เปิดประวัติ Koenigsegg แบรนด์รถยนต์น้องใหม่สัญชาติสวีเดนที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี แต่สร้างสถิติโลกให้กับรถทุกรุ่นของเขาได้

เกร็ดความรู้เรื่องรถ

ถ้าพูดถึงแบรนด์รถยนต์ Hyper Car ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุด ในนาทีนี้ก็คงจะไม่พูดถึง Koenigsegg ก็คงไม่ได้ เพราะรถยนต์แบรนด์นี้มีอายุเพียงแค่ 27 ปี นิด ๆ เท่านั้น แต่สามารถสร้างตำนานให้กับวงการยานยนต์ได้มากมาย เพราะอะไร Koenigsegg ถึงถูกยกให้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีฝีมือฉกาจได้มากขนาดนี้ เราไปหาคำตอบกันในบทความ เปิดประวัติ Koenigsegg แบรนด์รถยนต์น้องใหม่สัญชาติสวีเดนที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี แต่สร้างสถิติโลกให้กับรถทุกรุ่นของเขาได้ เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลย 

จุดเริ่มต้นที่ไม่เหมือนใครของ Koenigsegg

จุดเริ่มต้นที่ไม่เหมือนใครของ Koenigsegg
  • แบรนด์ Koenigsegg เกิดขึ้นจากชายชื่อ Christian Von Koenigsegg ผู้ชื่นชอบและหลงใหลในยานยนต์มาตั้งแต่เกิด ช่วงอายุ 5 ขวบ เขาดูหนังเรื่อง The Pinchcliffe Grand Prix เกี่ยวกับช่างซ่อมจักรยาน ผู้สามารถสร้างรถแข่งของตัวเอง นั่นคือแรงบันดาลใจ เขามีความฝันที่อยากจะสร้างรถสปอร์ตที่สุดยอด ด้วยมือของเขาเอง แล้วเริ่มลงมือทำทันทีด้วยวัยเพียง 22 ปี เท่านั้น ในสมัยวัยรุ่น เขายังเคยเป็นที่รู้จักในฐานะจูนเนอร์จักรยานยนต์ ที่ดีที่สุดในเมืองอีกด้วย ปี 1994  ด้วยความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดาของเขา ทำให้เขาสร้างเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมา ในวันที่ 12 ตุลาคม คือ จุดกำเนิดของบริษัท Koenigsegg Automotive พร้อมรถต้นแบบรุ่นแรกที่เขาสร้าง Koenigsegg CC (Concept vehicle) ซึ่งใช้ระยะเวลาทำร่วม 2 ปีเท่านั้น
จุดเริ่มต้นที่ไม่เหมือนใครของ Koenigsegg
  • ปี 1996  Koenigsegg CC ถูกขับออกสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ที่สนาม Anderstorp race track โดยนักแข่งชื่อดังสมัยนั้น Rickard Rydell รวมถึงคนอื่น Picko Troberg และ Calle Rosenblad ทุกคนต่างให้คำชื่นชมในประสิทธิภาพตัวรถที่โดดเด่นอย่างมาก ปี 1997  ความสำเร็จที่เมืองคานส์ Koenigsegg CC ตัวต้นแบบ ถูกนำไปโชว์ตัวในงาน Cannes Film Festival ได้เสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย จากผู้ทดลองขับ และสื่อหลายสำนักต่างนำไปเขียนข่าว ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงมากขึ้น และพร้อมสำหรับการผลิตรุ่น Production

