ในยุคปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นการเลือกรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจ รถยนต์ประเภท Eco Car กันมากขึ้น เพราะช่วยประหยัดพลังงานแถมยังรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีอีกด้วย และ รถยนต์ประเภทนี้ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 4 ประตูและ 5 ประตู หรือ Hatchback ซึ่งวันนี้ผมจะพาท่านผู้ชมมาพบกับ 5 อันดับรถยนต์ Eco Car โฉม Hatchback ที่ขายดีที่สุดในช่วงต้นปี 2022 กันก่อนว่าจะมีรุ่นอะไรบ้าง แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าเป็นเพียงการจัดอันดับจากยอดขายของช่วงต้นปีเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ารุ่นไหนจะดีไปกว่ากัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ฉะนั้นทางเราจึงได้จัดทำบทความในครั้งนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละรุ่นและเห็นภาพชัดเจนมากที่สุดนั่นเองครับ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูพร้อมกันดีกว่าครับว่าทั้ง 5 อันดับ จะมีรถยนต์รุ่นกันอะไรบ้างครับ
สำหรับ 5 อันดับรถยนต์ Eco Car โฉม Hatchback ที่ขายดีที่สุดในช่วงต้นปี 2022 มีดังนี้
อันดับ 5 Mitsubishi Mirage
- สำหรับ รถยนต์ Mitsubishi Mirage คันนี้ เป็นรถยนต์ที่เน้นความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการออกแบบดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากรถแข่งแรลลี่ มาพร้อมเทคโนโลยี นวัตกรรม และสมรรถนะรถยนต์ที่พ่วงมาให้แบบจัดเต็มแถมยังมีเรื่องของการขับขี่ที่นุ่มนวลด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 L และระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมัน โดยมีระบบส่งกำลังให้เลือก 2 แบบ ทั้งเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto อีกด้วย และที่สำคัญ มาพร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ สีขาว White Diamond และ สีเหลือง Sand Yellow ด้วยความที่มีการปรับดีไซน์ใหม่และการออกสีตัวถังมาใหม่โดยเฉพาะสีเหลืองนั้นทำให้เจ้า Mitsubishi Mirage คันนี้ ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 474,000 บาท – 579,000 บาท
- ในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ Mitsubishi Mirage คันนี้มียอดจำหน่ายสะสมไปแล้ว 1,857 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 4.7%
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันดับ 4 Mazda2 Hatchback
- สำหรับอันดับที่ 4 ก็คงจะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก Mazda2 Hatchback คันนี้นี่เองครับ สำหรับเจ้า Mazda2 Hatchback คันนี้ถูกออกแบบและพัฒนาจากแนวคิด Kodo : Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว โดดเด่นปราดเปรียวในสไตล์พรีเมี่ยม ซึ่งถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม พร้อมตอบโจทย์ความสนุกในทุกไลฟ์สไตล์ สำหรับตัวเครื่องมาพร้อมเครื่องยนต์ 16 วาล์ว SKYACTIV 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุลมากขึ้นและตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้วยการการันตีด้วยรางวัล Car of the Year 2021 : Best Hatchback under 1,300 c.c. และรางวัล Best Diesel Hatchback under 1,600 c.c. ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่ Mazda2 Hatchback คันนี้จะเข้าป้ายมาติดในอันดับที่ 4
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 546,000 บาท – 690,000 บาท
- สำหรับรถยนต์ Mazda2 Hatchback คันนี้มียอดจำหน่ายสะสมไปแล้ว 3,040 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 8.9%
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันดับ 3 Suzuki Swift
- มาดูอันดันที่ 3 กันบ้างครับ สำหรับเจ้า Suzuki Swift คันนี้ เป็นรถยนต์ที่มีดีไซน์โดดเด่น และมีฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดี สำหรับดีไซน์ภายนอกได้มีการปรับโฉมใหม่ด้วยการเพิ่มลุคให้ดูสปอร์ตปราดเปรียวมากขึ้น โดยกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมี่ยมแบบใหม่ ส่วนดีไซน์ภายใน มาพร้อมระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ครบครันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายเพื่อให้สามารถขับขี่ตลอดเส้นทางได้อย่างสบายและสนุก ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth ด้านสมรรถนะทางค่ายก็จัดเต็มเช่นกันด้วยเครื่องยนต์ เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่หรือ DUALJET ที่ทำงานโดยฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น และอัดฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำแถมยังเป็นการลดอุณหภูมิในกระบอกสูบพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้อีกด้วย ซึ่งสามารถประหยัดน้ำมันได้มากกว่า 23 กิโลเมตร ต่อลิตรเลยทีเดียว
