หลังจากที่พาไปดูรถที่แพงที่สุดในโลกกันแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของรถที่แรงที่สุดในโลกกันบ้าง กับบทความ 10 อันดับ รถยนต์ Production Car ที่เร็วแรงที่สุดในโลก ที่ถูกบันทึกสถิติไว้ในปัจจุบัน ปี 2023 เรื่องนี้ ที่ได้รวบรวมเหล่ารถยนต์ที่ทำความเร็วได้สูงที่สุดในโลกมาฝากกัน 10 อันดับ ซึ่งจะมีรถรุ่นอะไรบ้างนั้นและเจ้าของสถิติจะเป็นใครเราไปรับชมกันเลย
10 อันดับ รถยนต์ Production Car ที่เร็วแรงที่สุดในโลก ที่ถูกบันทึกสถิติไว้ในปัจจุบัน ปี 2023
รถยนต์ Koenigsegg Agera RS
ในปี 2017 Koenigsegg Agera RS สร้างสถิติเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความสูงสุดเฉลี่ย 277.9 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 447.2 กม./ชม. ก่อนที่สถิตินั้นถูกทำลายลงโดย Bugatti แต่ Agera 1,160 แรงม้าก็ยังคงเป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดในโลกที่เคยมีมา Agera RS ใช้เวลาเพียง 2.8 วินาที ในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยขุมพลังของ Koenigsegg Agera RS เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร 5,065 ซีซี. เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,360 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,371 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sequential 7 จังหวะ พร้อม Paddle Shift
รถยนต์ Czinger 21C
สุดยอดรถ Hyper Car ที่มาทำลายสถิติของ Agera Rs ก็คือ Czinger 21C มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,233 แรงม้า น้ำหนักตัวรถค่อนข้างเบาที่ 2,734 ปอนด์ หรือ 1,240 กก. สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาที Czinger อ้างว่าโมเดลดังกล่าวสามารถทำความเร็วสูงสุด 281 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 452.2 กม./ชม
รถยนต์ SSC Tuatara
SSC Tuatara ไฮเปอร์คาร์ตัวแรงจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ที่สามารถทำความเร็วสูงสุด 295 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 474 กม./ชม. ในสนามทดสอบ Johnny Bohmer จะค่อนข้างช้ากว่าค่าเฉลี่ยในสเปค 316 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 508 กม/ชม. โดยเครื่องยนต์ เป็นแบบบล็อกอลูมิเนียม V8 ขนาด 6.9 ลิตร ทวินเทอร์โบ ข้อเหวี่ยงแบบ Flat-plane ให้กำลังถึง 1,350 แรงม้า เมื่อใช้น้ำมันออกเทน 91 แต่จะกระโดดไป 1,750 แรงม้า เมื่อใช้น้ำมัน E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 7 สปีด Robotic Manual แต่ก็ยังเร็วเกินพอที่จะอ้างชื่อว่าเป็นรถที่แล้วที่สุดในโลกชั่วคราว
รถยนต์ Hennessey Venom F5 Roadster
Hennessey Venom F5 Roadster ไฮเปอร์คาร์เปิดหลังคาที่เร็วที่สุดในโลก Venom F5 Roadster เมื่อดูจากภายนอกส่วนใหญ่แทบจะเหมือนตัว Coupe หมด ยกเว้นตัวหลังคาทำจากคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิตถอดสลักด้วยมือ เบาเพียง 8 กก. เท่านั้น ฝาครอบเครื่องเปลี่ยนมาใช้แบบใสเห็นเครื่องชัดเจนพร้อมเซาะร่องระบายความร้อนรอบๆ ล้อก็ได้ลายใหม่ทำเป็นทรงตัว ‘H’ Hennessey 7 ก้านคู่ วัสดุฟอร์จอลูมิเนียม โครงสร้างรถเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ Monocoque แผงตัวถังภายนอกเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด น้ำหนักตัวรถ 1,405 กก. หนักกว่าตัวคูเป้ 45 กก. ช่วงล่างแบบปีกนกคู่อิสระ โช้คอัพแบบปรับได้ เบรกคาร์บอน-เซรามิก ขนาด 390 มม. เท่ากันหมด ด้านหน้าคาลิปเปอร์ 6 สูบ หลัง 4 สูบ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 วางกลาง 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร Hennessey อ้างว่าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 300 ไมล์/ชั่วโมง+ หรือมากกว่า 482 กม./ชม.
รถยนต์ Koenigsegg CC850
Koenigsegg CC850 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในสไตล์เรโทร มาพร้อมเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,385 แรงม้า Koenigsegg กล่าวว่า CC850 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และมีความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 ไมล์/ชั่วโมง+ หรือมากกว่า 482 กม./ชม. ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ทาง Koenigsegg ได้เปิดตัวรถ Hypercar รุ่นแรกหรือที่ทางค่ายนิยามเอาไว้ว่า Megacar กับรุ่น CC8S ในวาระครบรอบนี้ ทาง Koenigsegg จึงได้เปิดตัวรถรุ่น CC850 ที่ที่งาน Monterey Car Week หรือ Pebble beach festival สหรัฐอเมริกา ด้วยแนวคิดที่อ้างอิงจากรุ่นพี่ แต่ถูกปรับให้ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีระดับแนวหน้า ทั้งเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ให้สมกับการเป็น Koenigsegg ที่มอบประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือชั้น
รถยนต์ Bugatti Chiron Super Sport 300+
Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกในทางเทคนิคด้วยความเร็วสูงสุด 304.8 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 490 กม./ชม. ด้วยเครื่องยนต์ W16 4 เทอร์โบ 8.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม ในเวลาเพียง 2.3 วินาที และที่สำคัญมันสามารถทำความเร็วสูงสุดในการทดสอบอย่างเป็นทางการได้ตามที่กล่าวอ้าง ที่ 304.8 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 490 กม./ชม. Bugatti Chiron Super Sport 300+ แตกต่างจากรุ่นทั่วไปตรงที่มาในตัวถัง Longtail ซึ่งจะมีช่วงท้ายที่ยาวกว่า และ แนวหลังคาหลังลู่ลม เพื่อประโยชน์ด้านการรีดลมให้ดีขึ้นอีก 40% และ ช่วยสร้างแรงกดได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม เมื่อขับขี่จนถึงความเร็วระดับ 420 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชิ้นส่วนตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ สีดำ Jet Black ตัดด้วยสีส้ม Jet Orange ส่วนล้อทำจากแมกนีเซียมน้ำหนักเบา สีเทาดำ Nocturne สุดเท่ห์
รถยนต์ SP Automotive Chaos
SP Automotive Chaos เปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 และถึงแม้ว่าจะอาจจะฟังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่มันก็มาพร้อมกับขุมพลัง 3,000 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V10 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร พร้อมระบบไฮบริด สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.8 วินาที และความเร็วสูงสุดมากกว่า 310 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 498 กม./ชม. บริษัทกล่าวว่า Chaos จะนำเสนอการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถยนต์ ซึ่งหมายถึงว่าจะมีแรงกด Downforce เทียบเท่ากับ F1 แบบที่นั่งเดียว
รถยนต์ Hennessey Venom F5
Hennessey Venom F5 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร Hennessey อ้าง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 310 ไมล์/ชั่วโมง หรือมากกว่า 498 กม./ชม. โดยทางผู้ผลิตกำลังวางแผนที่จะสร้างเพียง 24 คันเท่านั้น สำหรับเจ้า Venom F5 ใช้ส่วนประกอบจาก Carbon-Fiber เป็นส่วนสำคัญ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา การออกแบบยังคงรูปแบบตามรถต้นแบบไว้เป็นส่วนใหญ่ แต่ไร้ซึ่งปีกขนาดใหญ่ด้านหลังแล้ว ภายในยังคงการออกแบบสไตล์รถ F1 ที่พวงมาลัยนั้นแทบจะเอาทรงเดียวกับรถสูตร 1 เลย ไม่มีก้านไฟเลี้ยว เพราะถูกย้ายมาเป็นปุ่มบนพวงมาลัยแทน มีหน้าจอแสดงผลทั้งข้อมูลการขับขี่และหน้าจอ Infotainment ไว้ใช้งานบนคอนโซลหน้าเท่านั้น ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ถูกย้ายมาวางที่ด้านข้างแทน
รถยนต์ Bugatti Bolide
สำหรับเจ้า Bugatti Bolide สำหรับใช้งานในสนามแข่งเท่านั้น และนี่คือผลงานการสร้างสรรค์ที่แหวกแนวที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร 4 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 1,825 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,850 นิวตัน-เมตร ซึ่งให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 27 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 250 นิวตัน-เมตร หากเทียบกับ Chiron Super Sport 300+ ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ที่ 311 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 500 กม./ชม. Bugatti Bolide รถที่ฮาร์ดคอร์ที่สุดจากบูกัตติ แรง และเบาที่สุดของค่าย ด้วยน้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,240 กิโลกรัม มากับโครงสร้าง monocoque คาร์บอนไฟเบอร์พัฒนาขึ้นใหม่ ตัวรถมีความสูงเพียง 995 มิลลิเมตร ซึ่งเท่ากับรถแข่ง Bugatti TYPE 35 ในยุค 1920 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก งานดีไซน์ตัวรถดุดัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า-ไฟท้ายรูปตัว X ปลายท่อไอเสียทรงกลมออก 4 ท่อ งานแอร์โรไดนามิกจัดเต็มรอบคันด้วยช่องอากาศไหลผ่านหลายจุด อลังกาลด้วยปีกท้าย Active ขนาดใหญ่ ตัวรถสามารถสร้าง Downforce ได้สูงถึง 2,600 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 320 กม./ชม. โดยแบ่งไปกดหน้ารถ 800 กิโลกรัม และหลังรถอีก 1,800 กิโลกรัม
รถยนต์ Koenigsegg Jesko Absolut
Koenigsegg Jesko Absolut แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว Chiron Super Sport 300+ จะเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก แต่ Koenigsegg กล่าวว่า Jesko Absolut นั้นเร็วกว่า ด้วยพละกำลัง 1,600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และตัวถังที่สร้างแรงกดมหาศาล ทำให้มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 330 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 530 กม./ชม. ในสนามทดสอบ Ehra-Lessien ของ Volkswagen
สรุป
สำหรับความเร็ว 500 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นี่เรียกได้ว่าถ้าไม่มีหลักอากาศพลศาสตร์หรือ Aerodynamic ที่ยอดเยี่ยม รถเหล่านี้คงบินกันไปแล้ว เพราะน้ำหนักที่เบากับความเร็วระดับนี้ มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้ นี่ก็คือความสุดยอดของวิทยาศาสตร์ ผสมผสานจนกลายมาเป็นสุดยอดรถยนต์หนึ่งคัน และสุดท้ายนี้เราหวังว่าเพื่อน ๆ จะชื่นชอบ บทความ 10 อันดับ รถยนต์ Production Car ที่เร็วแรงที่สุดในโลก ที่ถูกบันทึกสถิติไว้ในปัจจุบัน ปี 2023 เรื่องนี้กันนะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรโปรดติดตามรับชมกันด้วยนะ สวัสดีครับ