การเลือกเพื่อนร่วมเดินทางสักคันนั้นอาจจะต้องใส่ใจในรายละเอียดกันสักหน่อย นอกจากความชื่นชอบในรูปทรงภายนอกของบิ๊กไบค์แล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการบิ๊กไบค์คู่ใจ ต้องห้ามพลาดบทความ สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อ Bigbike สำหรับมือใหม่ รวมถึงวิธีการเลือกบิ๊กไบค์ให้เหมาะสมกับตัวผู้ขี่มากที่สุด เรื่องนี้ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับบิ๊กไบค์มีมากมาย โดยแต่ละแหล่งข้อมูลก็ให้คำแนะนำที่ต่างกันไป จึงอาจทำให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาและกำลังตัดสินใจซื้อบิ๊กไบค์คันแรกหลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มเลือกบิ๊กไบค์อย่างไรดี ซึ่งความจริงแล้วการเลือกบิ๊กไบค์ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ อยู่เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นครับ
สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับ Bigbike สำหรับมือใหม่
- รูปร่างหน้าตาสุดเท่ มิติรถที่ใหญ่โต และพละกำลังของรถบิ๊กไบค์ ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้หลายๆคนเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่วงการรถบิ๊กไบค์ แต่ด้วยขนาดของรถบิ๊กไบค์ที่ใหญ่กว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป และน้ำหนักที่มากกว่าอย่างน้อย 2 – 3 เท่าตัว รวมถึงพละกำลังมากมาย ทำให้ต้องอาศัยทักษะการขับขี่ที่มากกว่าปกติ ดังนั้น ในช่วงแรกของไบค์เกอร์มือใหม่ การควบคุมรถอาจเป็นปัญหา และอุปสรรคข้อแรก ๆ ตอนหัดขับอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องขับขี่ในเมือง ซึ่งต้องอาศัยการเคลื่อนตัวรถไปอย่างช้า ๆ เพื่อความปลอดภัย ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเมื่อเทียบกับการควบคุมรถในความเร็วปกติ และอาจทำให้มือใหม่หลาย ๆ คนลำบากใจเลยทีเดียว แต่รับรองว่าความกังวลเหล่านั้นจะอยู่กับคุณไม่นาน เพราะเมื่อเราขับขี่บ่อย ๆ จะทำให้เกิดความชำนาญได้ และปัจจุบันก็มีสถาบันมากมายที่รองรับการฝึกหัดขับรถบิ๊กไบค์ เพื่อสร้างทักษะการขับขี่อย่างถูกต้องเพื่อให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ รถบิ๊กไบค์ที่จำหน่ายในท้องตลาดต่างแข่งขันกันเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ได้ประโยชน์ส่วนนี้ไปด้วย จึงกล่าวได้ว่า หากหมั่นฝึกฝนบ่อย ๆ คุณก็สามารถควบคุมบิ๊กไบค์ได้ไม่ยาก และขับขี่ช้าเร็วได้ตามต้องการครับ
วิธีการเลือก Bigbike สำหรับมือใหม่
- เลือกจากความจุกระบอกสูบของบิ๊กไบค์
ความจุกระบอกสูบโดยทั่วไปจะใช้เป็นหน่วยลูกบาศก์เซนติเมตร หรือเรียกกันว่า cc เช่น รถเครื่อง 500 cc เป็นต้น โดยแต่ละประเทศจะมีการกำหนดขนาดของเครื่องยนต์บิ๊กไบค์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ใช้กันโดยทั่วไปสำหรับบ้านเรา มักจะเรียกรถบิ๊กไบค์ในเครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบที่ 400 cc ขึ้นไป ทั้งนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสมในการจำกัดความบิ๊กไบค์ด้วยขนาดความจุกระบอกสูบต่าง ๆ อยู่ครับ ปัจจุบันแต่ละค่ายรถมีการแตกย่อยรุ่นต่าง ๆ ตามขนาด cc เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งาน ตั้งแต่ 400 – 1200 cc การเริ่มต้นขับขี่บิ๊กไบค์ด้วย cc ที่ไม่มากนักอาจจะเป็นคำตอบที่ดีในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากจะสามารถปรับตัวเข้ากับรถได้ง่าย เมื่อมีทักษะการควบคุมรถที่ดีมากขึ้น จึงขยับไปใช้รุ่นที่มี cc สูงขึ้นก็ยังไม่สายเกินไป เพราะโดยทั่วไปแล้วหลาย ๆ คนที่มีบิ๊กไบค์ ก็มักจะไม่ได้จบอยู่ที่คันเดิมอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่จะมีการขยับ cc สูงขึ้น เปลี่ยนไปใช้รถสไตล์ใหม่ ๆ หรือพัฒนาไปใช้รุ่นที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ปลอดภัยและช่วยสร้างความสนุกในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
- เลือกจากเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ เมื่อคุณคิดว่ารถ 300 cc เป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณแล้ว คุณอาจต้องคิดต่อว่ารถ 300cc แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ เนื่องจากเอกลักษณ์ของรถในแต่ละยี่ห้อ มีการเลือกใช้รูปแบบเครื่องยนต์ที่ต่างกันออกไป ตั้งแต่ 1 – 4 ลูกสูบ ซึ่งจะให้อารมณ์ในการขับขี่ เสียงท่อ เสียงเครื่องยนต์ รวมถึงอัตราเร่งในรูปแบบที่แตกต่างกัน
- เครื่องยนต์ 1 สูบ จะให้พละกำลังอย่างจัดจ้านในช่วงออกตัว หรือรอบเครื่องยนต์ต่ำ ๆ เรียกได้ว่า “บิดเป็นมา” โดยมีเสียงเครื่องยนต์ลักษณะเป็นลูก ๆ จากกำลังอัดของลูกสูบขนาดใหญ่ แต่ต้องแลกมาด้วยอัตราเร่งรอบปลายหายไป และการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ที่มากกว่าเครื่องยนต์รูปแบบอื่น ๆ
- เครื่องยนต์ 2 สูบ จะช่วยทดแทนอาการรอบปลายที่หายไป ด้วยเครื่องยนต์ที่มีความนุ่มนวล เสียงลักษณะเป็นลูก ๆ แต่ฟังแล้วนุ่มนวลกว่าเครื่องยนต์ 1 สูบ ซึ่งแลกมาด้วยพละกำลังในช่วงต้นหายไปเล็กน้อย ถือว่าเป็นรูปแบบเครื่องยนต์กลาง ๆ รอบต้นพอได้ รอบปลายก็พอมีครับ
- เครื่องยนต์ 4 สูบ รายละเอียดจะแตกต่างกับเครื่องยนต์รูปแบบ 1 สูบอย่างสิ้นเชิง ทำให้ข้อดีของเครื่องยนต์ประเภทนี้คือ อัตราเร่งในรอบปลายที่จัดเต็ม พร้อมกับการบิดลากรอบเครื่องยนต์ได้อย่างสะใจ รวมถึงซุ่มเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกใจวัยรุ่นบ้านเราเป็นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าพละกำลังในช่วงต้นจะหายไป ทำให้ต้องรักษารอบในการขับขี่ไว้ตลอดเวลา เพื่อให้อันตราเร่งของเครื่องยนต์เกิดความต่อเนื่องขณะขับขี่
- เลือกจากประเภทบิ๊กไบค์ที่ชื่นชอบ การเลือกสไตล์ของรถก็มีความสำคัญในการตัดสินใจเลือกรถบิ๊กไบค์สักหนึ่งคันด้วยเช่นเดียวกัน ในปัจจุบันมีการออกแบบรถให้มีหลากหลายสไตล์มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยอาจแบ่งประเภทของรถได้ออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- ประเภทรถสปอร์ต (Sport) เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา เนื่องจากมีลักษณะรูปร่างใกล้เคียงกับรถแข่งในสนามที่เห็นในรายการแข่งขัน Motor Sport ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว แรง ดูโฉบเฉี่ยว นอกจากนี้ในบางรุ่นยังมีการนำเอาระบบเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการแข่งขันติดตั้งมาให้ เพื่อเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วย
- ประเภทเน็คเก็ต (Naked) มีลักษณะเครื่องยนต์ ตัวถัง ใกล้เคียงกับรถสปอร์ต แต่จะใช้แฮนด์บาร์ และไม่มีชุดสีครอบด้านหน้า ทำให้สามารถขับขี่ในช่วงที่การจราจรแออัดได้ดีกว่ารถสไลต์สปอร์ต และมีวงเลี้ยวแคบกว่า จึงทำให้รู้สึกว่ารถประเภทนี้ขับขี่ง่ายอีกด้วย แต่หากต้องขับขี่ทางไกลจะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้าจากแรงลมที่เข้ามาปะทะร่างกายไม่น้อยครับ
