หลังจากที่ปล่อยให้รุ่น Laferrari คลองตำแหน่งเจ้าความเร็วของแบรนด์มาได้ไม่นาน ทางผู้ผลิตก็ได้เปิดตัวสุดยอดรถยนต์ Hyper Car เจ้าความเร็วคันใหม่ของแบรนด์ ที่รวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดแห่งยุคสมัยเข้ามาอยู่ในคันเดียว ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ Ferrari FXX K รถยนต์ Hyper Car พลังงานไฮบริดตัวแรงคันใหม่ ในพละกำลังที่สูงกว่า 1,000 แรงม้า คันนี้ ที่จะมาสร้างสถิติและตำนานบทใหม่ให้กับแบรนด์ Ferrari กันครับ ซึ่งรถยนต์คันนี้ก็เป็นรุ่นที่ 2 ของแบรนด์ Ferrari ที่นำพลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้ ต่อจากรุ่น Laferrari ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบ Hy-Kers และตัวอักษร K ที่นำมาใช้หลังชื่อของ FXX ที่บ่งบอกถึงการนำเทคโนโลยีขั้นสูงของ Ferrari ที่ออกมาจากแลปมาใช้ และ ผ่านการทดลองจริงมาแล้ว ซึ่งต่อไปเราก็จะรู้ได้ว่าถ้า Ferrari คันไหนมากับรหัส K จะต้องเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาและทดสอบจากสนามแข่งมาแล้ว และ ทำออกมาเพื่อสร้างสถิติใหม่โดยเฉพาะ และ รถยนต์คันนี้จะมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดอย่างไรบ้างเราไปรับชมกันเลยครับ
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Ferrari FXX K
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- สำหรับดีไซน์การออกแบบของรถยนต์คันนี้ ก็จะมีพื้นฐานมาจากรุ่น Laferrari โดยนำมาปรุงแต่งให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่อง Aerodynamic และ ความสวยงาม ซึ่งรหัสเดิมของชื่อรุ่นนี้ก็ยังเป็น Laferrari XX ด้วย จะมากับชุดดไฟหน้า Adaptive LED ดีไซน์ใหม่ขนาดเล็กสไตล์รถแข่ง ส่วนไฟท้ายก็จะเป็นไฟแบบ Full LED ขนาดเล็กเช่นเดียวกัน ใช้ประตูคาร์บอนไฟเบอร์สไตล์ปีกนกโดยจะมีน้ำหนักที่เบามาก ตัวหลังคาก็เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยเช่นกันทำให้ดูเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับประตูได้มาก และ ส่วนที่เห็นได้ชัดและมีมากกว่าใน Laferrari คือเรื่องของเส้นสายส่วนโค้งบนตัวรถ กับ Winglet รอบคันที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยจะใช้วัสดุทั้งหมดเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา ส่วนตำแหน่งของช่องรับอากาศ ก็ถูกปรับให้มีมากขึ้นแถมยังล้อมกรอบด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วน Wing หลังดีไซน์ใหม่ที่ถูกดูเหมือนขาดกลางนี้ จะเป็นตัวเพิ่มแรงกดอากาศให้กับตัวรถในด้านหลังได้มากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา เมื่อใช้ความเร็ว 200 กิโลเมตร ตัวรถจะมีแรงกดอากาศในด้านหลังมากถึง 540 กิโลกรัมเลย ส่วน Spoiler ตัวจริงนั้นจะเป็นแบบ Adaptive ที่จะคอยปรับองศาตามความเร็วรถ พร้อมช่วยยกขึ้นเป็น Air Brake ได้ในตัวเมื่อเบรกกระทันหัน ทำให้มีระยะเบรกที่สั้นมาก ๆ เป็นรถที่ถูกพัฒนามาให้รองรับกับความเร็วระดับ 1,000 แรงม้า ให้ขับขี่ง่ายและปลอดภัยมากที่สุด
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาว 4,896 มิลลิเมตร
- มีความกว้าง 2,051 มิลลิเมตร
- มีความสูง 1,116 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
- มีระยะห่างจากพื้น 100 มิลลิเมตร
- มีน้ำหนักตัวถัง 1,495 กิโลกรัม
- มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่
- มียางหน้าขนาด 255/30 R19
- มียางหลังขนาด 345/30 R20
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Ferrari FXX K
Interior:ภายในรถยนต์
- สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้ก็จะมาในสไตล์รถแข่งเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังอยู่ในกฎหมายที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ โดยจะโดดเด่นมากับแผงควบคุมบนคอนโซลกลาง แบบปุ่มกดหลากสีหันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในรถแข่งปัจจุบัน ส่วนชุดหน้าจอมาตรวัดจะเป็นแบบ Virtual Cockpit Full Digital สไตล์รถแข่งที่จะบอกข้อมูลได้อย่างละเอียดครบถ้วน ส่วนพวงมาลัยจะใช้เป็นแบบ Racing Multifunction แบบ Full Carbon Fiber แบบ 6 เหลี่ยมหัวท้ายตัด พร้อมไฟ Shift Light บนส่วนหัวของพวงมาลัย ส่วนการตกแต่งจะมาในโทนสีดำตัดกับสีแดง หุ้มด้วย Alcantara ทั้งหมด ตกแต่งอุปกรณ์ด้านในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก
- ตัวเบาะนั่งจะมาแบบ Racing Full Bucket Seat สไตล์รถแข่งเต็มรูปแบบ ใช้ตัวเบาะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์แบบล็อมตัวผู้ขับขี่ ใช้พนักพิงแต่ละส่วนเป็น Alcantara ทั้งหมด
เครื่องยนต์รถยนต์ : Ferrari FXX K
Engine:เครื่องยนต์
- สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์แบบ V12 เบนซิน ขนาด 6.3 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ V12 บล็อกเดิมที่ใช้ในหลายรุ่น แต่ได้นำมันปรับปรุงรายละเอียดภายในใหม่ทั้งหมด โดยการใช้วัสดุไส้ในแบบใหม่ที่รองรับกำลังอัด และ ความร้อนได้สูงมากขึ้น โดยที่ตัววัสดุนั้นมีน้ำหนักเบากว่าเดิม ส่วนตำแหน่งของท่อไอดีก็ได้มีการปรับใหม่ให้ทำงานได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม ส่วนตัววาล์วแปรผันอากาศก็ถูกปรับและพัฒนาให้ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hy-Kers ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้รถยนต์ึคันนี้มีพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 1,036 แรงม้า ที่ 9,200 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 900 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 7 สปีด สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชมได้ในเวลา 2.5 วินาที 0-200 ได้ในเวลา 7.3 วินาที 0-300 ได้ในเวลา 18.5 วินาที มาพร้อมกับ Top Speed 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Ferrari FXX K
Safety:ระบบความปลอดภัย
สำหรับในรุ่นนี้จะมากับโครงสร้างตัวถังแบบ Monocoque แบบ Full Carbon ไฟเบอร์เช่นเดิม ใช้ระบบกันสะเทือนด้วยโช๊คอัพไฟฟ้าแบบอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone ที่สามารถปรับรูปแบบการทำงานได้หลากหลาย มีระบบเบรกสมรรถนะสูงจาก Brembo ส่วนเทคโนโลยีอย่าง ABS กับ Traction Control ก็สามารถปรับรูปแบบการทำงานได้หลายระดับ ส่วนเซ็นเซอร์วัดระยะรอบคันกับกล้องมองภาพด้านหลังก็ใส่มาให้ รวมถึงระบบแจ้งเตือนในมุมอับสายตาก็ค่อนข้างจำเป็นกับรถยนต์คันนี้ที่มีทัศวิสัยจำกัด ส่วนเทคโนโลยีเฉพาะตัวต่าง ๆ ของแบรนด์ Ferrari ก็ใส่เข้ามาให้แบบครบถ้วน อย่างระบบปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามความเร็วรถ หรือ แม้แต่ระบบปรับองศาพวงมาลัยให้คืนสภาพเมื่อรถเสียอาการ และ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือระบบ Kers ที่เพิ่มเข้ามา โดยจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 แบบ ดังนี้
- Quality Mode ใช้ในการทำเวลาต่อรอบ
- Long Run Mode ใช้ในการเดินทางไกล
- Manual Boost Mode เป็นโหมดปกติ
- Fast Charge Mode โหมดที่จะดึงสมรรถนะสูงสุดของรถออกมา
สรุปรถยนต์ : Ferrari FXX K
สำหรับรถยนต์คันนี้นอกจากจะเป็นรุ่นพิเศษเจ้าความเร็วรุ่นใหม่ที่มาทำลายสถิติเวลาต่อรอบในสนามของ Laferrari ได้แล้วยังสามารถคว้ารางวัล Compasso d’Oro ซึ่งเป็นรางวัลอันเก่าแก้ของรถยนต์ในสาขาด้านดีไซน์การออกแบบที่เก่าแก่ที่สุดรางวัลหนึ่ง ซึ่งเป็นคันที่ 2 ต่อจากรุ่น Ferrari F12 Berlinetta และล่าสุดก็ได้คว้ารางวัล Red Dot Best of The Best Award อีกหนึ่งรางวัล ซึ่งก็เป็นรถที่สวยแรงแพง และ หายากมาก ๆ รวมอยู่ในคันเดียว เพราะได้ถูกจำกัดการผลิตที่จำนวนเพียง 30 คัน ทั่วโลกเท่านั้น และ คนที่จะซื้อได้ก็ต้องเป็นลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์เท่านั้น
รถยนต์ Ferrari FXX K มีทั้งหมด 8 สี
รถยนต์ Ferrari FXX K เปิดมากับ 8 สีหลักให้เลือก แต่ถ้าต้องการสีที่นอกเหนือกจากในภาพสามารถเลือกเป็น Option เสริมได้
ราคารถยนต์ : Ferrari FXX K
รถยนต์ Ferrari FXX K ราคา 2.7 ล้านเหรียณสหรัฐ หรือถ้าตีเป็นเงินไทยล่ะก็ทะลุ 100 ล้านบาทกันเลย ซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าด้วยนะ
Link ซื้อรถยนต์ : Ferrari FXX K
https://www.ferrari.com/en-TH
สำหรับแบรนด์รถยนต์อย่าง Ferrari ก็ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับหนึ่งในใจของใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้สร้างชื่อเสียงและประวัติศาสตร์ให้กับวงการรถยนต์มาอย่างยาวนาน และการมาของ Ferrari FXX K รถยนต์ Hyper Car พลังงานไฮบริดตัวแรงคันใหม่ ในพละกำลังที่สูงกว่า 1,000 แรงม้า คันนี้ ก็ยิ่งทำให้เราได้เห็นว่าทางผู้ผลิตนั้นไม่คิดที่จะหยุดการสร้างตำนานให้กับวงการรถยนต์ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน จากการที่นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ใส่เข้ามาให้ในรถรุ่นใหม่อยู่ตลอด ซึ่งในรุ่นนี้เองก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งให้กับแบรนด์ได้อีกครั้งด้วยพละกำลังที่ 1,036 แรงม้า ซึ่งถ้าทุก ๆ ท่านคิดว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่โหด และ แรงที่สุดแล้ว เราขอบอกเลยว่ายังไม่ใช่ เพราะในรุ่นต่อไปที่ mywonderwheel จะมานำเสนอในครั้งหน้า เป็นร่างอัพเกรดของรถยนต์คันนี้ ซึ่งจะเป็นรุ่นอะไรโปรดติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ
เครดิต : สล็อตเว็บตรง