น้ำหนักเบาแข็งแรงทนทาน พร้อมรองรับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ พร้อม คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช๊คอัพจาก Bilstein Damp Tronic มีระบบ กันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link พร้อม คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช๊คอัพจาก Bilstein Damp Tronic มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็น ดิสก์เบรก มีจานเบรกขนาด 390 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรก 6 Pot สีแดง มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็น ดิสก์เบรก มีจานเบรกขนาด 380 มิลลิเมตร มาพร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 Pot สีแดง ส่วนในเรื่องของเทคโนโลยีก็เรียกได้ว่าจัดเต็มเช่นเคยไม่มีส่วนไหนคาดหายไป แต่จะปรับปรุงในเรื่องของกล่องสมองกล ECU ให้รองรับกับอัตราเร่งที่รวดเร็วขึ้น เพื่อนให้ระบบควบคุมอัตราเร่งต่าง ๆ ทำงานได้สอดคล้องกันเต็มประสิทธิภาพเช่นเคย
สรุปรถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
- ในส่วนของการอัพเกรด Nissan GT-R 2025 มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยสำหรับในรุ่น Premium Edition T-Spec และ Track Edition ซึ่งก็คือมีการปรับเปลี่ยนวงแหวนลูกสูบให้มีน้ำหนักที่สมดุลยิ่งขึ้น รวมถึงก้านสูบและเพลา ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะในรุ่น Nismo Special Edition เท่านั้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ V6 สามารถทำรอบได้เร็วขึ้นรวมถึงช่วยให้ Spooling เทอร์โบได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยมีการสลักแผ่นอะลูมิเนียมที่มีชื่อของวิศวกร “Takumi” ผู้ซึ่งเป็นคนพัฒนาและอัพเกรดเครื่องยนต์ Nissan GT-R 2025 ใหม่ คันนี้นั่นเอง
รถยนต์ Nissan GT-R Model 2025 มีทั้งหมด 8 สี
สีเขียว Millennium Jade
สีม่วง Midnight Purple
สีเงิน Super Silver
สีขาว Strom White
สีเทา Gun Metallic
สีดำ Pearl Black
สีเขียว Nur II
สีฟ้า Blue Heaven
ราคารถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
สำหรับ Nissan GT-R มีให้เลือกทั้งหมด 8 รุ่นย่อย ได้แก่
- รถยนต์ Nissan GT-R Pure Edition
- รถยนต์ Nissan GT-R Black Edition
- รถยนต์ Nissan GT-R Premium Edition
- รถยนต์ Nissan GT-R Premium Edition T-spec
- รถยนต์ Nissan GT-R Track Edition engineered by NISMO
- รถยนต์ Nissan GT-R Track Edition engineered by NISMO T-spec
- รถยนต์ Nissan GT-R NISMO
- รถยนต์ Nissan GT-R NISMO Special Edition
ซึ่งทั้งหมดนี้ มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 14,443,000 เยน หรือประมาณ 3,484,691 บาท ไปจนถึง 30,613,000 เยน หรือประมาณ 7,385,751 บาท ในรุ่นท๊อป GT-R Nismo Special Edition ไม่รวมภาษีนำเข้า และจะพร้อมส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2024 นี้ โดยอาจจำกัดจำนวนไว้เพียงแค่ 1,500 คัน
Link ซื้อรถยนต์ : Nissan GT-R Model 2025
บทบาทก้าวต่อไปของ Nissan GT-R ก็ยังคงถูกจับตามอง ล่าสุดในงาน Japan Mobility Show ได้มีการนำเอารถยนต์ GT-R พลังงานไฟฟ้าภายใต้แนวคิด Nissan Hyper Force ออกมาโชว์สู่สาธารณะ แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ทางค่ายจะเดินหน้าสู่เส้นทางการผลิตจริงต่อไป โดยมีการแถลงภายในงานออกมาเป็นนัยๆ ว่าคุณอาจจะได้เห็น Nissan GT-R พลังงานไฟฟ้านี้ก่อนสิ้นทศวรรษก็เป็นได้ ซึ่งเราก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่าทาง Nissan มีทิศทางกับรถ Nissan GT-R Model 2025 กับการอัพเกรดอัตราเร่งของเครื่องยนต์ให้แรงกว่าเดิมพร้อมเพิ่มสีใหม่อย่าง Blue Heaven ที่สื่อถึงชื่อ Skyline เข้ามา คันนี้ ที่เปรียบเสมือนตำนานของแบรนด์อย่างไร ขณะที่ในด้านการผลิตของก็อตซิลล่า รุ่นปี 2025 นี้ทาง นิสสัน ยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนการผลิตออกมา ว่าจะมีจำนวนเท่าใด แต่สื่อจากแดนปลาดิบญี่ปุ่นเผยว่าทาง Nissan Motor อาจจะสร้าง GT-R รุ่นทิ้งทวนนี้ออกมาเพียง 1,500 คันเท่านั้น แต่สำหรับแฟน ๆ ที่รอคอย GT-R Model ใหม่อย่าง R36 ก็ต้องอกหักกันไปก่อนนะ เพราะ Nissan ยังคงมีโปรเจคให้กับโมเดลนี้อยู่เรื่อย ๆ จริง ๆ