กำเนิด รถยนต์ Hyper Car Generation แรกของแบรนด์ที่ออกวางจำหน่าย

กำเนิด รถยนต์ Hyper Car Generation แรกของแบรนด์ที่ออกวางจำหน่าย
  • ปี 1998  Koenigsegg ตัดสินใจย้ายโรงงานจากเดิมตั้งอยู่ เมืองชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ Olofstrom ประเทศสวีเดน ไปโรงงานใหม่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีชื่อว่า Margretetorp และในปี 2000  รถต้นแบบ สำหรับการผลิตจริงคันแรกของ Koenigsegg ถูกนำไปเปิดตัวที่งาน Paris Motor Show ในเดือนกันยายน ชื่อรุ่น Koenigsegg CC8S ซึ่งในภายหลัง มันกลายมาเป็นรถทดสอบวิ่ง และทดสอบด้านการชน เพื่อนำไปวิเคราะห์ สำหรับเตรียมจะผลิตขายจริง โดยมันมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ซุปเปอชาร์จ 655 แรงม้า (BHP) แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 3.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 390 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน CC8S สำหรับขายจริงถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมถูกโชว์ตัวในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม

กำเนิดรถยนต์ Generation ที่ 2 ของแบรนด์ กับรุ่น CCR

กำเนิดรถยนต์ Generation ที่ 2 ของแบรนด์ กับรุ่น CCR
  • รถรุ่นใหม่ CCR ถือกำเนิด เป็นการพัฒนาต่อจาก CC8S ถูกผลิตในระหว่างปี 2004 ถึง 2006 ผลิตจำกัดเพียง 14 คัน ภายนอกมีการออกแบบล้ำสมัยมากขึ้น ด้านแอร์โรไดนามิกก็ถูกพัฒนา ช่วงล่าง ระบบเบรก เรียกได้ว่าทั้งคัน มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลัง V8 ซุปเปอร์ชาร์จคู่ 806 แรงม้า (BHP) แรงบิด 920 นิวตัน-เมตร เร่ง 0-100 ในเวลา 3.2 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 395+ กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมรับรางวัล 2004 World’s Most Powerful Production Engine รถที่เครื่องยนต์ทรงพลังที่สุดแห่งปี จาก Guiness World Record อีกด้วย ในปี ปี 2005 CCR รุ่นใหม่ ได้รับรางวัล 2005 World’s Fastest Car รถที่เร็วที่สุดในโลก จาก Guiness World Record ด้วยสถิติความเร็ว 387.86 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับโดย Mr. Loris Bicocchi ที่สนาม Nardo ประเทศอิตาลี ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 2005 ถือเป็นรถคันที่สอง ถัดจาก McLaren F1 ไฮเปอร์คาร์ระดับตำนาน ที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1998 ด้วยความเร็วสูงสุดระดับ 386.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง

กำเนิด รถยนต์ Generation ที่ 3 ของแบรนด์ กับรุ่น CCX

กำเนิด รถยนต์ Generation ที่ 3 ของแบรนด์ กับรุ่น CCX
  • ปี 2006  Koenigsegg เปิดตัวรถเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในชื่อ CCX โดยหน้าตายังคล้ายคลึงกับ CCR ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.7 ลิตร ซุปเปอร์ชาร์จคู่ 806 แรงม้า (BHP) แรงบิด 920 นิวตัน-เมตร เร่ง 0-100 ในเวลา 3.2 วินาที 0-200 ใน 9.8 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 395+ กิโลเมตร/ชั่วโมง ถูกพัฒนาด้านความปลอดภัย และค่าไอเสียเป็นไปตามมาตรฐาน Euro 4 ถือเป็น Koenigsegg รุ่นแรก ที่นำไปจำหน่ายในตลาดอเมริกา แถมทำสถิติความเร็ว สูงที่สุด 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่สนาม Top Gear Track ในรายการ Top Gear ของ BBC อันโด่งดัง และ 
กำเนิด รถยนต์ Generation ที่ 3 ของแบรนด์ กับรุ่น CCX
  • ต่อมาในปี 2008  Koenigsegg ก็ได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ CCX Edition และ CCXR Edition โชว์ตัวกันที Geneva Motor Show เดือน มีนาคม โดยมีจุดเด่นด้วยตัวถังโชว์ผิวงานคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อลายพิเศษ 11 ก้าน ปรับปรุงด้านแอร์โรไดนามิก และเซทช่วงล่างใหม่ให้ดียิ่งขึ้น CCX Edition ถูกผลิตเพียงแค่ 2 คัน ส่วน CCXR Edition ผลิตมา 4 คัน เท่านั้น แถมยังนำเจ้า Koenigsegg CCX สร้างสถิติความเร็วหลายครั้ง จากชายชื่อ Horst Von Saruma หัวหน้าบรรณาธิการนิตยสาร Sport Auto ที่มีประสบการณ์ขับขี่ในสนาม Nurburgring มาแล้ว CCX ตั้งมาตรฐานใหม่ของความเร็ว ด้วยตัวเลข 0-300-0 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 29.2 วินาที และอัตราเร่ง 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.3 วินาที

