สำหรับในวันนี้ ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ประเภท อเนกประสงค์ไม่ควรพลาดเลย หรือ ผู้ที่เป็นพ่อบ้านสายซิ่ง แต่ก็ติดปัญหาไม่สามารถซื้อรถสปอร์ตได้ ก็ต้องห้ามพลาด กับรถยนต์ Lamborghini Urus รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง Super SUV คันแรกของโลก คันนี้เลย เพราะจะตอบโจทย์สำหรับทุกข้อที่กล่าวมา เพราะอย่างที่ชื่อเรื่องบอกไว้ว่ารถยนต์คันนี้จัดอยู่ในคลาสของ Super Car ที่มาในร่างของ SUV จึงกลายเป็น รถยนต์ Super SUV คันแรกของโลกไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยขุมพลัง 659 แรงม้า กับ แรงบิด 850 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับรถยนต์ Super Car จึงทำให้รถยนต์คันนี้ได้ครองสถิติรถยนต์ SUV ที่เร็วที่สุดในช่วงเวลาที่เปิดตัวออกมา จนทำให้ค่ายอื่น ๆ ต้องงัดไม้เด็ดออกมาสู่กันยกใหญ่ ซึ่งจะมีรายละเอียดและสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันเลยครับ
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Lamborghini Urus
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- มีกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต สีทูโทน สีดำ ตัดกับ สีของตัวรถ ตกแต่งด้วยเส้นสายรูปตัว Y
- มีลิ้นใต้กันชนหน้าแบบ คาร์บอนไฟเบอร์
- มีกระจังหน้าลาย Diamond Cut สีดำ
- มีช่องดักอากาศบนกันชนด้านหน้า
- มีสัญลักษณ์กระทิงดุ Lamborghini บนฝากระโปรงด้านหน้า
- มีโครมไฟหน้าสีดำ
- มีไฟหน้าแบบ Matrix Adaptive LED รูปตัว Y
- มีไฟหรี่ Daytime Running Light แบบ LED รูปตัว Y
- มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED 3 มิติ
- มีฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องดักอากาศบนฝากระโปรงเพื่อช่วยเสริม Aero Dynamic
- มีกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ และ สามารถเลือก Custom สีได้
- กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว
- ตัวกระจกปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองข้างมีระบบไล่ฝ้าในตัว
- กระจกมองข้างปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- มีหลังคากระจกแบบ Panoamic Sunroof
- เสาประตูตกแต่งด้วยสีดำ
- มี Skirt ด้านข้างสีดำ
- มีช่องรับอากาศบริเวณ Skirt ด้านข้าง
- มีไฟท้าย LED แบบ Light Gilding รูปตัว Y
- มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED 3 มิติ
- มีเสาอากาศแบบ ครีบฉลาม สีเดียวกับตัวรถ
- มีสปอยเลอร์สีเดียวกับตัวรถ
- มีระบบเปิด-ปิด ประตูด้านหลังโดยไม่ต้องใช้มือ ด้วยการกดเพียงแค่ปุ่มเดียว
- มี Kick Sensor ใช้เปิด-ปิด ประตูด้านหลัง
- มีกันชนท้ายสไตล์สปอร์ต สีทูโทน ใช้เป็นสีดำ ตัด กับสีตัวรถ
- มีช่องระบายอากาศบนกันชนท้าย หลังซุ้มล้อด้านหลัง
- มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังสไตล์สปอร์ต ใช้วัสดุแบบคาร์บอนไฟเบอร์
- มีท่อไอเสีย Akrapovic แบบ Two Pipe 4 ใบ ฝั่งละ 2 ใบ สามารถปรับระดับเสียงได้
- มีล้อแม็กซ์ Forged ลาย Alcione Shiny Silver ขนาด 21 นิ้ว
- มีล้อหน้าขนาด 9.5 นิ้ว X 21 นิ้ว ET28 มาพร้อมกับยางขนาด 285/45 ZR21
- มีล้อหลังขนาด 10.5 นิ้ว X 21 นิ้ว ET18 พร้อมยาง 315/40 ZR21
- มาพร้อมกับจานเบรกเซรามิค และ คาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่ที่สามารถเลือกสีได้
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาวทั้งหมดขนาด 5,112 มิลลิเมตร
- มีความกว้างทังหมด 2,016 มิลลิเมตร
- มีความสูงทั้งหมด 1,638 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 3,003 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 158-248 มิลลิเมตร
- มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 616 ลิตร และอีก 1,596 ลิตร เมื่อพับเบาะลง
- มีน้ำหนักตัวถังทั้งหมด 2,200 กิโลกรัม
- มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักรถอยู่ที่ 58 : 42
- มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด 75 ลิตร
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Lamborghini Urus
Interior:ภายในรถยนต์
- ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน สามารถเลือกเฉดสีได้อย่างหลากหลาย และ Custom ได้อย่างอิสระ
- ใช้วัสดุตกแต่งภายในด้วยหนัง และ Alcantara เดินตะเขิบด้วยด้ายสีเดียวกับตัวรถ หรือ ตามสีที่เลือก
- ใช้วัสดุตกแต่งอุปกรณ์ด้านในด้วยสีดำเงา , สีเงินโครเมี่ยม และ ลายคาร์บอนไฟเบอร์
- มีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบ Ambient Light
- มีกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- มีพวงมาลัย 3 ก้าน มัลติฟังก์ชัน
- มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full LCD Digital ที่มีฟังก์ชันรูปแบบการแสดงผลหลายรูปแบบ
- มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift
- มีเกียร์อัตโนมัติแบบ ปุ่มกดสไตล์ Super Car
- มีปุ่ม Push Start สไตล์สปอร์ตสีแดง
- มีกุญแจแบบ Keyless Go Entry
- มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ Traction Control
- มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ ABS
- มีปุ่มปรับระดับความสูงของช่วงล่าง หรือ Lift Control
- มีปุ่ม Launch Control
- มีแป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น
- มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ ซ้าย , ขวา และ ด้านหลัง
- มีช่องเชื่อมต่อ USB
- มีแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายแบบ Wireless Charged
- มีเบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วย Alcantara สีดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายสีเดียวกับตัวรถ หรือ ตามสีที่เลือก
- มีสัญลักษณ์กระทิกดุ Lamborghini ปักอยู่บนพนักพิงศีรษะ (ตัวเบาะนั่งสามารถเลือกตกแต่งได้อย่างอิสระ)
- มีเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Bucket Seat
- เบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยระบบไฟฟ้า
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบ Heater มาให้
- มีเบาะนั่งด้านหลัง 3 ที่นั่ง สไตล์สปอร์ต
- เบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 40 : 20 : 40
- เบาะนั่งด้านหลังตัวกลาง สามารถดึงลงมาเป็นที่วางแขนได้ พร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีชุดหน้าจอเครื่องเล่นระบบสัมผัส Touch Screen แบบ HMI ขนาด 8.4 นิ้ว
- สามารถรองรับระบบ Apple Car Play และ Android Auto
- รองรับระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth
- มีระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
- มีระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bang & Olufsen Surround Sound System
- มีระบบเชื่อมต่อ Smart Phone เข้ากับตัวรถที่รองรับระบบต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้
- มีระบบ Emergency Call System เป็นระบบโทรช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
- มีระบบ Telediagnostics ช่วยวิเคราะห์สภาพของรถยนต์
- มีระบบ Remote Engine Start ช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจรีโมท พร้อมสั่งงานให้เปิดระบบปรับอากาศได้ด้วย Smartphone
- มีระบบ Live Traffic Information ช่วยรายงานสภาพการจราจร
- มีระบบ ขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เครื่องยนต์รถยนต์ : Lamborghini Urus
Engine:เครื่องยนต์
- สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 Bi-Turbo Twin-Scroll ขนาด 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี 32 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ ใช้ลูกสูบขนาด 86 มิลลิเมตร กับ ระยะช่วงชัก 86 มิลลิเมตร ในอัตราส่วนกำลังอัด 9.7 : 1 สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้ 659 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Dual Clutch ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ AWD ที่มาพร้อมกับเฟืองหน้าและเฟืองท้ายแบบ Torsen และ ระบบ Active Torque Vectoring Differential ในเฟืองท้าย ช่วยให้การกระจายแรงบิดลงล้อทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเลขสมรรถนะที่รถยนต์คันนี้ทำได้ มีดังนี้
- สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3.6 วินาที
- สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 12.8 วินาที
- สามารถทำเวลาควอเตอร์ไมล์ หรือ สนามแข่งคลอง 5 บ้านเราได้ในเวลา 11.3 วินาที
- มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- สามารถเบรกจากความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในระยะเบรกเพียง 33.7 เมตร เท่านั้น
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งหมด 6 รูปแบบ
- โหมด Strada หรือ โหมดปกติ
- โหมด Sport โหมดนี้จะปรับความสูงของตัวรถลงมาเพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต
- โหมด Corsa หรือ โหมด Track ที่รู้จักกัน คือโหมดนี้รีดพละกำลังแรงม้าและแรงบิดออกมาได้มากที่สุด ลากรอบได้สูงสับเกียร์ทีหลักติดเบาะ ช่วงล่างแข็ง และ เสียงท่อจะแผดเสียงคำรามดังสนั่น รวมไปถึงโหมด Safety ต่าง ๆ ก็จะถูกตัดทอนลงไปเพื่อให้ได้ความเร็วที่มากที่สุด
- โหมด TERRA ใช้ขับขี่บนเส้นทางแบบ Off-Road พร้อมปรับช่วงล่างให้รถสูงขึ้น
- โหมด NEVE ใช้ขับขี่บนพื้นถนนที่มีหิมะปกคลุม พร้อมปรับช่วงล่างให้ตัวรถสูงขึ้น หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อโหมด Snow
- โหมด SABBIA ใช้ขับขี่บนพื้นทราย พร้อมปรับช่วงล่างให้สํงขึ้นด้วยเช่นกัน
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Lamborghini Urus
Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถัง และ ช่วงล่าง
- ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ MLB Evo Platform ที่ใช้เหล็กกล้าผสมกับโลหะ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และ เพื่อให้ตัวรถสมดุลกับพละกำลังเครื่องยนต์มากที่สุด จึงจำกัดไม่ให้โครงสร้างตัวถังมีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม
- ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD ที่สามารถกระจายน้ำหนักระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้อย่างอิสระ อยู่ที่ 40/60
- มีระบบ Torque Vectoring ที่ช่วยกระจายแรงบิดลงสู้ล้อได้มากขึ้น โดยล้อหน้าจะสามารถให้กำลังได้สูงสุดที่ 70% และ ล้อหลังอยู่ที่ 87% เพื่อลองรับการขับขี่บนทาง Off-Road ด้วยความเร็วสูงได้
- มีระบบเลี้ยว 4 ล้อ แบบเดียวกับในรุ่น Aventador S ซึ่งจะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปตามโหมดการขับขี่และความเร็วของรถ
- มีระบบกันสะเทือนด้านหน้า และ ด้านหลัง แบบถุงลม Adaptive Air Suspension ที่มาพร้อมกับระบบ Proactive Lift Control ที่ช่วยปรับระดับความสูง และ ค่าความแข็งอ่อน ตามโหมดการขับขี่ที่เลือก
- มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ใช้จากเบรกแบบ Carbon Ceramic ขนาด 440 มิลลิเมตร หนา 40 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 10 Pots
- มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็นดิสก์เบรก ใช้จากเบรกแบบ Carbon Ceramic ขนาด 370 มิลลิเมตร หนา 30 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 Pots
Safety:ระบบความปลอดภัย
- มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน
- มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
- มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4
- มีระบบ ESC ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
- มีระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และ ช่วยไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีโดยไม่จำเป็น
- มีระบบ ESS ช่วยเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินให้ทันทีเมื่อเบรกกะทันหัน
- มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- มีระบบ HDC ช่วยชะลอความเร็วรถยนต์ในเวลาลงทางลาดชัน
