สำหรับในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับสุดยอดยนต์กรรมที่ดีที่สุดในประวัติศาตร์ของแบรนด์สุดสง่างามสัญชาติอังกฤษ กับ Aston Martin DBS Superleggera รถยนต์ Super Car ที่เร็วที่สุดของแบรนด์ในปัจจุบัน คันนี้ ซึ่งเป็นรถยนต์ประเภทแกรนด์ทัวร์เรอร์ คันที่ดีที่สุดของ Aston Martin โดยจะเป็นคันล่าสุดที่ได้นำชื่อ DBS เข้ามาใช้ที่บ่งบอกถึงรุ่นสูงสุดของตระกูลโร้ดคาร์ของแบรนด์ แถมในรุ่นนี้ยังมากับรหัส Superleggera ที่บ่งบอกถึงความเป็นรุ่น Lightweight ที่จะใช้วัสดุมวลเบาเป็นหลัก และ รวมไปถึงส่วนต่าง ๆ ที่ได้ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และ เพิ่มเติมเข้ามาให้ตัวรถมีสมรรถนะสูงกว่าในรถยนต์ตระกูล DB Series ทุกรุ่นที่ผ่านมา เพราะ ทุกอย่าที่ได้เพิ่มเข้ามาให้นั้นล้วนมาจากเทคโนโลยีในสนามแข่งของแบรนด์ด้วยกันทั้งสิ้น ตั้งแต่เครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบที่ได้รับการปรับจูนใหม่ ช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาให้แน่นหนึบฟิลลิ่งรถแข่งมากขึ้น และ มาพร้อมกับเทคโนโลยีเฉพาะตัวต่าง ๆ อีกมากมาย แถมดีไซน์การออกแบบก็สามารถบ่งบอกเอกลักษณ์ของแบรนด์ Aston Martin ได้อย่างชัดเจนเช่นเคย ซึ่งรถยนต์คันนี้จะมีรายละเอียดกับสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันเลยครับ
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Aston Martin DBS
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- อย่างแรกเรามาดูในเรื่องของดีไซน์การออกแบบกันก่อนเลย ซึ่งก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าในรุ่นนี้เป็นรุ่น Lightweight หรือ น้ำหนักเบา จึงมากับวัสดุที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์มากกว่าในรุ่นอื่น ๆ จุดประสงค์ก็เพื่อให้รถยนต์คันนี้เป็นรถลงถนนร่างสุดยอดของตระกูล โดยมากับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มีกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มช่องรับอากาศบนกันชนหน้าเข้ามาให้ ใช้ลิ้นหน้าเป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนตัวฝากระโปรงเองก็เป็นจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัด โดยจะใช้ฝากระโปรงแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ตกแต่ง Emblem Superleggera พร้อมเพิ่มเส้นสายกับช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ ที่จะช่วยส่งอากาศไปยังหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ต่อไปจนถึงด้านหลัง เพื่อช่วยเสริม Aero Dynamic ส่วนชุดกันชนท้ายก็จะใช้เป็นดีไซน์ใหม่ด้วยเช่นกันเพื่อให้ตัวรถสามารถจัดการอากาศได้ดีขึ้น โดยจะเพิ่มชิ้นส่วนที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาให้มากขึ้น ช่วยให้มีน้ำหนักเบาลง และ ตัว Spoiler แบบ Adaptive ดีไซน์ใหม่ ยังสามารถปรับองศาได้ ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศให้กับตัวรถด้านท้ายได้มากขึ้น เพื่อรองรับความเร็วที่มีเพิ่มขึ้น กับ น้ำหนักของตัวรถที่เบาลง ให้ทำงานได้อย่างสมดุลเหมาะสมกันมากที่สุด แต่ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัสดุใหม่ทั้งหมด ผู้ผลิตอย่าง Aston Martin ก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ได้เช่นเคย ด้วยกระจังหน้า 6 เหลี่ยม กับ ชุดไฟหน้าไฟท้ายที่มีรูปทรงหล่อเท่ห์ และ รูปร่างอันแข็งแกร่งที่ไม่ว่ามองจากมุมไหน ก็สามารถบอกได้ว่านี่คือรถของ Aston Martin
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาว 4,712 มิลลิเมตร
- มีความกว้าง 1,968 มิลลิเมตร
- มีความสูง 1,280 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 2,805 มิลลิเมตร
- มีระยะห่างจากพื้น 110 มิลลิเมตร
- มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 78 ลิตร
- มีน้ำหนักตัวรถ 1,693 กิโลกรัม
- มีล้อแม็กซ์ Forged ขนาด 21 นิ้ว
- มียางหน้าขนาด 265/35 ZR21
- มียางหลังขนาด 305/30 ZR21
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Aston Martin DBS
Interior:ภายในรถยนต์
- ส่วนการออกแบบภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้จะมาในสไตล์สปอร์ตสุดหรูหรา ที่หุ้มด้วยหนังแท้ทั้งคัน ตัดเย็บเป็นลวดลายสวยงาม สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างอิสระ ตกแต่งวัสดุด้านในด้วยสีดำเปียโนและคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งรายละเอียดและตำแหน่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีหน้าตาเหมือนกับในรุ่น DB11 แต่จะดูหรูหราพรีเมี่ยมมากกว่าเพื่อให้สมกับเป็นรุ่นสูงสุด โดดเด่นมากับชุด Center Control บนคอนโซลกลางที่ใช้ระบบสัมผัสเป็นหลัก โดยจะมีเพียง ปุ่ม Push Start กับ ปุ่ม เกียร์ เท่านั้นที่ไม่ใช่ Touch Screen ส่วนชุดหน้าจอมาตรวัดจะมาเป็นแบบ Full Digital 3 ช่อง ที่พอรวมเข้ากับชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด โดยที่หุ้มด้วยหนังแท้แบบพิเศษด้วยแล้ว ทำให้รถคันนี้ดูหรูหราสวยงามแบบหาที่ติไม่ได้จริง ๆ แถมในเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก กับเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะต่าง ๆ เองก็ใส่เข้ามาให้แบบครบถ้วน
- สำหรับเบาะนั่งจะมาในสไตล์ Sport สุดหรูหรา 4 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนังแบบตัดเย็บพิเศษตกแต่งเป็นลวดลายสุดหรูหรา เบาะนั่งคู่หน้าปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า โดยจะมาพร้อมกับระบบ Heater Seat อุ่นร้อนในตัว
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- สำหรับระบบความบันเทิงในรุ่นนี้จะมากับหน้าจอเครื่องเล่นระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับระบบเชื่อมต่อ Smart Phone สมัยใหม่แบบครบครัน แถมยังมาพร้อมกับระบบนำทางผ่านดาวเทียมแบบ Infotainment และ ยังอัดแน่นไปด้วยเครื่องเสียงสุดพรีเมี่ยมที่มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง
เครื่องยนต์รถยนต์ : Aston Martin DBS
Engine:เครื่องยนต์
- สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์ V12 เบนซินทวินเทอร์โบ 5.2 ลิตร ขนาด 5,204 ซีซี DOHC 48 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบ Direct-Injection สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้ 725 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 900 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง ใช้ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ ZF 8 สปีด สามารถเรียกอัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.4 วินาที โดยมาพร้อมกับความเร็วสูงสุดที่ 340 กม./ชม.