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 562,000 บาท – 632,000 บาท
- สำหรับรถยนต์ SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์ มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 4,026 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45.55%
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันดับ 2 Honda City Hatchback
- มาถึงอันดับที่ 2 กันแล้วนะครับ ซึ่งตำแหน่งนี้ตกเป็นของ Honda City Hatchback คันนี้นี่เองครับ ซึ่งเจ้า Honda City Hatchback คันนี้ถูกออกแบบภายใต้ The City Series ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Honda City เจเนอเรชันที่ 5 โดยตัวรถยนต์จะโดดเด่นด้วยความสปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอกพร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS แบบรอบคัน ส่วนที่ถือว่าเป็นจุดขายของรถ Honda City Hatchback คันนี้ก็คือเบาะนั่งแถวหลังที่พับได้ชนิดแบนราบสนิท “อัลตร้าซีท” นั่นเองโดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 โหมดการใช้งาน ดังนี้ 1. Utility Mode ที่ปรับเบาะพับเรียบทำให้กว้างเหมือนกระบะได้ 2. Long Mode ที่สามารถปรับเบาะหน้าเอนเพื่อเชื่อมต่อเบาะหลังสำหรับเวลาใส่ของเป็นแนวยาวนั่นเอง 3. Tall Mode ที่ปรับเบาะรองนั่งด้านหลังขึ้นเพื่อใส่ของสำหรับแนวสูง และ 4. Refresh Mode ที่ปรับเบาะหน้าเอนเพื่อเชื่อมต่อกับเบาะหลังสำหรับเวลายืดขานอนยาว ส่วนเครื่องยนต์มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว สำหรับ Honda City Hatchback คันนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020 และสามารถสร้างเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่วันแรก จนมาถึงปี 2022 ทางค่ายก็ยังคงไม่หยุดที่พัฒนาตัวรถยนต์ทำให้เจ้า Honda City Hatchback คันนี้ ยังคงได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 599,000 บาท – 849,000 บาท
- ในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ Honda City Hatchback คันนี้มียอดจำหน่ายสะสมไปแล้วถึง 8,042 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 23.5 %
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันดับ 1 Toyota Yaris
- และแล้วก็มาถึงอันดับที่ 1 กันแล้วนะครับสำหรับรถยนต์ Eco Car โฉม Hatchback ที่ขายดีที่สุดในช่วงต้นปี 2022 โดยตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Toyota นั่นเอง สำหรับ Toyota Yaris คันนี้ มีการปรับดีไซน์ภายนอกใหม่ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-iE 4 สูบ DOHC ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที โดยจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode ซึ่งเป็นระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ Euro5 ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตรเลยทีเดียว ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ก็มีการเพิ่มระบบ Toyota Safety Sense เข้ามา และ เทคโนโลยีความปลอดภัยสมัยใหม่อีกมากมาย ซึ่งด้วยความที่เป็นรถยนต์ที่มีการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม+กับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาจึงทำให้เจ้า Toyota Yaris คันนี้ ยังคงได้รับความสนใจและยังรักษาคะแนนเสียงตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 549,000 บาท – 684,000 บาท
- ในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ Honda City Hatchback คันนี้มียอดจำหน่ายสะสมไปแล้วถึง 12,375 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 36.1%
ข้อมูลเพิ่มเติม
บทสรุป
จากข้อมูลที่ได้นำเสนอเรื่อง 5 อันดับรถยนต์ Eco Car โฉม Hatchback ที่ขายดีที่สุดในช่วงต้นปี 2022 ไปจะเห็นได้ว่า รถยนต์ 5 ประตู หรือ Hatchback ก็มีฟังก์ชันที่น่าสนใจและจุดเด่นแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีต่างๆซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่การศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อก็นับว่ามีความจำเป็นและสำคัญมากเพราะจะต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลักเพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตมากที่สุดนั่นเอง และสุดท้ายก่อนลาจากกันในครั้งนี้ ผมและทีมงาน mywonderwheel หวังว่าบทความครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้ทุกท่านนะครับ ขอบคุณครับ