เรียกได้ว่าในปัจจุบันสำหรับรถยนต์หลาย ๆ รุ่น ในประเทศไทยก็ได้ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติกันเป็นส่วนใหญ่ ถึงขนาดที่ว่าในหลาย ๆ รุ่นก็ไม่ได้มีรุ่นย่อยที่เป็นระบบเกียร์ธรรมดากันแล้ว เพื่อบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น และ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ บทความ เกียร์อัตโนมัติมีด้วยกันทั้งหมดกี่ชนิด แต่ละชนิดทำงานอย่างไร และ มีข้อดีข้อเสียแต่งต่างกันมากน้อยเพียงใด เรื่องนี่ ที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้รถยนต์ให้ง่ายขึ้น เพราะเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเกียร์อัตโนมัติทุกรูปแบบที่แต่ละค่ายเลือกใช้กันในปัจจุบัน เพื่อให้ทุกท่านได้สามารถเลือกใช้เกียร์อัตโนมัติแบบที่เข้ากับการใช้งานมากที่สุด ห้ามพลาดกันเลย !
เกียร์อัตโนมัติมีกี่แบบ
สำหรับในปัจจุบันผู้คนมักมองถึงความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่าเมื่อก่อน หากท่านไม่ได้เน้นการใช้งานที่จำเป็นต้องพึ่งเกียร์ธรรมดาเท่านั้น อย่างเช่นการบรรทุกของ การขับผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก ก็มักจะเลือกใช้เกียร์แบบอัตโนมัติกันเป็นส่วนมาก หรือ ที่เรามักเรียกกันว่าเกียร์ออโต้นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นยุคที่เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ในทุกวันนี้นั้นมีเกียร์อัตโนมัติถูกสร้างขึ้นมาอย่างมากมายหลายรูปแบบ แล้วทีนี้ถ้าเราจะซื้อรถหนึ่งคันถึงเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเกียร์อัตโนมัติในรูปแบบไหน เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด และ แต่ละแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างงไร โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ เกียร์อัตโนมัติทุกรูปแบบที่มีในบ้านเรากันครับ
เกียร์อัตโนมัติมีทั้งหมด 4 แบบ
- เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
สำหรับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ถือว่าเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ของในแต่ละแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทยทุกแบรนด์ เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติที่นุ่มนวลที่สุดตามชื่อ Continuously Variable Transmission ที่ย่อมาเป็น CVT นั่นเอง จะเป็นการทำงานของชุดพลูเลย์ 2 ตัวประกบเข้าหากัน หนึ่งตัวต่อเข้ากับเครื่องยนต์ อีกหนึ่งตัวหนึ่งตัวพ่วงเข้ากับเพาขับ โดยที่ชุดพลูเลย์ทั้ง 2 นั้นจะคอยทำงานร่วมกันผ่านตัวสายพาน ตามอัตราเร่งที่ได้รับมาจากเครื่องยนต์ ด้วยการที่มีชุดพลูเลย์ 2 ตัว ทำงานร่วมกันแบบนี้ ทำให้ทุกจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว นุ่มนวลจนไม่รู้สึกถึงการกระตุกเปลี่ยนเกียร์เลย จึงทำให้เกียร์รูปแบบ CVT ตัวนี้ จึงเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
- ข้อดี
สำหรับขอดีของเกียร์ CVT นั้น สิ่งแรกที่ต้องพูดถึง และ เป็นจุดเด่นหลักของเกียร์ชนิดนี้เลยก็คือเรื่องของความนุ่มนวล ที่ไม่สามารถหาได้จากเกียร์อัตโนมัตแบบอื่น ๆ เพราะด้วยการทำงานอย่างที่กล่าวไว้ด้านบน จะทำให้ทุกจังหวะที่อัตราทดเกียร์เปลี่ยน จะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมความเร่งก็จะค่อยเร่งต่อขึ้นไปจากรอบเดิม แบบนุ่มนวลที่สุด ซึ่งความต่อเนื่องของเกียร์ชนิดนี้ยังช่วยให้ได้อัตราการบริโภคน้ำมันที่น้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติประเภทอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้งานออกต่างจังหวัด หรือ เดินทางไกล ก็จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนมากที่สุด
- ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จะไม่ตอบโจทย์กับสายซิ่งมากนัก หรือ ผู้ที่ชอบเหยียบจนคันเร่งแล้วต้องการได้รอบในทันที เพราะตัวเกียร์ CVT แบบนี้ จะมีการตอบสนองที่ช้ากว่าเกียร์อัตโนมัติหลายช่วงนัก จึงทำให้มีอัตราเร่งที่ช้ากว่า แถมการเหยียบจมคันเร่งก็ไม่ได้ช่วยให้รถยนต์นั้นวิ่งได้เร็วขึ้น แต่จะเป็นการทำให้เกียร์พังไวขึ้นแทน นั่นก็ด้วยเหตุที่เกียร์แบบ CVT เน้นไปในเรื่องของความนุ่มนวล และ การประหยัดน้ำมันมากกว่า
- เกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter
สำหรับเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter เป็นเกียร์อัตโนมัติรุ่นบุกเบิก ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของการนำคำว่า เกียร์ออโต้ มาใช้ ซึ่งหากถามว่านานแค่ไหนกัน ก็นานพอจนอาจทำให้ใครหลายคนจำไม่ได้ หรือ เด็ก ๆ หลายคนก็นึกไม่ออกเพราะเกิดไม่ทันนั่นเอง ก็เพราะว่า่เกียร์รูปแบบนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งจะเป็นระบบเกียร์ที่ต้องใช้ของเหลวหรือน้ำมันเกียร์เข้ามาเป็นตัวช่วยหลักในการถ่ายทอดกำลังจากตัวเครื่องไปสู่ระบบกำลังเกียร์ และ ตัวกังหันด้านในจะช่วยส่งแรงดันให้ของเหลวทำหน้าที่แทนคลัทช์ โดยจะเป็นกังหันตัวใหญ่ 2 ตัว ด้านหนึ่งจะติดอยู่ฝั่งเครื่องยนต์เชื่อมต่อกับเพลาข้อเหวี่ยง ส่วนอีกหนึ่งฝั่งจะติดอยู่กับเกียร์ และ ขั้นกลางด้วยกังหันขนาดเล็กตรงกลาง ที่จำทำงานเฉพาะเวลาออกตัวเท่านั้น เพื่อให้มีการทำงานคล้ายกับเกียร์ธรรมดามากที่สุด
- ข้อดี
สำหรับในข้อดีของเกียร์อัตโนมัติ แบบ Torque Converter ชนิดนี้ นั้นจะมีความสามารถที่ใกล้เคียงกับเกียร์ธรรมดามากที่้สุด มีรูปแบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อนมาก และ ด้วยความที่มีรูปแบบการทำงาน และ อุปกรณ์ต่าง ๆ เหมือนกับเกียร์ธรรมดา จึงทำให้สามารถรองรับแรงม้า และ แรงบิดได้มาก ยิ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ส่วนใหญ่มักจะมีแรงบิดสูง ก็สามารถใช้เกียร์อัตโนมัติแบบนี้ได้เช่นกัน
- ข้อเสีย
ส่วนข้อเสียของเกียร์ออโต้แบบ Torque Converter แบบนี้ ข้อแรกจะเป็นในเรื่องของน้ำหนักที่มากับน้ำหนักที่มากกว่า เกียร์อัตโนมัติรูปแบบอื่น ๆ แถมระบบเกียร์แบบนี้ยังลดทอนกำลังแรงม้าจากเครื่องยนต์ลงไปสู่พื้นตามไปด้วย เพราะด้วยระบบการทำงานที่มีหลายขั้นตอน และ ยังเป็นระบบเกียร์ที่กินน้ำมันมากกว่าเกียร์ออโต้แบบอื่น ทำให้เกียร์อัตโนมัติรูปแบบนี้เป็นเกียร์ที่กินน้ำมันมากที่สุด
- เกียร์อัตโนมัติแบบ DCT
สำหรับเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT หรือ ที่เรียกกันเต็ม ๆ ว่า Dual Clutch Transmission เป็นเกียร์อัตโนมัติอีกหนึ่งรูปแบบที่ถูกอกถูกใจกับสายซิ่งเอามาก ๆ เพราะจะมากับการทำงานที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแบบเดียวกับเกียร์ธรรมดา ที่ใช้คลัทช์ไฟฟ้าแบบ Dual Clutch ที่จะทำให้ทุก ๆ จังหวะการต่อเกียร์ จาก 1 ไป 2 ไปจนเกียร์สุดท้าย ซึ่งจะเป็นการทำงานของ คลัทช์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ตัวคลัทช์ชุดแรกจะทำหน้าที่แค่เป็นตัวส่งกำลัง โดยที่คลัทช์อีกชุดจะทำการรอรับเกียร์ที่จะถูกส่งมาไว้อยู่แล้ว จึงทำให้ทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์นั้น เป็นไปได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และ ให้ความรู้สึกเหมือนกับขับรถแข่ง จึงทำให้ระบบเกียร์แบบนี้มักนิยมใช้กันในรถสปอร์ตจากทางฝั่งยุโรปต่าง ๆ ที่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ต่อเนื่องแม่นยำและรวดเร็ว โดยในส่วนมากรถยนต์ที่จะใช้เกียร์อัตโนมัติประเภทนี้ ก็จะเป็นรถยนต์แบบสปอร์ตเป็นส่วนใหญ่ และ มักจะมาพร้อมกับระบบเปลี่ยนเกียร์เองแบบ Manual หรือ Paddle Shift มาให้
- ข้อดี
สำหรับข้อดีของเกียร์อัตโนมัติประเภทนี้ อยากที่บอกไปว่า เกียร์ DCT แบบ นี้จะมีคุณสมบัติคล้ายกับเกียร์ธรรมดามาก ๆ แถมยังให้อารมณ์การขับขี่แบบเดียวกับรถแข่ง ที่ต่อเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แถม เรื่องของความนุ่มนวลก็มีไม่แพ้กันทำให้รถไม่กระชากจนเสียอาการในเวลาที่เปลี่ยนเกียร์บนรอบสูง และ ยังเป็นเกียร์อัตโนมัติที่สามารถทำเวลา Shift Time ได้เร็วที่สุดด้วยเช่นกัน หากนำเกียร์ออโต้ทุกรูปแบบมาเทียบกันเรื่องความเร็ว เกียร์ DCT จะสามารถทำเวลาได้ดีที่สุด
- ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย เพราะเมื่อเวลาใช้เกียร์ D ที่ความเร็วต่ำมักจะพบกับอาการกระตุกที่มักจะเกิดขึ้นในรอบต่ำ ๆ ได้บ่อย และ การออกตัวจะมีอาการหน่วงกว่าเกียร์อัตโนมัติรูปแบบอื่น ๆ เล็กน้อย ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ออกแบบมาให้ใช้กับความเร็วมากกว่าการใช้งานแบบสบาย ๆ ในชีวิตประจำวัน แถมยังเป็นเกียร์ที่ดูแลยากและมีปัญหาจุกจิกให้กวนใจอยู่บ่อยครั้ง หากใช้งานไม่ตรงตามสเปค
- เกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ AMT
สำหรับเกียร์ Magneti Marelli Auto-Manual Tranmission หรือที่รู้จักกันในชื่อ เกียร์ AMT คือระบบเกียร์ธรรมดาที่ทำหน้าที่เหมือนกับเกียร์อัตโนมัติ แต่จะสามารถถ่ายพละกำลังจากเครื่องยนต์ลงพื้นได้มากกว่าเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งถูกใช้มาตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1986 แต่ก็ไม่ได้นิยมใช้ในประเทศไทยมากนักเพราะด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ในปัจจุบันก็จะมีแบรนด์ MG ที่ได้นำระเกียร์รูปแบบนี้เข้ามาใช้ในรุ่น MG3 โดยใช้ชื่อว่าเกียร์อัตโนมัติแบบ AMT ที่มีอัตราทด 5 สปีด โดยทำงานร่วมกับระบบคลัทช์ไฟฟ้า และ กล่องสมองกลอัจฉริยะที่คอยควบคุมตำแหน่งของเกียร์ให้สอดคล้องกับการขับขี่และการทำงานของเครื่องยนต์ในทุกจังหวะ ทำให้ตัวรถได้อัตราเร่งที่ดีในทุกจังหวะและสามารถส่งพละกำลังลงพื้นถนนได้มากกว่าใครในรถยนต์พิกัดเดียวกัน
- ข้อดี
สำหรับข้อดีชองเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ AMT หรือ Sele Matic ประเภทนี้ ข้อแรกคือเรื่องของพื้นฐานโครงสร้างและการทำงานที่มีลักษณะเหมือนกับเกียร์ธรรมดา จึงทำให้ทนทานและดูแลรักษาง่ายมากกว่ารุ่นอื่น สามารถแก้ไข้ และ ดูแลได้ง่าย ข้อต่อมาจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานที่สามารถใช้งานได้ ทั้งแบบเกียร์ออโต้ และ แบบเกียร์ธรรมดาที่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างอิสระ สามารถให้อัตราเร่งที่ดีเหมือนกับเกียร์ธรรมดา แต่จะประหยัดน้ำมันมากกว่า และ ส่งมลพิษน้อยกว่าเกียร์ธรรมดา รวมถึงในรุ่นปัจจุบันยังเต็มไปด้วยระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ประเภทนี้ได้หลายอย่างด้วยเช่นกัน
- ข้อเสีย
ส่วนข้อเสียของระบบส่งกำลังแบบเกียร์ AMT ประเภทนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเกียร์ที่สร้างแรงม้าได้เยอะกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติรูปแบบอื่น ๆ แต่ก็ยังมีการตอบสนองหรือการเปลี่ยนเกียร์ที่ช้ากว่าระบบเกียร์อัตโนมัติแบบปกติอยู่ดี และ มาพร้อมกับอาการกระตุกเมื่อใช้ความเร็วต่ำในรอบที่ต่ำ หรือ เวลาที่ตัวเรานั้นเปลี่ยนเกียร์ไม่สอดคล้องกับรอบเครื่องยนต์เหมือนกับเกียร์ธรรมดานั่นเอง แน่นอนหากมีเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ที่ช้ากว่าแล้วก็ทำความเร็วได้ช้ากว่าเกียร์ออโต้ด้วยเช่นกัน
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับ จากข้อมูลที่เราได้มานำเสนอทุกท่านผ่าน บทความ เกียร์อัตโนมัติมีด้วยกันทั้งหมดกี่ชนิด แต่ละชนิดทำงานอย่างไร และ มีข้อดีข้อเสียแต่งต่างกันมากน้อยเพียงใด เรื่องนี่ ก็เชื่อว่าจะทำให้ทุกท่านที่ได้อ่านรับรู้กันได้แล้ว ว่าเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย และ คุณสมบัติในการทำงานที่ต่างกันออกไป แต่เชื่อว่าในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งกำลังแบบไหนก็ดีด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยความที่เป็นยุคทองของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ ที่เหลือก็แค่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานเท่านั้น สำหรับบทความในครั้งนี้เราหวังว่าจะเป็นตัวช่วยในการเลือกใช้รถยนต์ให้กับทุกท่านให้สามารถเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งานได้นะครับ สำหรับวันนี้ https://mywonderwheel.com/ ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับสวัสดีครับ