McLaren SENNA GTR รถยนต์ Hyper Car Track-Only ที่ผลิตออกมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เกิดมาเพื่อทำลายสถิติของทุกสนาม

เมื่อหลังจาก McLaren SENNA ทั้ง 500 คันได้ถูกขายออกจนหมดแล้ว จนทำให้ McLaren เห็นถึงเสียงตอบรับที่ดี จึงได้จัดทำรุ่นพิเศษออกมาอีก 27 คัน เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าคนสำคัญ อย่างรถยนต์ McLaren SENNA GTR รถยนต์ Hyper Car Track-Only ที่ผลิตออกมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เกิดมาเพื่อทำลายสถิติของทุกสนาม คันนี้ โดยจะมีดีไซน์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งเจ้าของสถิติโลกอย่าง McLaren F1 LM เมื่อครั้งก่อน ซึ่งเป็นรถยะเวลากว่า 24 ปี แล้วที่ชื่อของ McLaren F1 ห่างหายไปจากแบรนด์ McLaren ซึ่งรถยนต์คันนี้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้ชื่อของ McLaren กับมาเป็นเจ้าสนามในรายการแข่งสำคัญต่าง ๆ บนโลกเพื่อสร้างชื่อให้กับแบรนด์ McLaren ได้อีกครับ และ รถยนต์รุ่นพิเศษแบบ Track Only คันนี้จะมีรายละเอียด และ สิ่งที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เราไปรับชมส่วนทั้งหมดกันเลยครับ

ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

Exterior:ภายนอกของรถยนต์ 

• สำหรับในรุ่นนี้จะมากับชุดแต่ง และ ชุดสติ๊กเกอร์แบบพิเศษรอบคัน ที่มีเฉพาะในรุ่น Senna GTR เท่านุ้น
• มีชุด Body Part ดีไซน์ใหม่ เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน พร้อมยังช่วยเพิ่มในเรื่องของ Aero Dynamic ได้ดีมากกว่าเดิมได้เป็นเท่าตัว
• มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ใช้วัสดุแบบคาร์บอนไฟเบอร์ 
• มีช่องรับอากาศด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ตกแต่งขอบด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ 
• มีลิ้นใต้กันชนด้านหน้า แบบคาร์บอนไฟเบอร์
• มี Winglets 2 ชั้น แบบคาร์บอนไฟเบอร์ด้านข้างของกันชนหน้า 
• มีฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องดักอากาศบนฝากระโปรงเพื่อช่วยเสริม Aero Dynamic 
• มีช่องรับอากาศด้านหน้าของโปร่งซุ้มล้อด้านหลัง เพื่อส่งตรงเข้าไปให้กับเครื่องยนต์และระบบอัดอากาศ 
• มีไฟหน้าแบบ Matrix Adaptive LED แบบ 5 ดวง
• มีไฟหรี่ Daytime Running Light แบบ LED 
• มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED 3 มิติ
• มีกระจกมองข้างแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
• กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว 
• ตัวกระจกปรับองศาได้ด้วยระบบไฟฟ้า  
• ใช้ประตูปีกนกแบบ Twin-Hinged Dihedral Doors
• มี Skirt ด้านข้างแบบคาร์บอนไฟเบอร์
• มีหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์
• มี Roof Scoop บนหลังคาช่วยดักอากาศที่รับจากด้านหน้า เพื่อส่งตรงเข้าห้องเครื่องโดยตรง

• มีกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ใช้เป็นชิ้นเดียวคุมทั้งท้ายรถ เหมือนกับด้านหน้า
• มีช่องระบายอากาศบนกันชนท้ายแบบใหม่ ช่วยเสริม Aero Dynamic ให้กับตัวรถ
• มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ปรับดีไซน์ให้อากาศจากใต้ท้องรถไหลผ่านได้ดีที่สุด
• มี Spoiler ด้านหลังตัวใหม่ แบบ Adaptive สามารถปรับองศาให้ยกขึ้น เพื่อช่วยเป็น Air Brake ในตัวได้
• มีชุดตะแกรงด้านหลังแบบรังผึ้งสีดำ เพื่อเปิดช่องระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์
• มีท่อไอเสียคู่ดีไซน์ใหม่แบบออกกลาง
• มีไฟท้าย LED แบบ Light Gilding อยู่บริเวณด้านล่างของชุดกันชน
• มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
• มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED 3 มิติ
• มีหลังคาด้านหลัง หรือ แผ่นปิดห้องเครื่อง แบบคาร์บอนไฟเบอร์ผสมกับกระจก

• มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่
• ล้อหน้า ขนาดวงล้อ 19 นิ้ว กว้าง 9 นิ้ว
• ล้อหลัง ขนาดวงล้อ 20 นิ้ว กว้าง 11.5 นิ้ว
• มีพร้อมกับยาง Pirelli รุ่น P-Zero 
• ใข้ยางหน้าขนาด 275/30 ZR19 
• ใช้ยางหลังขนาด 335/30 ZR20
• มาพร้อมกับจานเบรกเซรามิค และ คาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่ที่สามารถเลือกสีได้
• บริเวณบานประตูทั้ง 2 ด้านที่เห็นเป็นลวดลายสีดำ จริง ๆ แล้วจะเป็นกระจกที่ติดฟิล์มกรองแสงเอาไว้ พร้อมตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์รุ่น GTR 

Dimension:มิติตัวถังรถ

• มีความยาวทั้งหมด 4,744 มิลลิเมตร
• มีความกว้างทั้งหมด 2,153 มิลลิเมตร
• มีความสูงทั้งหมด 1,195 มิลลิเมตร
• มีระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร
• มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 100 มิลลิเมตร
• มีพื้นที่เก็บสัมภาระทั้งหมด 100 ลิตร 
• มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด 72 ลิตร
• มีน้ำหนักตัวถังเปล่าอยู่ที่ 1,198 กิโลกรัม
• มีน้ำหนักรวมทั้งหมด 1,309 กิโลกรัม

ดีไซน์ภายในรถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

Interior:ภายในรถยนต์ 

• ตกแต่งแผงแดชบอร์ดด้านหน้าด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ 
• ตกแต่งแผงประตูด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ 
• มีพวงมาลัยแบบ Racing Virtual Cockpit สไตล์รถแข่ง ที่เหมือนถอดออกมาจากรถ F1 
• มีปุ่มควบคุมต่าง ๆ บนพวงมาลัย ถูกย้ายไปอยู่บริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ด้าน ของคนขับแทน
• มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift 
• มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ TFT Full Digital ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันรูปแบบการทำงานได้อย่างหลากหลาย ตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ซึ่งจะคอยบอกรายละเอียดทุก ๆ อย่างได้อย่างครบถ้วน
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ ซ้าย และ ขวา
• มีช่องแอร์ทรงกลมแบบคลาสสิค 
• มีปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ที่สามารถปรับรูปแบบการทำงานของรถยนต์ได้ถึง 3 รูปแบบ ตั้งแต่
  • Comfort
  • Sport 
  • Track 
• มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ Traction Control
• มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ ABS 
• มีปุ่มปรับระดับความสูงของช่วงล่าง หรือ Lift Control 
• มีปุ่ม Push Start สไตล์สปอร์ตสีแดง
• มีปุ่ม Launch Control
• มีปุ่ม Aero ใช้ปรับองศาของสปอยเลอร์ตามความเร็วรถ 
• มีเกียร์อัตโนมัติแบบปรับหมุ่น 3 ระดับ

• มีเบาะนั่งสไตล์ Racing Full Bucket Seat 2 ที่นั่งแบบทูโทน หุ้มด้วยAlcantara สามารถตกแต่งดีไซน์ได้หลากหลาย 
• เบาะนั่งทั้งหมดปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า
• เบาะนั่งของ McLaren รุ่นนี้ นั้นจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาให้มากนัก หากเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ นั่นก็เพราะผู้ผลิตต้องการให้ผู้ขับได้เข้าถึงสัมผัสของรถแข่งได้มากที่สุด

Entertainment:ระบบความบันเทิง

• สำหรับระบบความบันเทิงของในรถรุ่นนี้จะถูกตัดออกไป เพื่อให้ได้น้ำหนักที่ลดลง แต่ก็ยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Touch Screen เช่นเคยแต่จะใช้ในการบอกรายละเอียดในระบบการทำงานทั้งหมดของตัวรถแทน และ ด้วยเสียงเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่ดังสนั่นเหมือนกับรถแข่งแล้วก็ไม่สามารถฟังเพลงได้อย่างไพเราะเต็มที่อยู่ดี 

