McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก

รีวิวรถยอดฮิต

สำหรับแบรนด McLaren ในปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สามารถสร้างปรากฎการให้กับวงการรถยนต์ได้ในทุก ๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่อยู่ ในคลาส Super Car หรือ Ultimate ก็จะเป็นรถยนต์ที่สร้างความโดดเด่นที่แปลกใหม่ให้กับวงการรถยนต์ด้วยกันทั้งสิ้น มาในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับรถยนต์ McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก คันนี้ โดยจะเป็ํนรุ่นล่าสุดของคลาส Ultimate Car ด้วย โดยจะเป็นรถยนต์ Hyper Car 2 ที่นั่ง ที่ไม่มีหลังคาและกระจกหน้า แต่ด้วยเทคโนโลยีของ McLaren จึงทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องรับแรงปะทะจากลมด้านหน้าได้ โดยเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยส่งอากาศขึ้นไปด้านบนและด้านข้างของตัวรถแทน แน่นอนว่าเป็นรถยนต์ระดับ Hyper Car ก็ต้องมีพละกำลังที่เกิน 800 แรงม้าขึ้นไป และ มากับเทคโนโลยีระดับสูงที่เฉพาะตัว ซึ่งรถยนต์คันนี้ก็มีคุณสมบัติทั้งหมดของรถยนต์ Hyper Car ซึ่งจะมีรายละเอียดและสิ่งสำคัญทั้งหมดอย่างไรบ้าง เราไปรับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ 

ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก1

Exterior:ภายนอกของรถยนต์ 

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก2
  • มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ใช้เป็นชิ้นเดียวคุมด้านหน้าของตัวรถ
  • มีช่องรับอากาศด้านหน้าใต้กันชน ตกแต่งขอบด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์
  • มีช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงด้านหน้า พร้อมกับตัวเบี่ยงลมที่สามารถยกขึ้นเพื่อกันลมที่ได้รับมาจากช่องด้านล่างส่งขึ้นไปด้านบน เพื่อไม่ให้ประทะเข้าห้องโดยสาร ทำให้กลายเป็นเหมือน Bubble กันลมแทนหลังคาและกระจกด้านหน้า ช่วยให้ลมไหลผ่านเหนือศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านไปได้อย่างลื่นไหลในทุกระดับความเร็ว 
  • มีลิ้นใต้กันชนด้านหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
  • มี Winglets คาร์บอนไฟเบอร์ด้านข้างของกันชนหน้า 
  • มีช่องรับอากาศด้านหน้าของโปร่งซุ้มล้อด้านหลัง เพื่อส่งตรงเข้าไปให้กับเครื่องยนต์และระบบอัดอากาศ 
  • มีโครมไฟหน้าสีดำ
  • มีไฟดีไซน์ใหม่ หน้าแบบ Matrix Adaptive LED 
  • มีไฟหรี่ Daytime Running Light แบบ LED 
  • มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED 3 มิติ
  • มีฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องดักอากาศบนฝากระโปรงเพื่อช่วยเสริม Aero Dynamic 
  • มีสัญลักษณ์ McLaren บนฝากระโปรงด้านหน้า
  • มีกระจกมองข้างสไตล์สปอร์ต ปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ตัวกระจกปรับองศาได้ด้วยระบบไฟฟ้า  
  • ใช้ประตูปีกนกแบบ Twin-Hinged Dihedral Doors ที่เข้าออกได้ง่ายมากขึ้นเพราะไม่มีหลังคา
  • มี Skirt ด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
  • ไม่มีหลังคา และ กระจกบังลมด้านหน้า ( แต่สำหรับในบางประเทศจะเป็นรุ่นที่มีกระจกบังลมด้านหน้า เพื่อรองรับกับกฎหมายของประเทศนั้น ๆ )
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก3
  • มีกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ใช้เป็นชิ้นเดียวคุมทั้งท้ายรถ เหมือนกับด้านหน้า
  • มีช่องระบายอากาศบนกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ช่วยเสริม Aero Dynamic ให้กับตัวรถ
  • มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
  • มีชุดตะแกรงด้านหลังแบบรังผึ้งสีดำ เพื่อเปิดช่องระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์
  • มีท่อไอเสียคู่ วางขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของตัวรถ ช่วยให้เสียงต่ำ
  • มีท่อไอเสียคู่ อยู่ด้านบนปลายท่อแหงนขึ้นฟ้า ช่วยให้เสียงสูง
  • มี สปอยเลอร์ด้านหลังแบบ Adaptive ทำงานอัตโนมัติ พร้อมช่วยเป็น Air Brake ได้ในตัว 
  • มีสัญลักษณ์ McLaren อยู่กึ่งกลางระหว่างท่อไอเสีย
  • มีไฟท้าย LED แบบ Light Gilding 
  • มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
  • มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED 3 มิติ
  • มีช่องระบายอากาศให้กับเทอร์โบ และ เครื่องยนต์ บนฝากระโปรงด้านท้าย 
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก4
  • มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่ คู่หน้า ขนาด 19 นิ้ว คู่หลัง ขนาด 20 นิ้ว
  • มีพร้อมกับยาง Pirelli รุ่น P-Zero 
  • ใข้ยางหน้าขนาด 245/35 R19 
  • ใช้ยางหลังขนาด 305/30 R20 
  • มาพร้อมกับจานเบรกเซรามิค และ คาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่ที่สามารถเลือกสีได้

Dimension:มิติตัวถังรถ

  • มีความยาวทั้งหมด 4,611 มิลลิเมตร
  • มีความกว้างทั้งหมด 1,944 มิลลิเมตร
  • มีความสูงทั้งหมด 1,088 มิลลิเมตร
  • มีระยะฐานล้อ 2,669 มิลลิเมตร
  • มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 100 มิลลิเมตร
  • มีพื้นที่เก็บสัมภาระทั้งหมด 100 ลิตร 
  • มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด 65 ลิตร
  • มีน้ำหนักรวมทั้งหมด 1,200 กิโลกรัม

ดีไซน์ภายในรถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก5

Interior:ภายในรถยนต์ 

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก6
  • สำหรับในรุ่นนี้จะตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ หรือ สีทูโทน และ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้วัสดุส่วนไหนเป็นหนัง หรือ Alcantara สามารถ Custom ได้หลากหลายอิสระ 
  • ตกแต่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้านในด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์
  • มีพวงมาลัยแบบ 3 ก้านสไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ โดยจะเป็นพวงมาลัยที่ไม่มีปุ่มอะไรเลยซึ่งเป็นเสน่ห์อีกแบบที่ Mclaren นั้นตั้งใจทำออกมา โดยจะย้ายปุ่มควบคุมต่าง ๆ บนพวงมาลัยไปอยู่บริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ด้าน ของคนขับแทน
  • มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift 
  • มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ TFT Full Digital ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันรูปแบบการทำงานได้อย่างหลากหลาย ตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ซึ่งจะคอยบอกรายละเอียดทุก ๆ อย่างได้อย่างครบถ้วน
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ ซ้าย และ ขวา แบบ ระบบสัมผัส Touch Screen 
  • ย้ายตำแหน่งของช่องแอร์ ให้มาอยู่ด้านล่างของห้องโดยสาร บริเวณคอนโซลกลาง
  • มีปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ที่สามารถปรับรูปแบบการทำงานของรถยนต์ได้ถึง 3 รูปแบบ ตั้งแต่ 
    • Comfort
    • Sport 
    • Track 
  • มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ Traction Control
  • มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ ABS 
  • มีปุ่มปรับระดับความสูงของช่วงล่าง หรือ Lift Control 
  • มีปุ่ม Push Start สไตล์สปอร์ตสีแดง
  • มีปุ่ม Launch Control
  • มีปุ่ม Aero ใช้ปรับองศาของสปอยเลอร์ตามความเร็วรถ 
  • มีเกียร์อัตโนมัติเป็นปุ่มกดแบบ คันโยก 3 ชั้น สไตล์สปอร์ต 
  • มีช่องเชื่อมต่อ USB 1 ตำแหน่ง
  • มีที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก7
  • มีเบาะนั่งสไตล์ Sport Bucket Seat 2 ที่นั่งแบบทูโทน สามารถตกแต่งได้หลากหลาย ตั้งแต่วัสดุหุ้ม ไปจนถึงเฉดสี และ ลวดลาย
  • เบาะนั่งทั้งหมดปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า

Entertainment:ระบบความบันเทิง

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก8
  • มีชุดหน้าจอเครื่องเล่นแบบ LCD ระบบสัมผัส Touchscreen แนวตั้ง ขนาด 7 นิ้ว 
  • รองรับวิทยุ FM/AM CD/DVD และ MP3 
  • มีระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 
  • รองรับระบบ Apple Carplay และ Android Auto 
  • มีช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX 
  • มีระบบนำทาง Navigation System 
  • มีลำโพง 12 ตำแหน่ง จาก Bowers & Wilkins โดยจะมีบางส่วนถูกย้ายมาอยู่ตรงด้านข้างพนักพิงศีรษะ

เครื่องยนต์รถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก9

Engine:เครื่องยนต์

  • สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์แบบ V8 เบนซิน Twin Turbo ขนาด 4.0 ลิตร 3,994 ซีซี ใช้เทอร์โบแบบ Twin Electrically-Actuated Twin Scroll Turbochargers Dry Sump รหัส M840TR สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้มากถึง 815 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และ มีแรงบิดอยู่ที่ 800 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ Dual Clutch 7 สปีดแบบ Reverse SSG ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง รองรับเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 เท่านั้น และ มีตัวเลขจากโรงงานดังนี้
  • มีอัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 2.8 วินาที
  • มีอัตราเร่งจากความเร็ว 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6.8 วินาที
  • มีความเร็วสูงสุด หรือ Top Speed อยู่ที่ 326 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • มีระยะเบรกจากความเร็ว 100 กิโลเมตร ถึง 0 อยู่ที่ 29 เมตร
  • มีระยะเบรกจากความเร็ว 200 กิโลเมตร ถึง 0 อยู่ที่ 116 เมตร

ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก10

Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถัง และ ช่วงล่าง

  • ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Mono Clock Full Carbon Fibre เป็นการใช้โครงสร้างตัวถังแบบ คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน รวมไปถึงชุดแฟริ่งรอบคันรถด้วย ทำให้รถคันนี้กลายเป็นรถยนต์ที่น้ำหนักเบาที่สุดของ McLaren
  • มีระบบกันสะเทือนด้านหน้า และ ด้านหลัง เป็นแบบอิสระ Double Wishbone ที่มาพร้อมกับระบบ Adaptive Damper , Proactive Chassis Control II ที่ช่วยปรับการทำงานตามสภาพพื้นถนน และ ลักษณะในการขับขี่ตามโหมดต่าง ๆ 
  • มีระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ พวงมาลัยพาวเวอร์กึ่งไฟฟ้า แบบ Electro-Mechanical Power Steering 
  • มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็น ดิสก์เบรก ใช้จานเบรกแบบ Ceramic ขนาด 390 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 Pot 
  • มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็น ดิสก์เบรก ใช้จานเบรกแบบ Ceramic ขนาด 380 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 Pot

Safety:ระบบความปลอดภัย 

  • มีระบบ AAMS หรือ ระบบ Active Air Manegement System ( ในภาพด้านบน ) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่ติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ โดยจะเป็นระบบจัดการอากาศของตัวรถ ที่จะใช้ช่องรับอากาศบริเวณกันชนด้านล่าง รับอากาศส่งออกมาผ่านช่องระบายอากาศด้านบน ที่เต็มไปด้วยใบพัด และ ตัวตะแกรง ที่ทำจากวัสดุคาร์บอน ช่วยให้อากาศถูกระบายออกไปด้านบนในรัศมี 130 องศา รวมไปถึง Winglets บนฝากระโปรง และ กระจกมองข้างที่จะคอยดันอากาศไปด้านข้าง ทำให้เกิดเป็นเหมือนห้องฟองอากาศที่ช่วยกันลมให้กับผู้โดยสารแทนกระจก และ หลังคา ซึ่งระบบนี้ก็จะเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็ว 50-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากต้องการใช้ความเร็วที่เกินไปกว่านั้น ทางผู้ผลิตก็จะบอกให้คุณใส่หมวกกันน็อคนั่นเอง 
  • มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน
  • มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
  • มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4 
  • มีระบบ CBC ช่วยควบคุมการกระจายแรงเบรกในขณะเข้าโค้ง
  • มีระบบ DBC ช่วยควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน
  • มีระบบ ESC ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
  • มีระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และ ช่วยไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีโดยไม่จำเป็น 
  • มีระบบ DBL ช่วยเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินให้ทันทีเมื่อเบรกกะทันหัน 
  • มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • มีระบบ HDC ช่วยชะลอความเร็วรถยนต์ในเวลาลงทางลาดชัน
  • มีระบบ TPLW ช่วยแจ้งเตือนเมื่อลมยางมีแรงดันที่ผิดปกติ
  • มีกล้องมองภาพรอบคันรถแบบ 360 องศา 
  • มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
  • มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • มีม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง

จุดเด่นของรถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก11

สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้นั้นก็มีอยู่ทุกด้านเลยจริง ๆ โดยจะเริ่มตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบที่ในรุ่นนี้ใช้โครงสร้างตัวถัง และ บอดี้ทั้งหมด ด้วยวัสดุแบบคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน ซึ่งในแต่ละสีก็จะเป็นการไล่ระดับสีที่เลือกในด้านหน้าค่อย ๆ กลายไปเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ในด้านท้าย และ ด้วยการที่ไม่มีหลังคาและกระจกหน้าจึงต้องมีการปรับรูปร่างให้ตัวรถมี Aero Dynamic ที่ดีกว่าใคร ด้วยระบบ AAMS ที่จะคอยดูดอากาศจากกันชนหน้าส่งออกบนช่องระบายอากาศด้านบน ผ่านใบพัด และ ตัวดักอากาศแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยให้อากาศถูกส่งออกไปในทิศทางที่ต้องการสามารถสร้างเป็นห้อง Buble ขนาดใหญ่ให้กับผู้โดยสาร ส่วนต่อมาจะเป็นในเรื่องของขุมพลังโดยจะมากับเครื่องยนต์แบบ V8 เบนซินทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร 815 แรงม้า กับ แรงบิด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ในเวลา 2.8 วินาที มาพร้อมกับช่วงล่างและเบรกสมรรถนะสูง รวมไปถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามา ช่วยทำให้รถยนต์พละกำลัง 815 แรงม้า คันนี้ขับง่ายเหมือนกับรถ Sport ทั่วไป 

สรุปรถยนต์ : McLaren Elva

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก12

สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีกระจกหน้า และ หลังคานั้น เราก็ค่อนข้างจะคุ้นเคยและพบเห็นกันมาบ้างแล้วในสนามแข่ง แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีค่ายไหนที่ผลิตรถยนต์แบบนี้ออกมาให้ใช้งานบนท้องถนนกันเลย ซึ่งนั่นก็เป็นการสร้างอีกหนึ่งความท้าทายให้กับ McLaren ที่จะทำรถยนต์แบบนี้ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่เคยใช้ในรถแข่งของแบรนด์ในอดีต นำมาพัฒนาให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ พร้อมกับสมรรถนะขั้นสูงที่หาได้ยากจะแบรนด์รถยนต์ค่ายไหน ๆ ซึ่งจากเสียงของผู้ที่ได้ Test Drive กันมาแล้วต่างก็ตอบกันเป็นเสียงเดียวว่า รถยนต์คันนี้ขับง่ายเกินสมรรถนะที่มี ถึงแม้ใช้ความเร็วสูงก็ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป ซึ่งราคาก็ดูเหมาะสำหรับการเป็นของเล่นคนรวยจริง ๆ 

รถยนต์ McLaren Elva สามารถ Custom สีได้อย่างอิสระ ตัวอย่างดังนี้

McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก13
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก14
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก15
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก16
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก17
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก18
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก19
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก20
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก21
McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก22

ราคารถยนต์ : McLaren Elva

รถยนต์ McLaren Elva ราคา 200,000,000 บาท

Link ซื้อรถยนต์ : McLaren Elva

https://bangkok.mclaren.com/en

Video Review : McLaren Elva

สำหรับรถยนต์คลาส Ultimate ของแบรนด์ McLaren ต่างก็เป็นรถยนต์ Hyper Car ที่มีคุณสมบัติ และ เอกลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยกันทุกคัน ซึ่งรถยนต์ McLaren Elva รถยนต์ Hyper Car รุ่นล่าสุดของแบรนด์ ที่มากับเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะตัว ในโควต้า 149 คันทั่วโลก คันนี้เอง ก็จะเป็นรุ่นล่าสุด และ เป็นคันที่ 4 ของคลาสนี้ โดยจะเป็นรถ Hyper Car ที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นรถยนต์ที่ไม่มีหลังคาและกระจกหน้า แต่ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารจะไม่ถูกแรงปะทะจากลมอย่างแน่นอน หากใช้ความเร็วไม่เกิน 200 กิโลเมตร หากใช้เกินนั้น หรือ ขับขี่ในสนามแข่ง ก็จำเป็นต้องใส่หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าท่านคิดว่าซื้อรถ 200 ล้านขนาดนี้ยังต้องไปซื้อหมวกกันน็อคอีก ซึ่งทางผู้ผลิตก็คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดีจึงได้แถมหมวกกันน็อคมาให้ด้วย  mywonderwheel

บาคาร่าออนไลน์

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

บริการรับ จำนำรถ

TAG