น้ำมันเบรกช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เบรกอย่างไร หากหมดไปจะทำให้เกิดอาการ เบรกเฟด หรือไม่   

ในการทำงานของรถยนต์ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงนั่นก็คืออุปกรณ์ห้ามล้อทั้ง 4 ล้อ หรือ เบรก ที่เราเรียกกันซึ่งตัวเบรกเองก็ต้องใช้น้ำมันหล่อเลี้ยงในการทำงานเหมือนกับเครื่องยนต์เช่นกัน สำหรับหลายท่านที่กำลังสงสัยว่า น้ำมันเบรกช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เบรกอย่างไร หากหมดไปจะทำให้เกิดอาการ เบรกเฟด หรือไม่ โดยในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปหาคำตอบในเรื่องนี้กัน พร้อมกับวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเบรกเฟดในระหว่างขับขี่

น้ำมันเบรก คืออะไร

• น้ำมันเบรก คือ ของเหลวชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่น้ำมันแต่ในประเทศไทยยังไม่มีคำจำกัดความที่ใช้เรียก Brake Fluid อย่างเป็นทางการจึงเรียกน้ำมันเบรกกันเรื่อยมา แต่ที่จริงเป็นสารเคมีที่นำมาผสมกันระหว่าง อีเทอร์ (Ether) และ ไกลคอล (Glycol) ที่ให้ความหล่อลื่นคล้ายกับน้ำมัน ซึ่งสาร 2 ชนิดนี้จะช่วยให้เบรกมีแรงดูดซับความชิ้นได้ดีมากขึ้นโดยทำปฏิกิริยากับอากาศและลมที่ได้สัมผัส
• ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกอย่างไร ในการเปลี่ยนถ่ายในมันเบรกปกติ ควรเปลี่ยนถ่ายทุกๆครั้งเมื่อวิ่งครบที่ 20,000 ไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนในประเทศไทย ให้หมั่นตรวจเช็คน้ำมันเบรกพร้อมๆกับการตรวจเช็คน้ำมันเครื่องเมื่อวิ่งครบที่ 10,000 กิโลเมตร
• หากน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพจะดูจากอะไร หากเกิดอาการเหล่านี้ต้องรีบแก้ไขตรวจเช็คโดยด่วนเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อตัวท่านและผู้อื่น ตั้งแต่อาการ
  • เบรกแล้วมีเสียงดัง
  • จานเบรกเสียดสีกับเบรก
  • เบรกแล้วรู้สึกไม่มีน้ำหนัก หรือ ต้องใช้แรงเบรกมากขึ้น
  • เบรกหายหรือเบรกไม่อยู่

อาการเบรกเฟด (Brake Fade) คืออะไรและเกิดจากอะไร

อาการเบรกเฟรด (Brake Fade) คือ อาการที่เราเหยียบเบรกแล้วเบรกสร้างแรงต้านทานได้น้อยลงหรือไม่ยึดเกาะเลย โดยจะเกิดขึ้นได้ทั้งในเบรกแบบดรัมเบรกและดิสก์เบรก อาการนี้หากเกิดขึ้นจะเป็นอันตรายมากทั้งต่อตนเองและผู้ร่วมทาง 

อาการเบรกเฟด เกิดได้จาก 2 กรณี 

• เกิดจากผ้าเบรก หรือ Mechanical Fade ในกรณีนี้เกิดจากการที่ผ้าเบรกเสื่อมสภาพหรือเกิดความเสียหายจากความร้อนจนทำให้ตัวผ้าเบรกละลายไม่สามารถจับกับจารเบรกได้ อาการนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่ามีการใช้เบรกมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถ้าใช้ผ้าเบรกที่ไม่มีคุณภาพอาจเกิดการละลายได้โดยเฉพาะในเวลาที่ขึ้นเขาลงเขาเวลานานๆ หรือ ผ้าเบรกที่หมดอายุที่ไม่ได้เปลี่ยนตามกาลเวลานั่นก็จะทำให้ผ้าบางหรือหมด นี่ก็จะทำให้เกิดอาการเบรกเฟดได้เช่นกัน หากไม่ทำการเปลี่ยนแล้วฝืนใช้งานต่อก็จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอย่างนับไม่ถ้วน
• เกิดจากน้ำมันเบรก หรือ Fluid Fade อย่างที่กล่าวไว้ด้านบนว่าน้ำมันเบรกคือของเหลวชนิดหนึ่งที่ใช้หล่อเลี้ยงการทำงานของเบรก โดยปกติของเหลวทุกชนิดบนโลกนี้สามารถระเหยการเป็นไอได้เสมอหากถึงจุดเดือด ไม่ว่าจะเก็บอยู่ในภาชนะที่ดีแค่ไหนก็ตาม โดยน้ำมันเบรกปกติจะมีจุดเดือดอยู่ที่ 230 องศาเซลเซียส หากใช้งานอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้จานเบรกและผ้าเบรกมีอุณหภูมิสูง ส่งผลไปถึงน้ำมันเบรกที่อยู่ในท่อทางเดินน้ำมันด้วยเช่นกัน หากท่อทางเดินมีอุณหภูมิมากกว่าจุดเดือดของน้ำมันเบรก ก็จะเกิดอาการน้ำมันเบรกระเหยจนไม่เหลือส่งไปหล่อเลี้ยงระบบการทำงาน จึงทำให้เกิดอาการเบรกเฟดได้

ควรเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ หากไม่อยากให้เกิดอาการเบรกเฟด

• หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 
• หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกค้างโดยไม่จำเป็น ควรเผื่อระยะการเบรกให้ดีให้เบรกอยู่โดยใช้ระยะเวลาไม่มาก
• ห้ามปล่อยให้ผ้าเบรกหมดแล้วใช้งานโดยเด็ดขาด ถึงจะไม่ได้ทำให้เบรกไม่อยู่เลยแต่จะส่งผลเสียให้กับจารเบรกโดยตรงนอกจากจะเบรกไม่อยู่ในครั้งต่อไปยังจะต้องไปเจียรจารเบรกใหม่ หรืออาจต้องเปลี่ยนได้
• ห้ามให้น้ำมันเบรกหมดเช่นกันหมั่นตรวจเช็คทุกครั้งพร้อมกับน้ำมันเครื่องจะดีที่สุด ดูไว้ไม่เสียหายแน่นอน

หากเกิดอาการเบรกเฟดจะมีวิธีรับมืออย่างไร

อาการนี้หากดูแลรักษาอย่างดีแล้วก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ในปัจจุบัน แต่ถ้าหากเกิดขึ้นเราก็พอจะมีวิธีรับมืออยู่บ้างหากเรารู้ตัวก่อน ถ้ารู้สึกว่าเบรกมีแรงยึดเกาะที่น้อยลงให้ทำการชะลอความเร็วแล้วทำการ Cooldown หรือพักการใช้เบรก หากรถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ค่อยๆลดระดับเกียร์ลงแล้วยกคันเร่งค่อยๆทำให้รถพอมีแรงฉุด ปล่อยให้รถไหลแล้วรอสักพักค่อยๆลองเบรกดู หากมีรถไม่เยอะให้ปล่อยรถไหลให้อากาศระบายความร้อนให้กับตัวเบรก หากเป็นเกียร์ออโต้ให้อยู่ที่เกียร์ D แล้วยกคันเร่ง ปล่อยไหลไว้สักพักแล้วค่อยๆลองเบรกดูอีกที 

อาการ Brake Fade จะแตกต่างจากอาการ Vapor Lock ซึ่งอาการ Vapor Lock หมายถึงอาการที่เบรกไม่ทำงานเนื่องจากการเหยียบเบรกมากเกินไปจนเกิดฟองอากาศที่ท่อส่งน้ำมันเบรกทำให้แรงดันของน้ำมันเบรกที่ฉีดเข้าสู่ก้ามปูที่เป็นตัวกดผ้าเบรกไม่ปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ยากในการขับขี่แบบปกติในชีวิตประจำวันหากไม่ได้ใช้ในการแข่งขัน โดยเรามักจะเห็นอาการนี้ได้จากการแข่งขันรถยนต์ที่ใช้เวลาการแข่งอย่างยาวนาน

หากไม่อยากให้เกิดอาการเบรกเฟด ที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวท่านและผู้ร่วมทางท่านอื่น ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ของท่านให้ดี และปฏิบัติตามวิธีที่เราได้มานำเสนอผ่านบทความ น้ำมันเบรคช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เบรคอย่างไร หากหมดไปจะทำให้เกิดอาการ เบรคเฟด หรือไม่ เรื่องนี้ ก็จะทำให้คุณใช้งานรถยนต์ได้อย่างปลอดภัยและยากที่จะเกิดอาการดังกล่าวมากขึ้นครับ ก่อนลาจากกันในครั้งนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามผลงานมาตลอด แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ mywonderwheel

Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