เครื่องยนต์รถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

Engine:เครื่องยนต์

• สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์แบบ V8 เบนซิน Twin Turbo ขนาด 4.0 ลิตร 3,998 ซีซี รหัส M840TR ใช้เทอร์โบแบบ Twin Electrically-Actuated Twin Scroll Turbochargers Dry Sump แบบเดียวกับในรุ่นธรรมดา แต่ได้ทำการปรับจูนชิ้นส่วนภายในใหม่ ทำให้สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้มากขึ้นถึง 833 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตันเมตร ที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ Dual Clutch 7 สปีด ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง รองรับเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 เท่านั้น และ มีตัวเลขจากโรงงานดังนี้

• มีอัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 2.8 วินาที
• มีอัตราเร่งจากความเร็ว 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6.8 วินาที
• มีความเร็วสูงสุด หรือ Top Speed อยู่ที่ 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• มีเวลา Quarter Mile ¼ หรือ สนามคลอง 5 บ้านเรา อยู่ที่ 9.7 วินาทีเท่านั้น
• มีระยะเบรกจากความเร็ว 100 กิโลเมตร ถึง 0 อยู่ที่ 30 เมตร ในเวลา 2.9 วินาที
• มีระยะเบรกจากความเร็ว 200 กิโลเมตร ถึง 0 อยู่ที่ 116 เมตร ในเวลา 4.6 วินาที
• มีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 280 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร

ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถัง และ ช่วงล่าง

• ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Monoclock Full Carbon Fibre เป็นการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันทำให้ตัวโครงสร้างมีน้ำหนักเบา และ ทนทานมากเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานบนความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี
• มีระบบกันสะเทือนด้านหน้า และ ด้านหลัง เป็นแบบอิสระปีกนกคู่ ที่มาพร้อมกับระบบ Proactive Damping Control ที่ช่วยปรับการทำงานตามสภาพพื้นถนน และ ลักษณะในการขับขี่ตามโหมดต่าง ๆ 
• มีระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ พวงมาลัยพาวเวอร์กึ่งไฟฟ้า แบบ Electro-Mechanical Power Steering 
• มีระบบเฟืองท้ายแบบ Racing Differential 
• มีระบบบังคับเลี้ยวแบบพิเศษ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า 
• มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็น ดิสก์เบรก ใช้จานเบรกแบบ Ceramic ขนาด 390 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 Pot 
• มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็น ดิสก์เบรก ใช้จานเบรกแบบ Ceramic ขนาด 380 มิลลิเมตร พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 Pot

Safety:ระบบความปลอดภัย 

• มีระบบ IPAS ช่วยสั่งการให้มอเตอร์ไฟฟ้าส่งพละกำลังให้เครื่องยนต์ได้เร็ว และ มากขึ้น
• มีระบบ DRS ช่วยควบคุม Adaptive Spoiler ด้านหลัง เพื่อเสริมสมรรถนะได้หลากหลายรูปแบบ 
• มีระบบ Launch Control ช่วยล็อครอบในการออกตัว
• มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน
• มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
• มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4 
• มีระบบ CBC ช่วยควบคุมการกระจายแรงเบรกในขณะเข้าโค้ง
• มีระบบ DBC ช่วยควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน
• มีระบบ ESC ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
• มีระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และ ช่วยไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีโดยไม่จำเป็น 
• มีระบบ DBL ช่วยเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินให้ทันทีเมื่อเบรกกะทันหัน 
• มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
• มีระบบ HDC ช่วยชะลอความเร็วรถยนต์ในเวลาลงทางลาดชัน
• มีระบบ TPLW ช่วยแจ้งเตือนเมื่อลมยางมีแรงดันที่ผิดปกติ
• มีกล้องมองภาพรอบคันรถแบบ 360 องศา 
• มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
• มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
• มีม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง

จุดเด่นของรถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้ในส่วนแรกที่ต้องพูดถึงคือเรื่องการออกแบบ ที่ในรุ่นนี้ออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ Hyper Car แบบ Track Only เท่านั้นแต่ถ้าอยากจะเอาไปขับบนถนนก็สามารถทำได้เพราะยังผ่านกฏหมายของบางประเทศอยู่ แต่การขับบนถนนอาจจะดูไม่เหมาะมากนัก เพราะในรุ่นนี้จะมากับรูปร่างที่เตี้ยแบบติดพื้นซึ่งไม่สามารถขับผ่่านในบางพื้นที่ได้ และ ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 แบบ 833 แรงม้าตัวนี้ก็ได้รับการปรับมาให้เป็นรถแข่งแบบเต็มขั้น หากมาขับบนท้องถนนล่ะก็ลืมเรื่องการขับชิล ๆ กินลมไปได้เลย เพราะถูกปรับจูนมาให้ต้องใช้รอบสูงในการออกตัวทุกครั้ง และ Turbo Boost ก็จะดันให้รถแรงอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงระบบช่วงล่างและเบรก ที่มาในสมรรถนะรถแข่งเต็มขั้น ที่ทั้งแข็งกระด่าง แรงดันเบรกก็ถูกอัดมาเยอะกว่าปกติ จึงไม่เหมาะกับการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งอาการทั้งหมดที่ว่ามานี้จะใช้งานได้ดีมากที่สุดในเวลาที่อยู่ในสนามแข่งที่ใช้ความเร็วสูงตลอดเวลาเท่านั้น หากขับด้วยความเร็วก็จะเป็นรถแข่งที่มีการขับขี่ที่สนุกแบบไม่เหนื่อยเลย ซึ่งก็เป็นจุดเด่นอีกหนึ่งข้อของ McLaren ทุกรุ่นที่เวลาใช้ความเร็วจะนิ่งเหมือนกับขับรถสปอร์ตทั่วไปเลย 

สรุปรถยนต์ : McLaren SENNA GTR 

สำหรับรถยนต์คันนี้จะเป็นรถยนต์ Hyper Car 2 ที่นั่งแบบ Track Only ที่มีสมรรถนะแบบรถแข่งและถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการแข่งขันเท่านั้น เป็นการนำ McLaren SENNA มาปรับปรุงใหม่โดยใส่ DNA ของรถแข่งอย่าง McLaren F1 LM เอาไว้แบบเต็มเปี่ยม ซึ่งจะต่างกันเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น ถูกผลิตออกมาทั้ง 24 คัน ซึ่งก็ถูกมอบให้กับกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศเป็นที่เรียบร้อยจนสามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้มหาศาล และ เชื่อว่าภายในระยะเวลาไม่นานหลังจากนี้ จะเห็นรถยนต์รุ่นนี้กลับมาครองสนาม และ สร้างสถิติใหม่ ๆ ในสนาม ให้กับแบรนด์ McLaren ได้อีกครั้งเหมือนกับในรุ่น McLaren F1 

รถยนต์ McLaren SENNA GTR LM สามารถ Custom สีเองได้อย่างอิสระ 

สำหรับรถยนต์ McLaren SENNA GTR สามารถออกแบบสีตัวถัง และ ลวดลายได้อย่างอิสระ ได้ที่โชว์รูมทุกสาขา

ราคารถยนต์ : McLaren SENNA GTR

รถยนต์ McLaren SENNA GTR  ราคาคาดกันไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 94 ล้านบาท (แบบไม่รวมภาษี) ซึ่งถ้าบวกภาษีเข้าไปด้วยก็จะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท 

Link ซื้อรถยนต์ : McLaren SENNA GTR

https://bangkok.mclaren.com/en

หากถามว่ารถยนต์รุ่นไหนเป็นรุ่นที่ ร้อนแรงที่สุดของแบรนด์ McLaren ในช่วงเวลานี้ก็คงต้องยกให้กับรุ่น SENNA แล้ว ที่เปิดตัวรุ่นธรรมดาออกมาไม่นาน ก็ขายหมดในพริบตาจนต้องเปิดตัวรุ่นพิเศษที่พรีเมี่ยมมากกว่าออกมาถึง 2 รุ่นย่อ โดยรถยนต์ McLaren SENNA GTR รถยนต์ Hyper Car Track-Only ที่ผลิตออกมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เกิดมาเพื่อทำลายสถิติของทุกสนาม คันนี้ ก็เป็นหนึ่งในรุ่นดังกล่าวที่มีพื้นฐานการออกแบบที่ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อใช้ในสนามแข่งเท่านั้น เพื่อที่จะให้ชื่อของ  SENNA กลับมาเป็นเจ้าสนามอีกครั้ง