- ประเภททัวร์ริ่ง (Touring) เป็นรถที่เหมาะสำหรับเดินทางไกล สามารถขับขี่ได้นาน ๆ โดยไม่เมื่อยล้ามาก ดังนั้นรถจึงถูกออกแบบให้นั่งหลังตรง มีบังลมด้านหน้ารถ มีเบาะขนาดใหญ่ และมาพร้อมกับช่วงล่างที่นุ่มนวล แต่ด้วยการออกแบบรูปทรงและการใช้งาน รถสไตล์นี้มักจะไปถูกใจรุ่นใหญ่มากกว่าวัยรุ่น ที่เน้นความเร้าใจในการขับขี่เป็นหลัก
- ประเภทครุยเซอร์ (Cruiser) หรือบ้านเรามักคุ้นหูในชื่อ “ช็อปเปอร์” โดยจะเป็นรถที่มีการออกแบบรูปลักษณ์ที่โดดเด่นกว่ารถประเภทอื่น เน้นความสวยงามเป็นหลัก มักจะออกแบบให้มีเบาะนั่งต่ำ ๆ แฮนด์บาร์แบบยกสูง การวางเท้าเยื้องไปด้านหน้า โดยรถประเภทนี้จะเป็นรถเฉพาะกลุ่ม เน้นการนำรถไปตกแต่งตามไลฟ์สไตล์เจ้าของรถคันนั้น เรียกได้ว่าเมื่อเห็นรถคันนั้นแล้ว จะทำให้คุณพอเดาได้เลยเจ้าของรถคันนั้นจะแต่งตัวแบบไหน มีลักษณะความชื่นชอบอย่างไร ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากถ่ายทอดความเป็นตัวเองลงไปในรถคู่ใจครับ
นอกจาก 4 ประเภทข้างต้นแล้ว ในปัจจุบันยังมีการออกแบบรถที่หลากหลายกว่านี้อีกมากมาย เช่น บิ๊กสกูตเตอร์ หรือโมโตครอส ทำให้เรามีตัวเลือกเพิ่มขึ้นและสามารถเลือกบิ๊กไบค์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดได้ครับ
- เลือกบิ๊กไบค์ สําหรับมือใหม่จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
สำหรับรถบิ๊กไบค์ เมื่อซื้อรถมาแล้วก็จะต้องมีการบำรุงรักษา จึงแนะนำว่าควรคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ประสิทธิภาพของรถ รวมทั้งการตกแต่งเพื่อความสวยงาม หรืออะไหล่สำหรับการซ่อมแซม นอกจากนี้ การรับประกันหากรถเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาเลือกบิ๊กไบค์สักคันด้วย ดังนั้น การเลือกรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ก็จะมีส่วนช่วยให้เราได้รับการบริการ คุณภาพของรถ และการดูแลหลังการขายที่ดีกว่าครับ
- ตรวจสอบงบประมาณราคาบิ๊กไบค์ ให้เหมาะสม สําหรับมือใหม่
ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า ในท้ายที่สุดเราอาจจะต้องตัดสินใจเลือกรถบิ๊กไบค์สักคันให้เหมาะสมกับงบประมาณในกระเป๋าของเรา เพราะเมื่อได้บิ๊กไบค์สักคันไปครอบครองแล้ว ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าตัวรถ หรือค่างวดรถในแต่ละเดือนเท่านั้น แต่จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา เช่น ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือหากต้องเปลี่ยนยาง โซ่-สเตอร์ อาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับคุณภาพและแบรนด์ที่เราเลือกใช้ ดังนั้น คุณอาจต้องลองคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับการมีรถบิ๊กไบค์หนึ่งอย่างรอบคอบ และเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ เพื่อให้คุณได้สนุกไปกับการขับขี่และไม่ต้องมาคอยหวาดระแวงเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ลำบากใจครับ
สรุป
เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเรื่องที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ขับขี่บิ๊กไบค์มือใหม่กันเลยสำหรับใน บทความ สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อ Bigbike สำหรับมือใหม่ รวมถึงวิธีการเลือกบิ๊กไบค์ให้เหมาะสมกับตัวผู้ขี่มากที่สุด เรื่องนี้ ซึ่งถ้าจะให้ปลอดภัยสุด ๆ เราขอแนะนำให้เข้าคร์อสเรียนหรือฝึกฝนทักษะการขับขี่บิ๊กไบค์ด้านต่าง ๆ จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติกันไปเลย