และหลังจากที่เราได้นำเสนอบทความในเรื่องของ 4 King of JDM กันไปแล้ว มาในคราวนี้ก็ถึงคิวของรถสปอร์ตร่างเล็กที่เป็นจิ๋วจี๊ดตัวแสบของ 1ใน4 ตำนานรถสปอยร์ตจากญี่ปุ่นกันเลย ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Mazda RX-7 Spirit R รถสปอร์ตร่างเล็กกับเครื่องยนต์ Rotary ที่ดีที่สุดแห่งยุคสมัย คันนี้ ที่ในวันนี้เราได้ขนข้อมูลของสุดยอดตำนานแห่งความแรงของ Mazda คันนี้มาแบบจัดหนักจัดเต็มแบบที่จะทำให้ท่านผู้ชมหลงรักรถยนต์คันนี้ไปพร้อม ๆ กับเรากันเลย ซึ่ง Mazda RX-7 นั้นก็จะเป็นหนึ่งในตระกูลรถสปอร์ต 2 ประตูของ Mazda ที่มีสมรรถนะสูงกว่ารถยนต์ที่วาจำหน่ายทั่วไปมาตั้งแต่ Generation แรก แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมตามที่ผู้ผลิตนั้นต้องการ จึงเป็นเหตุให้กำเนิดอสูรกายร่างเล็กที่มีเสียงคำรามอันแสนหวานแสบหูคันนี้ออกมาไปตำนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง Mazda RX-7 นั้นจะมีที่มาที่ไปอย่างไร และ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปรับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ
Mazda RX-7 มีรุ่นอะไรบ้าง
- Mazda RX-7 FB ปี 1978-1985 จะเป็นรุ่นแรกจากแบรนด์ Mazda ที่ได้นำชื่อ RX-7 เข้ามาใช้ หรือ จะเรียกว่า RX-7 รุ่นแรกก็ไม่ผิดแต่อย่างใด สำหรับรถยนต์คันนี้ก็ได้เป็นรุ่นแรกที่ได้งัดขุมพลังความแรงของเครื่องยนต์ Rotary มาใช้ จนพัฒนาแก้ไขข้อบกพร่องเรื่อยมาจะได้เวอร์ชั่นเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบอย่างเครื่อง 2 โรเตอร์ รหัส 13B สุดโด่งดั่งออกมาเป็นครั้งแรกจากรถยนต์คันนี้นี่เอง โดยจะมีความโดดเด่นเรื่องของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่รีดแรงม้าได้เยอะ ต่างจากเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไป แถมตัวรถยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 1,100 กิโลกรัม จนกลายเป็นสูตรสมการความแรงของ Mazda อย่างที่ว่า น้ำหนักเบาบวกแรงม้าเยอะเท่ากับแรงนั่นเอง ซึ่ง Mazda ก็ได้ใช้สูตรนี้กับรถแข่งของแบรนด์มาตลอด
- Mazda RX-7 FC3S ปี 1986-1991 สำหรับคันนี้จะเป็น Generation ที่ 2 ที่ได้ถูกพัฒนาเรื่องของ Aero Dynamic ขึ้นมาให้รองรับกับความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น มากับขุมพลัง 2 โรเตอร์ รหัส 13B แบบไร้ระบบอัดอากาศเช่นเคย แต่คราวนี้สามารถรีดแรงม้าออกมาได้มากขึ้นถึง 148 แรงม้าเลย ส่วนความโดดเด่นและสิ่งที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้โด่งดังและได้รับความสนใจมากขึ้น ก็จะเป็นการ์ตูนสุดคลาสสิคอย่าง นักซิ่งสายฟ้า หรือ Initial D ที่ช่วยปลุกกระแสให้รถคันนี้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น
- Mazda RX-7 FD3S ปี 1993-2002 และ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ RX-7 จะมาสร้างตำนานที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ พอมาถึงปี 1993 ที่ RX-7 หายไปจากสายพานการตลาดมาสักระยะ ทางผู้ผลิตก็ได้เปิดตัว พร้อมการันตีว่ารถรุ่นนี้คือ Mazda RX-7 ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา นั่นก็คือรหัส FD3S หรือ Generation สุดท้ายที่ถูกจัดให้เป็น หนึ่งในสี่ รถระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งรอบนี้มากับขุมพลัง 13B ที่พ่วงระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่เข้าไป ซึ่งเทอร์โบตัวนี้ยังช่วยแก้ปัญหาอาการ Turbo-lag ที่รถค่ายอื่น ๆ กำลังประสบปัญหากันอยู่ในช่วงเวลานั้นได้อีกด้วย แถมเครื่องยนต์นั้นก็ยังมีขนาดที่เล็กกว่า กินน้ำมันน้อยกว่า น้ำหนักเบากว่า แต่กลับรีดแรงม้าออกมาได้ไม่ต่างกับคันอื่น ๆ จึงทำให้รถยนต์คันนี้ทั้งได้รับความนิยม และ กลายไปเจ้าความเร็วของทุกสนามไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และ ถ้าคุณคิดว่ารถคันนี้คือ RX-7 ที่โหดที่สุดแล้วนั่นยังไม่สุดครับ
- Mazda RX-7 Spirit R ปี 1993-2002 เพราะหลังจากที่ได้เปิดตัวรุ่น FD3S ออกมาได้ไม่นานจนได้รับความนิยม ทางผู้ผลิตก็ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษอย่าง Spirit R ออกมา ในจำนวนจำกัดเพียง 1,500 คันเท่านั้น และ สำหรับใครที่ไม่เข้าใจถ้าพูดกันให้พอเห็นภาพรถยนต์รุ่นนี้ก็เปรียบเสมือน รุ่น Type R จาก Honda ที่มีสมรรถนะแบบรถแข่งมาตั้งแต่โรงงาน ที่อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์สมรรถนะสูงที่ช่วยให้ทำความเร็วได้ดีมากกว่าในรุ่นปกติ
จุดเด่นของ Mazda RX-7 Spirit R
- สำหรับจุดเด่นข้อแรกที่ต้องพูดถึงเลยคือเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ที่ในรุ่นนี้ยังคงโดดเด่นมากับไฟ Pop-up สุดคลาดสิคที่ไม่สามารถหาได้จากรถยนต์รุ่นไหนอีกในปัจจุบันเพราะไม่ตรงตามที่ข้อกฏหมายของหลาย ๆ ประเทศกำหนด ส่วนนอกจากไฟนั้นก็จะมากับรูปร่างทีโค้งมน กับหน้าตาสุดสปอร์ตหล่อเท่ห์ที่ถือว่าล้ำสมัยมาก ๆ ดูคล้ายกับรถสปอร์ตจากทางฝั่งของยุโรปเลย เพียงแค่ขนาดตัวนั้นเล็กกว่าเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดรูปร่างหน้าตาอันสวยงามนี้ทางผู้ผลิตนั้นบอกว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด จึงทำให้รถยนต์คันนี้ทำความเร็วสูงได้โดยที่รถไม่เสียอาการมากจนเกินไป แม้ตัวรถจะมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ ก็ตาม
- และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รถยนต์คันนี้โด่งดังมากยิ่งขึ้นที่ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นคือการได้ไปปรากฏตัวในหนังดังอย่าง Fast & Furious ตั้งแต่ภาคแรกกันเลย แต่ก็อาจจะยังไม่ได้โดดเด่นมากนักเพราะออกมาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ภาคที่สร้างชื่อมาสุด ๆ เลยก็จะเป็นภาค Tokyo Drift ที่ยกกองไปถ่ายทำกันที่ญี่ปุ่นแถมรถของตัวเอกในภาคที่ออกมาแทบจะทั้งเรื่อง ก็เป็น RX-7 ในชุดแต่งพิเศษจาก Veilside ในสีส้มดำ ซึ่งอาจจะฟังดูไม่เกี่ยวกันแต่หลังจากที่หนังเรื่องนี้จบ กลับมาดูราคาของรถยนต์รุ่นนี้อีกที ก็ขึ้นไปหลักล้านแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนกับ 4 King of JDM คันอื่น ๆ
- และจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องของขุมพลังเครื่องยนต์แบบ Rotary ที่มีขนาดเพียง 1,300 ซีซีเท่านั้น ซึ่งเท่ากับเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์อย่าง Suzuki Hayabusa เลย แต่กลับเรียกแรงม้าออกมาได้มากถึง 276 ตัวเลย ซึ่งพอ ๆ กับเครื่องยนต์ 6 สูบเทอร์โบของ Supra และ Skyline เลย ทั้งที่ใช้ลูกสูบหมุนเพียง 2 ตัวเท่านั้น แถมเครื่องยนต์ตัวนี้ยังแอบซ่อนขุมพลังความแรงที่รอวันให้เจ้าของมาปลดล็อกเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ จากยุค 90 เช่นกัน ที่ตกลงกันไว้ว่าจะไม่ผลิตรถยนต์ที่มีแรงม้าเกิน 280 จึงทำให้ผู้ผลิตต้องจูนรถที่แรงที่สุดที่เคยทำได้ของแบรนด์ให้วิ่งช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้อยู่ในข้อตกลง แต่ถ้าหาผ่านการ Modifly ที่ขยับนิดเปลี่ยนหน่อย ก็จะเรียกแรงม้าที่สูงกว่า 500 แรงม้าได้ไม่ยาก
- สำหรับช่วงล่างของ RX-7 ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ดีมาก ๆ ในช่วงเวลานั้น เพราะสามารถช่วยให้รถที่มีน้ำหนักเบานั้นยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยมในขณะที่ใช้ความเร็วสูง แถมระบบังคับเลี้ยวก็แน่นหนึบและมีองศาที่กว้างมาก ๆ ด้วย
- สำหรับรถยนต์คันนี้ก็จะเหมือนกับรถ Sport JDM ยุค 90 คันอื่น ๆ ที่เกิดมาเพื่อให้ลูกค้าได้นำไปตกแต่ง Modifly DIY เป็นรถของตัวเองกันต่อ ตั้งแต่ในเรื่องของเครื่องยนต์ และ ดีไซน์การออกแบบที่จะมี ชุดแต่ง Body Kit แบบเต็มคันมาให้เลือกตกแต่งอยู่มากมาย
- ส่วนราคาของ RX-7 นั้น ถ้าอยู่ในช่วย 5-10 ปีก่อน เงินหลักล้านนิด ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งบางคันที่สภาพไม่ได้สวยเวอร์ที่คนเอามาขายไม่ถึงล้านก็มี แต่ในปัจจุบัน RX-7 ก็กระโดดขึ้นไปแต่ 2 ล้านแล้ว ยิ่งถ้าเป็นสภาพนางฟ้า หรือ ตัว Spirit R แท้ ๆ ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นไปถึง 4-6 ล้านบาทได้
สรุปรถยนต์
เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ในฝันของเหล่าชายไทย และ บรรดานักสะสมทั่วโลกอีกหนึ่งคันจริง ๆ ยิ่งถ้าเป็นรุ่น Mazda RX-7 Spirit R รถสปอร์ตร่างเล็กกับเครื่องยนต์ Rotary ที่ดีที่สุดแห่งยุคสมัย คันนี้ด้วยแล้ว จะยิ่งมีราคาเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต เพราะนอกจากจะมีจำนวนเพียง 1,500 คันแล้ว ยังถูกยกเป็นหนึ่งในรุ่นหายากที่ใครมีไว้ก็ไม่คิดยากจะขายออกไป mywonderwheel
