สำหรับในปีนี้ไม่พูดถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ก็คงจะตกเทรนด์แย่ สำหรับในวันนี้ผมจะพาทุกท่าไปชมรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่แรงที่สุดของ Audi อย่างรถยนต์ Audi e-tron GT Quattro Performance รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % รุ่นล่าสุดของทางค่าย คันนี้ ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงาน EV รุ่นที่ 3 ของทางค่ายแล้ว มากับรูปร่างหน้าตาแบบ Sport Car 4 ประตู บอดี้สุดโฉบเฉี่ยว สวยงามตั้งแต่หัวจรดท้าย มากับขุมพลังที่วิ่งได้แรงมากกว่าทุกรุ่นที่เคยผลิตมา อีกทั้งความจุของแบตเตอรี่ ยังช่วยให้เดินทางได้ไกลมากขึ้นอีกด้วย และแน่นอนเมื่อเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบนี้ต้องมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำรอบคัน ทั้งเรื่องของระบบความปลอดภัยไปจนถึงเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้โดยสารปลอดภัยและสะดวกสบายมากที่สุด
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ สไตล์ Sport GT
- มีกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบปิดทึบตกแต่งด้วยสีเทา Hekla Grey
- มีไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Matrix LED
- มีไฟ Audi Laser
- ไฟหน้ามีเอฟเฟกต์ Light Staging แบบ 3 มิติ
- มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Dynamic พร้อมลูกเล่นเส้นแสงแบบ 3 มิติ
- มีระบบ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- มีระบบ Rain Sensor ช่วยปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- มีระบบ Auto High Beam Audi Laser ช่วยปรับระดับไฟสูงไฟต่ำให้อัตโนมัติ
- มีกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองข้างมีระบบไล่ฝ้า
- กระจกมองข้างปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- กระจกมองข้างปรับมุมมองอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
- มีหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- มีไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมเอฟเฟกต์แบบ Light Staging แบบ 3 มิติ
- มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED Dynamic
- มีไฟถอยหลังแบบ LED
- มีสปอย์เลอร์ด้านหลังสีเดียวกับตัวรถ
- มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- มีไฟตัดหมอกด้านท้าย อยู่ชุดเดียวกับไฟท้าย
- มีเสาอากาศครีบฉลามแบบ Shark Fin สีดำ
- มีกันชนด้านท้ายดีไซน์ใหม่แบบ Sport
- มีแถบคาดกันชนท้ายสีเงินโครเมี่ยม
- มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังสไตล์ Sport สีดำ
- มีเสาประตูด้านนอกตกแต่งด้วยสีดำ
- มีที่จับเปิดประตูด้านนอก สีเดียวกับตัวรถทั้ง 4 บาน
- มีแถบสีดำบริเวณ Skirt ด้านข้าง
- ประตูด้านท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ประตูด้านท้ายมีระบบ Hands-Free Tailgate ช่วยเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ
- มีล้อแม็กซ์อัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 21 นิ้ว
- ล้อหน้ามีความกว้าง ขนาด 9.5 นิ้ว มาพร้อมกับยางคู่หน้าขนาด 265/35 R21
- ล้อหลังมีความกว้างขนาด 11.5 นิ้ว มาพร้อมกับยางคู่หลังขนาด 305/30 R21
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาวทั้งหมด 4,989 มิลลิเมตร
- มีความกว้างทั้งหมด 1,964 มิลลิเมตร
- มีความสูงทั้งหมด 1,413 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อยาว 2,898 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 110 มิลลิเมตร สามารถปรับระดับได้
- มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้าขนาด 85 ลิตร
- มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาด 405 ลิตร
- มีน้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 2,200 กิโลกรัม
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
Interior:ภายในรถยนต์
- ภายในห้องโดยสารใช้สีทูโทน
- ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยลายสีเทา Graphite Grey
- บริเวณแผงแดชบอร์ดด้านหน้าตกแต่งด้วยสี ทูโทน ด้วยสีดำ กับสีลายไม้
- มีไฟ Ambient Lightning ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร สามารถเปลี่ยนสีได้
- มีไฟ Map Light 2 ตำแหน่ง
- บริเวณคอนโซลกลางหุ้มด้วยหนังแบบ Fine Nappa และ Alcantara
- มีคันเกียร์หุ้มด้วย Alcantara
- มีพวงมาลัยมัลดิฟังก์ชันแบบ สปอร์ตท้ายตัด พร้อมหุ้มด้วย Alcantara
- มีเข็มขัดนิรภัยสีดำตกแต่งด้วยขอบสีแดง สไตล์สปอร์ต
- มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift
- มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว
- มีปุ่มเบรกมือไฟฟ้าแบบ EPB
- มีปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ Audi Drive Select
- มีปุ่ม Push Start ล้อมขอบด้วยสีแดงสไตล์สปอร์ต
- มีกุญแจแบบ Comfort Key Access
- มีกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- มีช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง
- มีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยก อิสระซ้ายขวา และ ด้านหลัง แบบ 4 Zone
- มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- มีแป้นคันเร่งและเบรก ตกแต่งด้วยสีเงินโครเมี่ยม สไตล์สปอร์ต
- มีแท่นชาร์จแบตเตอรี่ Smart Phone แบบไร้สาย Wireless Charged บริเวณคอนโซลกลาง
- มีระบบควบคุมอุณหภูมิก่อนการขับขี่
- มีเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์ สปอร์ต Bucket Seat แบบ Sport RS ตกแต่งด้วยลวดลาย Honeycomb
- เบาะนั่งคู่หน้า ปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งคู่หน้า ปรับดันหลังด้วยระบบไฟฟ้า Lumbar Support
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบนวดเพื่อการผ่อนคลายมาให้
- เบาะนั่งคู่หน้า มีฟังก์ชันเบาะร้อน Heated Seat
- เบาะนั่งคนขับมีระบบจดจำตำแหน่งแบบ Memory Seat
- เบาะนั่งด้านหลังมีทั้งหมด 3 ที่นั่ง
- เบาะนั่งด้านหลัง ตัวกลางสามารถดึงลงมาเป็นที่วางแขนได้ พร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง
- มีช่องแอร์ให้ผู้โดยสารด้านหลัง
- มีช่องจ่ายไฟแบบ USB ให้ผู้โดยสารด้านหลัง
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีหน้าจอเครื่องเล่นระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว
- มีระบบ Audi Smartphone Interface รองรับระบบ Apple Car Play และ Android Auto
- มีระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth
- มีช่องเชื่อมต่อ USB
- มีช่องเชื่อมต่อ AUX
- มีช่องเชื่อมต่อ SD Card
- มีระบบนำทาง Navigation System
- มีระบบเสียงรอบทิศทางจาก ฺBang & Olufsen
- มีระบบเสียง 3 มิติ แบบพรีเมี่ยมปรับความคมชัดอัตโนมัติตามความเร็วรถ
เครื่องยนต์รถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
Powertrain : ขุมพลัง
- ในรุ่นนี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Pernanent Excited Synchronous Machine เป็นตัวส่งกำลังในการขับเคลื่อน มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 2 โหมด โดย Normal Mode จะให้พละกำลังสูงสุด 476 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตต่อชั่วโมงได้ในเวลา 4.5 วินาที ส่วนใน Boost Mode สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้ 530 แรงม้า และ มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตต่อชั่วโมงได้ในเวลา 4.1 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 245 กิโลเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยระบบ Quattro
- ใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion มีความจุขนาด สามารถวิ่งได้ไกลที่สุดเป็นระยะทาง 540 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟแบบ DC
- การชาร์จไฟ
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ AC 2 Phase 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 9 ชั่วโมง
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ AC 3 Phase 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ DC 270 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 นาที
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถังและช่วงล่าง
- ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Sport RS ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เน้นสมดุลและการขับขี่บนความเร็วสูงเป็นหลัก
- ใช้ช่วงล่างแบบถุงลม Sport Adaptive Air Suspension
- มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลงและโช๊คอัพแบบพิเศษ
- มีระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นถุงลมแบบ Sport พร้อมเหล็กกันโคลงและโช๊คอัพแบบพิเศษ
- มีระบบเบรกด้านหน้าแบบเคลือบ สเตนคาร์ไบค์ พร้อม คาลิปเปอร์เบรกแบบเจาะครีบระบายความร้อน สีแดง
- มีระบบเบรกด้านหลังแบบเคลือบ สเตนคาร์ไบค์ พร้อม คาลิปเปอร์เบรกแบบเจาะครีบระบายความร้อน สีแดง
Safety:ระบบความปลอดภัย
- มีระบบ All-Wheel Steering เป็นระบบช่วยเลี้ยวทั้ง 4 ล้อ
- มีระบบ Dynamic Steering ช่วยปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามความเร็วรถ
- มีระบบ DRC ช่วยปรับระดับความสูงของช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมตั้งค่าแข็งอ่อนอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่ที่เลือก
- มีพวงมาลัยไฟฟ้า EPS
- มีระบบ Start/Stop System ช่วยตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่ง
- มีระบบ Audi Hold Assist ช่วยล็อคเบรกค้างไว้เมื่อจอดติดไฟแดง สามารถนำเท้าออกจากเบรกได้
- มีระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกระทันหัน
- มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
- มีระบบ EBA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4
- มีระบบ ESC ช่วยควบคุมการทรงตัว
- มีระบบ TCS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นถไล
- มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- มีระบบ HDC ช่วยชะลอตัวเวลาลงจากทางลาดชัน
- มีระบบ Audi Pre Sense Basic เป็นเซนเซอร์รอบคันคลาสเบื้องต้นของ Audi ช่วยแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุอันตราย
- มีระบบ Audi Pre Sense Rear เป็นเซนเซอร์ Audi ช่วยแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุอันตรายจากด้านหลัง
- มีระบบ LCA ช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตาในขณะเปลี่ยนเลน
- มีระบบ Exit Warning ช่วยตรวจสอบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ขณะก่อนเปิดประตูลงจากรถ
- มีระบบ Rear Cross-Traffic Assist ช่วยตรวจสอบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมโดยรอบ ในขณะเข้าเกียร์ถอยหลัง
- มีเซนเซอร์กะระยะ ด้านหน้า
- มีเซนเซอร์กะระยะ ด้านหลัง
- มีเซนเซอร์กะระยะ ด้านข้าง
- มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- มีม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- มีกล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- มีจุดยึดที่นั่งเด็ก ISOFIX
- มีชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาให้
จุดเด่นของรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
สำหรับจุดเด่นอย่างแรกของรถยนต์คันนี้ที่ต้องพูดถึงนั้นจะเป็นในเรื่องของเครื่องยนต์ ที่มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเรียกพละกำลังแรงม้าได้สูงสุด 530 แรงม้า กับ แรงบิด 630 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 4.1 วินาที เท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ สำหรับโมเดลรถสปอร์ต และส่วนที่ขาดไม่ได้เลย จะเป็นในเรื่องของช่วงล่างและเทคโนโลยีความปลอดภัย ในรุ่นนี้มาพร้อมกับช่วงล่างแบบถุงลม ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงของระบบกันสะเทือนยุคปัจจุบัน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยนั้นก็ต้องบอกได้เลยว่าครบครัน มากับเซนเซอร์แจ้งเตือนรอบคันรถ และ เทคโนโลยี Traction Control ต่าง ๆ ที่ช่วยให้รถมีการควบคุมเป็นอย่างดีในความเร็วสูง
สรุปรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
สำหรับรถยนต์คันนี้ก็เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ของ Audi ที่ได้ทำการเปิดตัวและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปัจจุบัน และ ในประเทศไทยเองก็เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่ได้นำรถคันจริงมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ผู้คนทั่วประเทศได้เชยชมกัน หากท่านใดที่กำลังรอรถยนต์คันนี้อยู่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ Audi ไทยแลนด์เลย
รถยนต์ Audi e-tron GT Quattro Performance มีทั้งหมด 9 สี
- สีขาว Ibis White Solid
- สีเงิน Floret Silver Metallic
- สีดำ Mythos Black Metallic
- สีเทา Daytona Grey Pearl Effect
- สีเทา Kemora Grey Metallic
- สีเทา Suzuka Grey Metallic
- สีแดง Tango Red Metallic
- สีน้ำเงิน Ascari Blue Metallic
- สีเขียวเหลือง Tactics Green Metallic
ราคารถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
รถยนต์ Audi e-tron GT Quattro ราคา 6,390,000 บาท
รถยนต์ Audi e-tron GT Quattro Performance ราคา 6,790,000 บาท
โดยตัวแทนจำหน่าย Meister Technik พร้อม
- ฟรีประกันตัวรถ Warranty 5 ปี หรือใช้งานครบ 150,000 กิโลเมตร
- ฟรีประกันแบตเตอรี่เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือใช้งานครบ 160,000 กิโลเมตร
- ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 5 ปี
Link ซื้อรถยนต์ : Audi e-tron GT Quattro Performance
https://www.audi.co.th
และสุดท้ายนี้ หากท่านผู้อ่านท่านใด ชื่นชอบบทความ รถยนต์ Audi e-tron GT Quattro Performance รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % รุ่นล่าสุดของทางค่าย ของเราเรื่องนี้ หรือ ชอบอ่านบทความเกี่ยวกับรถยนต์และยานพหนะต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย สามารถติดตามผลงานทั้งหมดของเราได้ที่ mywonderwheelเลยครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับสวัสดีครับ
เครดิต : สล็อตแตกง่าย