วิธีการเลือกรถจักรยานยนต์สำหรับผู้หญิง พร้อมกับสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อ และ ข้อแนะนำในการขับขี่

บทความ วิธีการเลือกรถจักรยานยนต์สำหรับผู้หญิง พร้อมกับสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อ และ ข้อแนะนำในการขับขี่ เรื่องนี้ เราจึงจะมาแชร์วิธีการเลือกมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะที่มาพร้อมคำแนะนำจาก Riding Instructor ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่รถจักรยานยนต์ ทั้งสำหรับการขับขี่ทั่วไปในเมืองและสำหรับขี่ท่องเที่ยว ออกทริปในระยะทางไกล ๆ ได้ ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ทำให้ระบบต่าง ๆ ของมอเตอร์ไซค์ถูกพัฒนาไปมาก วันนี้จึงจะมาแนะนำการเลือกมอเตอร์ไซค์สำหรับกลุ่มผู้หญิงให้ตรงการสไตล์การขับขี่ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุด

วิธีการเลือกรถจักรยานยนต์สำหรับผู้หญิง

1. สำหรับขับขี่ในเมือง การเดินทางในเมืองโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ นอกจากจะช่วยให้เดินทางได้สะดวกรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์แล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย แต่การเลือกมอเตอร์ไซค์สำหรับขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่เป็นผู้หญิงนั้น ต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมในการใช้งานร่วมด้วย ดังนี้

• เลือกรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 110 – 150cc ขนาดไม่สูงและใหญ่เกินไป การเดินทางในเมืองถือเป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความสะดวกรวดเร็ว ดังนั้นรถที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองจำเป็นจะต้องตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

• ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากเทคโนโลยีการประหยัดน้ำมันแล้ว ขนาดของเครื่องยนต์ก็เป็นตัวชี้วัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้เป็นอย่างดี ยิ่งมี cc มาก อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะมากขึ้นตามลำดับ แม้จะได้อัตราเร่งในการขับขี่ที่ดีขึ้น แต่หากเลือกเครื่องยนต์ที่ขนาดใหญ่เกินความจำเป็นจะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ดังนั้นสำหรับการขับขี่ในเมือง ขอแนะนำให้เลือกขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 110 – 150cc ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
• ความคล่องตัวในการขับขี่ สำหรับผู้หญิงขอแนะนำว่าไม่ควรเลือกมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดสูงใหญ่เกินไป เพราะการขับขี่ในเมืองบ่อยครั้งอาจต้องขับขี่ฝ่าการจราจรที่แออัดอย่างต่อเนื่อง หากตัวรถมีขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้ขับขี่ไม่สะดวกและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

• เลือกระบบเกียร์ธรรมดาหรือออโต้ตามสไตล์การขับขี่ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซต์ได้มีการออกแบบรถรุ่นต่าง ๆ ให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ขับขี่ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่คือ “ระบบเกียร์” ซึ่งจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ

• รถมอเตอร์ไซต์เกียร์ธรรมดา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและต้องการเพิ่มอรรถรสในการขับขี่สำหรับสายชอบความเร็ว ทั้งยังช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาได้มากกว่ารถเกียร์ออโต้ เพราะระบบรถไม่มีความซับซ้อนมากนัก แต่จะต้องมีการควบคุมและจับจังหวะรถให้เหมาะสม ผู้ขับขี่จึงต้องมีทักษะการขับรถที่ดีด้วยเพื่อความปลอดภัย
• รถมอเตอร์ไซต์เกียร์ออโต้ เหมาะสำหรับมือใหม่หรือสายชิลล์ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการขับขี่ สามารถควบคุมรถได้ผ่านการควบคุมคันเร่งและเบรก ถือเป็นรถที่ใช้งานในเมืองได้ดี เพราะจะต้องมีการเร่งและหยุดรถบ่อยครั้ง จึงลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนเกียร์และยังช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่

• เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันทันสมัย เช่น กุญแจรีโมตอัจฉริยะ ช่อง USB ที่ชาร์จมือถือ ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานรถมอเตอร์ไซต์ถือว่ามีความจำเป็นสำหรับการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบัน ซึ่งฟังก์ชันขอที่แนะนำมีดังนี้ 

• ระบบ Key Less ระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ มีข้อดีคือสามารถควบคุมการทำงานของรถได้ผ่านกุญแจรีโมตเพียงอันเดียว ซึ่งนอกจากจะสะดวกแล้ว ยังช่วยป้องกันการโจรกรรมรถได้เป็นอย่างดี
• ช่องเสียบ USB ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องขับขี่รถไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นชินบ่อยครั้ง และต้องอาศัยการเปิดแผนที่ในขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ไปตลอดเส้นทาง
• กุญแจแบบ Multi-function มีข้อดีคือใช้ควบคุมการใช้งานได้ในจุดเดียว ทั้งการล็อก สตาร์ทหรือเปิดเบาะ จึงให้ความสะดวกสบาย

2. สำหรับขับขี่ท่องเที่ยว ปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะไบค์เกอร์ผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงหลายคนยังกลายเป็นไบค์เกอร์เช่นกัน ซึ่งการเลือกรถให้เหมาะสมในการออกทริปและเหมาะกับสรีระรูปร่างที่แตกต่างจากผู้ชายจะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

• เลือกรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 125cc ขึ้นไป ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ทางไกล ควรเลือกใช้รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากการเดินทางไกลต้องมีความเร็วที่เหมาะสม หากเครื่องยนต์เล็กเกินไป (เครื่องยนต์ขนาด 110 – 125cc) อาจทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง โดยขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับการขับขี่เดินทางไกลควรมีขนาดเครื่องยนต์ 125cc ขึ้นไป เพื่อการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและช่วยลดความเมื่อยล้าในการขณะขับขี่ทั้งยังช่วยให้เร่งแซงได้อย่างมั่นใจและสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่แซงได้อย่างปลอดภัยในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

• เลือกรุ่นที่มีพื้นที่ใต้เบาะรถขนาดใหญ่และเป็นระบบโช็คอัพคู่ ในการออกทริปเดินทางแต่ละครั้งมักจะต้องมีสัมภาระมากมาย ซึ่งหากใครที่มีทริปเดินทางบ่อย ๆ ขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่ออกแบบพื้นที่ใต้เบาะรถให้มีขนาดใหญ่ สามารถใส่สัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางได้อย่างสบาย และบางรุ่นยังสามารถใส่หมวกกันน็อกได้ถึง 2 ใบด้วย

• เลือกระบบ Disc Brake หรือ ABS ในการขับขี่ขึ้น-ลงเขา กรณีที่ต้องขับรถมอเตอร์ไซต์ขึ้น – ลงเขาด้วย สิ่งสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่ที่แรงขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ระบบเบรกของรถถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับขี่บนเส้นทางลาดชันหรือพื้นที่วิบาก ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรเลือกระบบเบรกให้เหมาะสม ดังนี้

• ระบบ Disc Brake ระบบเบรกที่เป็นจานดิสก์เป็นระบบการหยุดรถที่ช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าต้องเลือกระหว่างเบรกหน้าหรือเบรกหลังในการขับขี่ขึ้น – ลง เขาขอแนะนำให้เลือกระบบ Disc Brake แบบเบรกหน้าเพราะสามารถช่วยหยุดรถได้ดีกว่า
• ระบบ ABS ระบบเบรกแบบ Anti-Lock Brake System เป็นระบบเบรกที่เหมาะในการใช้กับรถที่ขับขึ้น – ลงเขาเพราะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยกรณีต้องเบรกฉุกเฉินโดยไม่ให้รถเสียหลักล้ม ทั้งนี้ ยังเหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซต์ที่ใช้ขับขี่ในเมืองหรือรถที่ต้องขับขี่เดินทางไกลอีกด้วย

เลือกรุ่นที่มีขนาดเหมาะสม น้ำหนักรวมของรถไม่เกิน 3 เท่าของน้ำหนักผู้ขับขี่ 

น้ำหนักและขนาดของรถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการขับขี่มาก ซึ่งรถที่มีขนาดสูงใหญ่เกินไปจะไม่สะดวกในการขับขี่และยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย ด้านความสูงของตัวรถขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่ผู้ขับขี่สามารถใช้เท้าคำยันพื้นได้ โดยวิธีสังเกตว่ารถมีความสูงเกินไปหรือไม่ อาจสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยการเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นได้ ถือว่ารถมีความสูงเกินไป ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่โดยเฉพาะการขับขี่ในย่านการจราจรแออัด นอกจากนี้ น้ำหนักของตัวรถก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้ขับขี่ควรเลือกรถมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักรวมของรถไม่เกิน 3 เท่า ของน้ำหนักผู้ขับขี่ เช่น ผู้ขับขี่น้ำหนัก 60 กิโลกรัม ก็ควรเลือกรถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 180 กิโลกรัม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถประคองรถได้ดี เพราะอาจจะต้องมีการเข็นรถหรือต้องประคองรถขณะจอดเมื่อติดไฟแดง เป็นต้น

เลือกยี่ห้อมอเตอร์ไซค์ที่มีศูนย์บริการครอบคลุมและใกล้บ้าน

เพื่อให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรจะต้องทำบำรุงรักษารถมอเตอร์ไซค์ให้มีสภาพดีและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยทำได้ด้วยการหมั่นตรวจเช็กสภาพรถและอุปกรณ์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมถึงของเหลวภายในรถ เช่น น้ำมัน น้ำมันเครื่อง เป็นต้น  สำหรับผู้ขับขี่ผู้หญิงอาจจะไม่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์มากนัก จึงควรนำรถไปซ่อมบำรุงกับอู่หรือช่างที่มีความชำนาญโดยเฉพาะ หรือหากเป็นไปได้ขอแนะนำให้เลือกซื้อรถยี่ห้อที่มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อการบำรุงรักษารถแต่ละครั้ง ทั้งในกรณีที่ต้องซ่อมบำรุงตามรอบและในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เกิดรถเสียกลางทางขณะเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งก็จะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับข้อมูลที่เราได้นำมาฝากกันใน บทความ วิธีการเลือกรถจักรยานยนต์สำหรับผู้หญิง พร้อมกับสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อ และ ข้อแนะนำในการขับขี่ เรื่องนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม คือ “การดูแลรักษา” เพราะแม้ว่ามอเตอร์ไซค์ที่คุณเลือกซื้อจะมีประสิทธิภาพมากเพียงใด แต่ถ้าขาดการดูแลอย่างสม่ำเสมอก็อาจจะทำให้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบลมยาง, การสึกหรอของยางนอก, น้ำมันเครื่อง, ปริมาณน้ำมันรถที่เหลืออยู่ รวมไปถึงการทำความสะอาดรถเป็นประจำให้ดูใหม่อยู่เสมอ หากทำได้เช่นนี้ มอเตอร์ไซค์คันโปรดก็จะอยู่กับคุณได้นานขึ้นอย่างแน่นอน