หากพูดถึงรถยนต์ PPV ในปัจจุบันก็มีอยู่มากมายหลายค่ายที่ผลิตและวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีข้อดีและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยในวันนี้เราจะมานำเสนอรถยนต์ Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T รถยนต์ PPV พันธุ์แกร่งรุ่นท็อปของค่าย คันนี้ มาพร้อมกับสมรรถนะที่แข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford พร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบดีเซล Bi-Turbo อันทรงพลัง และด้วยความที่เป็นรุ่นท็อปสุดของตระกูล จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยรอบคันตั้งแต่ในเรื่องความปลอดภัยไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการขับขี่ ที่ใส่มาทุกอย่างรวมไว้ในคันเดียว แต่ก็มากับราคาที่สูงที่สุดในคลาสด้วยเช่นกัน ซึ่งหากดูในลายละเอียดทั้งหมดก็ถือว่าคุ้มค่าสมราคาเลย โดยจะมีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- มีไฟหน้าแบบ HID
- มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED
- มีไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- มีระบบ Follow Me Home ช่วยเปิดไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์
- มีกระจังหน้าดีไซน์ใหม่
- มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่
- มีไฟท้ายแบบ Full LED
- มีไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ LED
- มีไฟถอยหลังแบบ LED
- มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- มีสปอยเลอร์ด้านหลัง
- มีกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมแผ่นกันกระแทกด้านล่าง
- มีไฟตัดหมอกด้านท้าย
- มีแถบสีเงินโครเมี่ยมบริเวณที่จับเปิดประตูด้านหลัง พร้อมสกรีนชื่อรุ่น Everest เอาไว้
- มีกระจกมองข้างแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- มีกระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว
- มีบันไดข้างตกแต่งสีเงินโครเมี่ยม
- มีที่จับเปิดประตูด้านนอกเป็นสีเงินโครเมี่ยม
- มีไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lams
มีระบบ Hand-Free Tailgate สำหรับประตูด้านท้าย สามารถเปิด-ปิดประตูได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ
- มีล้อแม็กซ์อัลลอยขนาด 20 นิ้ว
- ใช้ยางขนาด 265/50 R20
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาวทั้งหมด 4,893 มิลลิเมตร
- มีความกว้างทั้งหมด 1,862 มิลลิเมตร
- มีความสูงทั้งหมด 1,836 มิลลิเมตร
- มีระยะห่างฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 225 มิลลิเมตร
- มีความกว้างของช่วงล้อคู่หน้า 1,560 มิลลิเมตร
- มีความกว้างของช่วงล้อคู่หลัง 1,565 มิลลิเมตร
- สามารถลุยน้ำได้ 800 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
Interior:ภายในรถยนต์
- ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ ใช้วัสดุเป็นหนังสังเคราะห์
- มีเบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยหนังสีดำ
- มีเบาะนั่งผู้ขับขี่ ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- มีเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- มีเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพับได้อิสระ 60 : 40
- มีเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้
- มีเบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับอิสระได้ 50 : 50
- มีเบาะนั่งแถวที่ 3 พับด้วยระบบไฟฟ้า
- มีพวงมาลัยมัลดิฟังก์ชัน
- มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย
- มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิตอล พร้อมหน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่
- มีปุ่ม Push Start
- มีกุญแจ Smart Keyless Entry
- มีไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light สามารถปรับเปลี่ยนได้ 7 สี
- มีกระจกหน้าต่างเปิดและปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบ One-Touch 4 บาน
- มีกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- มีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา แบบ Dual Zone
- มีสวิตซ์ปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- มีช่องแอร์บนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- มีหลังคากระจก Panoramic Sunroof
- มีผ้าบุสีดำตกแต่งหลังคาด้านใน
- มีช่องจ่ายไฟ 12V
- มีช่องชาร์จไฟ AC 230V
- มีแผงบังแดดคู่หน้าปรับและพับได้ มาพร้อมกับกระจกและไฟส่องแต่งหน้าให้ในตัว
- มีที่เสียบนามบัตรบนแผงบังแดดด้านคนขับ
- มีที่จับเปิดประตูด้านในตกแต่งด้วยสีเงินโครเมี่ยม
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีหน้าจอดิสก์เพลย์ระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 8 นิ้ว
- มีเครื่องเล่นวิทยุ FM/AM CD/DVD และ MP3
- มีระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ Sync 3 และ Wi-Fi ในตัว
- รองรับระบบ Apple Car play และ Android Auto
- มีระบบนำทาง Navigation System
- มีระบบการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth
- มีระบบ Active Noise Cancellation ช่วยตัดเสียงรบกวนจากด้านนอก
- มีช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- มีลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อม Sup และ Amp มาให้
เครื่องยนต์รถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
Engine:เครื่องยนต์
