ในการเดินทางไกลด้วยรถยนต์แต่ละครั้งที่หลายท่านมักพบเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิดเสมอในระหว่างการเดินทาง ทั้งเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องร้ายแรง เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่า ควรเตรียมตัวอย่างไรให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ปลอดภัยที่สุด เป็นเกร็ดความรู้รอบตัวที่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านควรจะมี เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งในการเดินทาง และเมื่อในยามเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็สามารถรู้ก่อนและแก้ไขได้อย่างทันที จะมีวิธีการเตรียมรถและเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันครับว่าผู้ที่เค้าเดินทางไกลเป็นประจำกันว่าพวกเขามีวิธีปฏิบัติกันอย่างไร สำคัญมากห้ามพลาดกันเลยนะครับ
วิธีเตรียมความพร้อมของรถยนต์
- ทำการตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องก่อนออกเดินทางสัก 1 วันเพื่อที่หากขาดไปจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาในวันเดินทางอีกรอบ และตรวจเช็คก่อนวันเดินทางอีกรอบหากได้ทำการเติมไปแล้วแต่ยังขาดอยู่แสดงว่ามีจุดที่รั่วซึมให้รีบแก้ไขทันที หากใช้เดินทางต่อต้องเกิดปัญหาระหว่างทางได้แน่
- ตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง หากในการเดินทางของคุณแบตเตอรี่เกิดมีปัญหาระหว่างทางไม่ว่าจะเสื่อมหรือใดๆก็ตามก็คงจะทำให้หมดสนุกไปเลยก็ได้ โดยปกติแบตเตอรี่ที่ติดมากับรถยนต์จะมีอายุใช้งานไม่เกิน 3-4 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และแบตเตอรี่แบบแห้งที่มีราคาสูงจะอยู่ได้ยาวนานถึง 10 ปีเลย เพราะฉะนั้นเราจึงนำวิธีการตรวจเช็คแบตเตอรี่เบื้องต้นมาฝากกัน เริ่มจาก
- สังเกตสัญลักษณ์แจ้งเตือนบริเวณหน้าปัดเรือนไมล์
- เป็นฝากระโปรงตรวจดูที่ขั้วแบตเตอรี่ว่ามีอาการหลวม หรือมีขี้เกลือขึ้นหรือไม่เพราขี้เกลือจะเป็นจุดที่ทำให้กระแสไฟเดินได้ไม่สะดวก
- ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบแห้งให้ดูที่ตาแมวแบตเตอรี่ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีตำแหน่งที่แตกต่างกัน
- หรือทดสอบแบตเตอรี่แบบ Virtuel โดยผ่านอุปกรณ์
- ตรวจเช็คลมยางให้เรียบร้อยให้อยู่ระดับที่เหมาะสมของรถยนต์ของคุณ ในส่วนการเดินทางไกลควรเติมลมยางเพิ่มจากมาตรฐานไปอีกประมาณ 3-5 ปอนด์ (PSI) หากลมยางอ่อนไปอาจเกิดความเสี่ยงทำให้ยางระเบิดได้ หากใช้ความเร็วสูงในการเดินทางไกล และลมยางอ่อนจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้นถึงจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาขับก็ตามแต่ไม่เหมาะยางมากในเวลาเดินทางไกล
- ตรวจเช็คผ้าเบรคอาจจะฟังดูยุ่งยากแต่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของรถยนต์ ที่ต้องหมั่นตรวจเช็คในระยะเวลาทุกๆ 3 เดือน และควรเปลี่ยนเมื่อมีอายุการใช้งานครบ 40,000 – 50,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ และน้ำมันเบรกที่ควรเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากรถของเราเบรกมีปัญหาในระหว่างการใช้งานล่ะก็ไม่อยากจะนึกถึงเลย
- ตรวจเช็คระบบไฟหน้าไฟท้ายไฟฉุกเฉินของรถและระบบไฟทุกส่วนก่อนการเดินทาง ในรถทุกคันที่มีอายุการใช้งานมานานมักจะเจอปัญหาไฟเสื่อมสภาพและโคมไฟที่ขุ่นมัวหรือมีน้ำเข้าไปเกาะได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะไม่ได้ทำให้ไฟดับโดยตรงแต่จะเป็นการไปลดทัศนวิสัยในการขับขี่ตอนกลางคืนให้ส่องสว่างได้น้อยลง อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้
- ตรวจเช็คยางปัดน้ำฝนว่ามีการเสื่อมสภาพหรือไม่หากเสื่อมสภาพ แล้วนำไปใช้ในขณะฝนตกจะอันตรายมากๆเพราะยางจะไม่สามารถรีดน้ำออกได้จึงทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงอย่างชัดเจน ถ้าตกหนักมากจะถึงขั้นมองไม่เห็นทางข้างหน้าได้เลย เป็นอันตรายมากๆ ในกรณีน้ำฉีดล้างกระจกหากหมดไปในเวลาเจอฝุ่นหรือเจอวัตถุแปลกปลอมที่มาติดกระจกหน้ารถเราจะไม่สามารถล้างและทำความสะอาดได้ทันที หากใช้ความเร็วอยู่ก็อันตรายมากๆ ควรตรวจเช็คและหมั่นเติมให้เต็มอยู่ตลอด และระบบปัดน้ำฝนตรวจเช็คดูว่าใช้งานได้ปกติในทุกระดับหรือไม่
- ตรวจเช็คอุปกรณ์ติดรถยนต์ต่างๆ เช่น
- ยางอะไหล่
- อุปกรณ์ชุดเครื่องมือซ่อม
- สายพ่วงแบตเตอรี่
- แม่แรงและอุปกรณ์เปลี่ยนล้อ
- ถังดับเพลิงและที่ทุบกระจก (ถ้าเป็นรถตู้)
- ตรวจเช็คเอกสารติดรถยนต์ เช่น
- พ.ร.บ.