กำเนิด Koenigsegg Agera รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ Generation ที่ 4 ของแบรนด์

กำเนิด Koenigsegg Agera รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ Generation ที่ 4 ของแบรนด์
  • ปี 2010 รุ่นใหม่อย่าง Agera ชื่อนี้หมายถึง “Take Action” มันถูกเผยโฉมที่งาน Geneva Motor Show ในเดือนมีนาคม ทั้งภายนอก ภายใน ดูล้ำสมัยมากขึ้น ล้อ VGR Wheels ดีไซน์พิเศษให้เหมือนใบพัด ช่วยดึงความร้อนออกจากชุดเบรกได้ดี จากเดิมที่ใช้ซุปเปอร์ชาร์จในรุ่นก่อนๆ ถูกเปลี่ยนมาใช้เทอร์โบคู่แทน ปรับปรุงระบบท่อไอเสียใหม่ ช่วยลดอาการรอรอบ Turbo Lag  โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร กำลัง 960 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 1,100 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 3 วินาที 0-200 ใน 8.0 วินาที และได้รับรางวัล Top Gear Hypercar of the Year 2010 อีกด้วย 
กำเนิด Koenigsegg Agera รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ Generation ที่ 4 ของแบรนด์
  • ในปี 2015 ที่งาน Geneva เดือนมีนาคม Koenigsegg เปิดผ้าคลุม Agera RS ใหม่ ในรุ่นนี้เป็นการนำความรู้ทั้งหมดจากรุ่น One:1 มาปรับใช้ให้ความดุดันลดลง สำหรับใช้งานบนถนนมากขึ้น Agera RS คือ Koenigsegg ที่ทรงพลังที่สุด โดยใช้แค่น้ำมันออกเทน 95 ด้วยพละกำลัง 1,160 แรงม้า แรงบิดกว่า 1,000 นิวตันเมตร พร้อมแอร์โรไดนามิก ระบบควบคุมการทรงตัว ช่วงล่างประสิทธิภาพสูง Agera RS ผลิตออกมาเพียง 25 คัน เท่านั้น

กำเนิดรถยนต์ที่มีอัตราแรงม้าเท่ากับน้ำหนักของตัวรถ

กำเนิดรถยนต์ที่มีอัตราแรงม้าเท่ากับน้ำหนักของตัวรถ
  • ในปี 2014 Koenigsegg One:1 ถือกำเนิด ด้วยจำนวนการผลิตเพียง 7 คัน ถือเป็นรถผลิตโรงงานคันแรก World’s First Production Car ที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก เท่ากันคือ 1,341 กิโลกรัม กับ 1,341 แรงม้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น One:1  มีพลังมากกว่าทั้ง Veyron Super Sport, LaFerrari, McLaren P1 และ Porsche 918 Spyder   พละกำลังมาจาก เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ อัตราเร่ง 0-400 ใช้เวลาราว 20 วินาที เท่านั้น ล้อแม็คทำจากคาร์บอนไฟเบอร์  เบรกคาร์บอนเซรามิคจาก Agera R มีการอัพเกรดระบบช่วงล่างแบบ Triplex ให้ดีขึ้น ระบบแอร์โรไดนามิกแบบเต็มรูปแบบ ติดตั้งที่ลิ้นกันชนหน้า และสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟปรับมุมองศาได้ตามความเร็ว  ภายในรถมีระบบเชื่อมต่อ GPS ใช้จับเวลารอบในสนามแข่ง และมี Software ไว้บันทึกสถิติการขับ และมีระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ในปี 2015 Koenigsegg One:1 สร้างสถิติใหม่ 0-300-0  ใช้เวลาเพียง 17.95 วินาที เฉือนเวลาเร็วกว่า Agera R ถึง 3 วินาที

กำเนิดสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กับ Koenigsegg Regera

กำเนิดสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กับ Koenigsegg Regera
  • เป็นการพัฒนาก้าวกระโดด ด้วยรถรุ่นใหม่อย่าง Koenigsegg Regera โชว์ตัวที่งาน Geneva มาพร้อมไฮไลด์ มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ลูก ทำงานประสานกับเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และชุดแบตเตอรี่น้ำหนักเบา รีดกำลังรวมได้ 1,500 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 2,000 นิวตัน-เมตร โดยส่งกำลังไปสู่ล้อคู่หลังโดยตรง แบบไม่มีเกียร์ ผ่านระบบที่มีชื่อว่า Koenigsegg Direct Drive (KDD) ที่ทาง Christian Von Koenigsegg เป็นผู้คิดค้นขึ้นเอง ไม่จำเป็นจะต้องใช้เกียร์หลายๆ จังหวะอีกต่อไปซึ่งจะสูญเสียพลังงานไปเยอะกว่าที่จะส่งถึงล้อ Regera ถูกผลิตออกมา 80 คัน เท่านั้น

สรุป

กำเนิดสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กับ Koenigsegg Regera

สำหรับใครที่นึกภาพไม่ออกว่าแบรนด์ Koenigsegg นี้นั้นสุดยอดขนาดไหน ให้ทุกคนได้ทราบกันเอาไว้เลยว่า แบรนด์รถยนต์สัญชาติสวีเดนยี่ห้อนี้ เป็นแบรนด์เดียวในโลกที่ผลิตอะไหล่ทุกชิ้นส่วนขึ้นด้วยตนเอง แบบที่ไม่พึ่งบริษัทภายนอกแต่อย่างใด ซึ่งเหตุผลนี้เพียงข้อเดียวก็น่าจะเกินพอแล้ว จึงทำให้เราอยากนำเรื่องราวของเขามาฝากเพื่อน ๆ กันใน บทความ เปิดประวัติ Koenigsegg แบรนด์รถยนต์น้องใหม่สัญชาติสวีเดนที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี แต่สร้างสถิติโลกให้กับรถทุกรุ่นของเขาได้ เรื่องนี้ และล่าสุดปี 2019 ที่ผ่านมานี้ Koenigsegg ก็ได้เผยโฉมรถ Megacar รุ่นล่าสุด Koenigsegg Jesko โดยชื่อนี้ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้กับประธานบริษัท Jesko Von Koenigsegg ซึ่งก็คือคุณพ่อของ Christian Von Koenigsegg นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่ผ่านมาคุณพ่อเขาคอยสนับสนุนลูกชายอยู่ตลอด นับตั้งแต่ยังไม่เริ่มก่อตั้งบริษัท Koenigsegg Jesko ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เป็นแบบ Flexfuel รีดพละกำลังได้ 1,600 แรงม้า (เมื่อใช้น้ำมัน E85) แรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตันเมตร เชื่อมเข้ากับระบบเกียร์ 9 สปีด คลัทซ์คู่ Light Speed Transmission (LST) อันรวดเร็ว

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

บริการรับ จำนำรถ

TAG