- มีระบบ TPLW ช่วยแจ้งเตือนเมื่อลมยางมีแรงดันที่ผิดปกติ
- มีระบบ ADF ช่วยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นการรวมเทคโนโลยีของด้านนี้ทุกอย่างรวมไว้ในระบบเดียว ให้ทำงานได้อย่างครบถ้วนตั้งแต่ เรื่องของความปลอดภัย ไปจนถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น
- มีระบบ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- มีระบบ เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
- มีระบบ แจ้งเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยชะลอความเร็วให้อัตโนมัติ
- มีระบบ รายงานสภาพจราจร
- มีกล้องมองภาพจากมุมสูง
- มีระบบ ควบคุมพ่วงท้ายเวลาลากจูง
- มีกุญแจรีโมทแบบ Smart Keyless ที่ทำหน้าที่ได้อย่างหลากหลาย สามารถตั้งโหมดการขับขี่แบบ EGO หรือ ระบบ Infotainment ได้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนจะขึ้นไปบนรถ
- มีเซนเซอร์ช่วยวัดระยะในการจอบรอบคัน
- มีเซนเซอร์แจ้งเตือกวัตถุ หรือ รถ ในมุมอับสายตารอบคัน
- มีกล้องมองภาพรอบคันรถแบบ 360 องศา
- มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
- มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- มีม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
จุดเด่นของรถยนต์ : Lamborghini Urus
สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามีอยู่ด้วยกันรอบด้าน เริ่มตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบที่มากับรูปร่างสุดล้ำสมัย แต่ยังคง DNA ของ Lamborghini ไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการใส่รายละเอียดดีเทลรูปตัว Y ตามชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก ส่วนต่อมาจะเป็นขุมพลังที่มากับเครื่อง V8 เบนซินทวินเทอร์โบ 659 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD สุดอัจฉริยะ กับเฟืองหน้าและเฟืองท้าแบบพิเศษ ที่สามารถรองรับแรงบิด 850 นิวตันเมตรได้แบบเต็มอัตรา และ ยังอัดแน่ไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงแบบจัดเต็ม ให้สมฐานะกับการเป็นรถ Super SUV
สรุปรถยนต์ : Lamborghini Urus
สำหรับรถยนต์คันนี้เรียกว่าอาจเป็นฝันสูงสุดของสายครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นรถที่ทั้งสวยงามหรูหรา และ เร็วแรงแบบเต็มพิกัด รวมมาในคันเดียว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะถูก JEEP Grand Cheroke Trackhawk ทำลายสถิติด้านความเร็วลงมาแล้ว แต่ด้วยความที่มี DNA ของ Lamborghini อยู่เต็มเปี่ยม ก็ยังทำให้รถยนต์คันนี้ได้รับความนิยมในตลาดโลกอยู่ดี
รถยนต์ Lamborghini Urus มีทั้งหมด 16 สี
ราคารถยนต์ : Lamborghini Urus
รถยนต์ Lamborghini Urus ราคา 23,420,000 บาท
ในรุ่นนี้มากับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty ระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และ เข้ารับการบำรุงรักษาฟรี ระยะเวลา 5 ปี หรือ เมื่อใช้งานครบ 75,000 กิโลเมตร โดยผู้แทนจำหน่าย Lamborghini ในประเทศไทยอย่าง Renazzo Motor ที่เป็นตัวแทนวางจำหน่าย และ การให้บริการหลังการขาย รถยนต์ Lamborghini เจ้าเดียวในประเทศไทย
Link ซื้อรถยนต์ : Lamborghini Urus
https://www.lamborghini.com/en-en/ownership/dealer-locator/lamborghini-bangkok
หากพูดถึง Lamborghini ก็คงมีฐานแฟนคลับที่เป็นคนไทยอยู่ไม่น้อย และ รถยนต์ Lamborghini Urus รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง Super SUV คันแรกของโลก คันนี้เองก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในประเทศไทยเช่นกัน ถึงแม้จะมีราคาที่สูงเทียบเท่ากับ Super Car หลาย ๆ รุ่น หรือ อาจจะสูงกว่าในบางรุ่น แต่กลุ่มลูกค้าของ Lamborghini ก็ยังเลือกที่จะมีรถคันนี้เป็นรถครอบครัวติดบ้านอีกหนึ่งคันด้วยเช่นกัน สำหรับวันนี้ mywonderwheel ต้องขอตัวลาไปก่อน ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นบทความเรื่องอะไร โปรดติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ
เครดิต : เว็บสล็อต