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Aston Martin DBS
Safety : ระบบความปลอดภัย
- สำหรับคำว่า Superleggera นั้น มาจากภาษาอิตาลี่ที่ให้ความหมายว่าเบาพิเศษ หรือ Superlight โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปแบบเดิม แต่เปลี่ยนจากวัสดุอลูมิเนียมล้วนที่น้ำหนักเบาอยู่แล้ว มาผสมกับคาร์บอนไฟเบอร์จึงทำให้โครงสร้างตัวถังมีน้ำหนักที่เบาลงมาก ๆ เพื่อให้รถสามารถทำความเร็วได้มากขึ้น โดยทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างแบบอิสระ Double Wishbone ที่มาพร้อมกับระบบ Adaptive Damping Control โดยสามารถปรับรูปแบบการทำงานได้อย่างอิสระ ทั้งค่าแข็งอ่อนระดับความสูง ที่ออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งานในสนามแข่งมากขึ้น ส่วนระบบห้ามล้อจะใช้เป็น เบรกสมรรถนะสูง แบบ Carbon Ceramic ของ Aston Martin ที่สามารถปรับระดับหรือรูปแบบการทำงานได้อย่างอิสระหลากหลาย พร้อมยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะมากมายตั้งแต่ระบบ TCS , VSC ที่สามารถช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวบนความเร็วสูงได้ และ เทคโนโลยีเฉพาะตัวจากทีมแข่งของแบรนด์ที่ผสมเล็กผสมน้อยเข้ามาให้ แถมยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 3 โหมด ที่เริ่มมาก็เป็นโหมด Sport ไปจนถึงโหมด Race โดยจะไม่มีโหมด Comfort มาให้
สรุปรถยนต์ : Aston Martin DBS
สำหรับรถยนต์คันนี้ก็จะเป็นพี่ใหญ่ตัวแรงของตระกูล DB-Series มาในรหัส Superleggera ที่บ่งบอกถึงความเป็นรุ่นน้ำหนักเบา อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่รอบคัน ปรับรูปร่างหน้าตาให้ดูสปอร์ตสวยงามทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ Aston Martin ไว้ได้เช่นเคยด้วยกระจังหน้า 6 เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ กับ รูปร่างสุดแข็งแกร่งดุจนักล่าที่ดูหน้าเกรงขามในทุกมุมมอง นอกจากนี้เครื่องยนต์เองก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยจะมีแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 725 ตัว แต่ส่วนที่โดดเด่นเลยคือแรงบิด ที่สูงถึง 900 นิวตันเมตรเลย ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งก็ถือว่าเยอะมาก ๆ หากเทียบกับน้ำหนักของตัวรถ และ ทำงานตั้งแต่ก่อน 2,000 รอบเท่านั้น ถือว่าเป็นรถที่มีกำลังต้นจัดมาก ๆ สมกับฉายานักล่าที่จะไม่มีใครหนีทัน
รถยนต์ Aston Martin DBS มีทั้งหมด 46 สี
Blacks & Greys
Purples & Blues
Greens
Reds
Bronzes & Oranges
Silver & White
ราคารถยนต์ : Aston Martin DBS
รถยนต์ Aston Martin DBS ราคา 28,900,000 บาท
Link ซื้อรถยนต์ : Aston Martin DBS
https://www.astonmartin.com/en
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับบทความพรีวิวรถยนต์สุดยอดนักล่า อย่าง Aston Martin DBS Superleggera รถยนต์ Super Car ที่เร็วที่สุดของแบรนด์ในปัจจุบัน คันนี้ หวังว่าบทความของเราจะมอบความสนุกความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมทุกท่านนะครับ และ หากท่านใดที่อย่างทราบว่ารถยนต์ที่มีแรงบิดเยอะ กับ รถยนต์ที่มีแรงม้าเยอะ ต่างกันอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ในหมวด เกร็ดความรู้เรื่องรถ จาก mywonderwheel ของเราได้เลย พร้อมกับสาระน่ารู้เรื่องรถอีกมากมายที่เราได้ทำมาฝากทุกท่าน ส่วนในวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า สวัสดีครับ