มากับเครื่องยนต์พิเศษดีเซลเทอร์โบคู่รหัส EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงกับเทอร์โบคู่ Bi-Turbo (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบายความร้อนด้วยน้ำเต็มระบบ ให้พละกำลังสูงสุด 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่1,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับน้ำมันดีเซล
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
Brake & Suspension : ระบบเบรกและช่วงล่าง
- มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็นแบบ ดิสก์เบรก พร้อมเจาะครีบระบายความร้อน
- มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็นแบบ ดิสก์เบรก
- มีระบบกันสะเทือนด้านหน้า เป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมโช๊คอัพคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
- มีระบบกันสะเทือนด้านหลัง เป็นแบบ Anti Roll Bar พร้อมโช๊คอัพเหล็กกันโคลงและคอยล์สปริง
Safety:ระบบความปลอดภัย
- มีระบบ Electronic Rear Differential Lock ช่วยล็อคเฟืองท้ายให้ล้อหลังหมุนพร้อมกัน
- มีระบบ ABS ช่วยป้องกันล้อล็อคเมื่อเบรกกระทันหัน
- มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก
- มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรก
- มีระบบ ESP ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
- มีระบบ TCS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรี
- มีระบบ HLA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- มีระบบ HDC ช่วยชะลอตัวเมื่อลงจากทางลาดชัน
- มีระบบ Rollover Mitigation ช่วยลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ช่วยถ่วงน้ำหนักให้รถมีสมดุลมากที่สุด
- มีระบบ Trailer Sway Mitigation ช่วยความคุมการทรงตัวในเวลามีพ่วงท้าย
- มีระบบ AEB ช่วยตรวจจับรถและคนเดินถนน ในด้านหน้า
- มีระบบ ACC ช่วยความคุมความเร็วอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้คันเร่ง
- มีระบบ LKS ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- มีระบบ FCWS ช่วยแจ้งเตือนการชนด้านหน้า
- มีระบบ AHBC ช่วยเปิดไฟสูงให้อัตโนมัติพร้อมปรับเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อมีรถสวนมา
- มีระบบ DAS ช่วยแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า
- มีระบบ APA ช่วยจอดให้อัตโนมัติ
- มีระบบ TPMS ช่วยตรวจวัดแรงดันลมยาง
- มีระบบ BSIS ช่วยตรวจจับรถในจุดบอด
- มีระบบ CTA ช่วยตรวจจับรถรอบข้างเมื่อเปลี่ยนเลน
- มีเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า
- มีเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
- มีกล้องมองภาพขณะถอยจอด
- มีระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- มีสัญญาณกันขโมย Burglar Alarm
- มีจุดยึดที่นั่งเด็ก ISOFIX
- มีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
- ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- หัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
จุดเด่นของรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ PPV พันธุ์แกร่งขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมลุยได้ในทุกเส้นทาง มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยซับพอร์ทครบครัน ตั้งแต่เทคโนโลยีช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรี ไปจนถึงเทคโนโลยีถ่วงน้ำหนักเพื่อไม่ให้รถพลิกคว่ำ อย่างต่อมาจะเป็นในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์ที่ได้ใช้เครื่องยนต์ตัวโหดของทางค่ายอย่างเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ที่ทรงพลังและเรียกแรงม้ากับแรงบิดได้รวดเร็วตั้งแต่ในรอบต้น ๆ
สรุปรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
สำหรับรถยนต์คันนี้จะเป็น Ford Everest รุ่นท็อปสุดในปัจจุบันซึ่งก็เพิ่มมากับเทคโนโลยีต่าง ๆ ของทางค่ายใส่เข้ามาให้เต็มคัน พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo และระบบสมรรถนะช่วงล่างและเบรกที่แข็งแกร่งตามสไตล์ดั้งเดิมของ Ford ที่พร้อมลุยในทุกเส้นทาง และไม่ต้องห่วงว่าจะยากลำบากแค่ไหนเพราะรถยนต์คันนี้ทางผู้ผลิตการันตีว่าสามารถลุยน้ำได้สูงที่สุดถึง 800 มิลลิเมตร ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ที่ชอบในการเดินทาง Adventure แต่ก็รักในความสบายได้เป็นอย่างดี ภายในกว้างขวางสามารถเดินทางเป็นครอบครัวได้สบาย ๆ
รถยนต์ Ford Everest มีทั้งหมด 6 สี
รถยนต์ Ford Everest สี Sunset Metallic
รถยนต์ Ford Everest สี Diffused Silver
รถยนต์ Ford Everest สี Aluminium Metallic
รถยนต์ Ford Everest สี Absolute Black
รถยนต์ Ford Everest สี Snow Flake White Pearl
รถยนต์ Ford Everest สี Deep Crytal Blue
ราคารถยนต์ : Ford Everest
รถยนต์ Ford Everest 2.0 Turbo Trend 4×2 A/T ราคา 1,299,000 บาท
รถยนต์ Ford Everest 2.0 Turbo Titanium 4×2 A/T ราคา 1,439,000 บาท
รถยนต์ Ford Everest 2.0 Turbo Titanium+ 4×2 A/T ราคา 1,599,000 บาท
รถยนต์ Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T ราคา 1,799,000 บาท
Link ซื้อรถยนต์ : Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T
และก่อนลาจากกันในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่คอยติดตามผลงานของเรามาโดยตลอด และทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านบทความพรีวิวรถยนต์ Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T รถยนต์ PPV พันธุ์แกร่งรุ่นท็อปของค่าย คันนี้ ซึ่งหากใครที่กำลังรอบทของ Ford Everest โฉมใหม่ที่จะมาในปีหน้า โปรดติดตามในบทความครั้งถัดไปนะครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ mywonderwheel
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