- กรมธรรม์ประกันภัย
- ทะเบียนรถ
- ป้ายภาษี
วิธีเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ศึกษาเส้นทาง เลือกจุดพักรถ
- ทำความรู้จักกับองค์ประกอบของรถยนต์ที่จะใช้ให้มากที่สุด ว่ามีระบบอะไรบ้าง ปุ่มต่างๆที่ใช้งานอยู่บริเวณไหน เบรกและพวงมาลัยเป็นอย่างไร
- ศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า บันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ
- เตรียมเอกสารประจำตัว เช่น
- ใบขับขี่
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือ พาสปอร์ต
- เตรียมสิ่งของที่ต้องใช้ติดตัวระหว่างทาง เช่น
- สายชาร์จแบต
- หูฟังไวเรสไร้สาย ใช้ในระหว่างขับ
- ตัวส่งสัญญาณ WiFi ในกรณีที่อยู่ในเส้นทางที่ไม่รู้จัก สัญญาณอินเตอร์เน็ตถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
- แว่นกันแดด เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยถนอมสายตาให้ผ่อนคลายในการขับรถ เวลาเข้าขับเข้าหาพระอาทิตย์
- อาหารว่างและน้ำดื่ม
- เงินสด ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย แต่ในกรณีเดินทางไกลทุกครั้งควรสำรองเงินสดติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย
สิ่งที่ควรระวังและควรเลี่ยงในระหว่างการเดินทางไกล
- การขับรถด้วยความเร็วสูง ที่ทั้งทำให้อันตรายและกินน้ำมันมาก รวมถึงยังส่งผลให้กับร่างกายของผู้ขับขี่ที่ต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลาที่ใช้ความเร็ว จึงทำให้เกิดความเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เพราะเราต้องใช้สายตายจ้องโฟกัสอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการใช้ความเร็วในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้หลายกรณี ตามข่าวที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
- รู้ขีดจำกัดของตัวเองไม่ฝืนร่างกายตัวเอง หากถึงลิมิตที่จะต้องพักก็ต้องหาที่พักก่อนไม่ควรฝืนขับต่อเพราะจะทำให้เกิดอันตรายจากการหลับในที่ เป็นอันตรายต่อตัวคุณและผู้อื่นได้
- หากจะจอดพักนอนในรถควรหาที่จอดที่ปลอดภัยเช่นในปั้มน้ำมันที่มีกล้องวงจรปิด หรือจุดจอดรถที่มีความปลอดภัยไม่ควรจอดนอนข้างทาง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายจากการถูกชนท้าย หรือดักทำร้ายชิงทรัพย์ได้
- ไม่ควรดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังในปริมาณที่มากกว่ากำหนดในเวลาขับรถ ซึ่งกาแฟถ้าดื่มเกิน 4 แก้วก็จะทำให้ใจสั่นและเป็นอันตรายในการขับรถได้ ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังพอดื่มไปมากๆจะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง และพอถึงช่วงเวลาที่เครื่องดื่มหมดฤทธิ์ก็อาจจะทำให้สมองเบลอได้
- เลี่ยงการขับตามรถบรรทุก ในการเดินทางออกต่างจังหวัดแต่ละครั้งเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอรถบรรทุกใช้ถนนร่วมกันตลอดเส้นทาง สาเหตุที่ต้องหลีกเลี่ยงรถบรรทุกเพราะรถบรรทุกที่ทั้งสูงใหญ่และมีความยาวมาก จึงทำให้เป็นรถที่มีจุดอัพสายตารอบคัน ควรเว้นระยะห่างมากขึ้นในการแซงแต่ละครั้ง และนี่เป็นคำเตือนจากกรมตำรวจทางหลวง
- ด้านหน้าของรถบรรทุก อย่าลืมว่ารถบรรทุกนั้นสูงจึงมองไม่เห็นรถหรือวัตถุด้านหน้าที่อยู่ในระยะประชิด หากต้องการแซง จึงต้องเว้นระยะห่าง 3-4 คันของรถยนต์
- ด้านขวาของรถบรรทุก อีกหนึ่งจุดบอดของรถบรรทุกคือด้านขวา เลี่ยงการขับขนาบด้านขวาของรถบรรทุกเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- ด้านซ้ายของรถบรรทุก ถือเป็นพื้นที่อันตรายที่สุดเพราะกระจกมองข้างด้านซ้ายอยู่ห่างจากคนขับ ควรหลีกเลี่ยงการขับขนาบด้านซ้ายของรถบรรทุก
- ด้านหลังของรถบรรทุก รถเล็กควรอยู่ห่างจากหลังรถบรรทุกอย่างน้อย 10 เมตร เพื่อป้องกันรถบรรทุกเบรกหรือถอยหลังกะทันหัน ป้องกันของตกหล่นจากหลังรถบรรทุก
สำหรับวันนี้ก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับบทความเรื่อง ควรเตรียมตัวอย่างไรให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ปลอดภัยที่สุด หวังว่าบทความครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ให้ได้นำไปใช้ในการเดินทางทุกครั้งไปนะครับ สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวคุณกับผู้โดนสารภายในรวมถึงผู้ร่วมทาง mywonderwheel