ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยานตร์นั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอด ซึ่งรถ Hypercar นั้นก็ได้มีการพัฒนาและเปิดตัวรถใหม่ๆ อยู่ทุกปี พูดถึง Hypercar แล้วแน่นอนว่าหลายคนคงอยากจะรู้ว่ารถที่แรงที่สุดในโลกนั้นมีคันไหนบ้าง ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับ บทความ 11 รถยนต์ Production Car ที่ทำความเร็ว Top Speed ได้สูงที่สุดในโลก ที่เป็นสถิติของปี 2023 เรื่องนี้ ที่ได้รวบรวมรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่เร็วแรงที่สุดในโลกมาฝากกัน แล้วถ้าหากพูดถึงเรื่องความเร็วและความแรงของรถยนต์ หลายคนคงจะนึกถึงคำว่า Supercar กันเป็นหลักแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่อยู่เหนือกว่า Supercar ก็คือ Hypercar ที่เรากำลังจะพูดถึงนี่แหละ งั้นเรามาทำความรู้จักกับ Hypercar กันก่อนดีกว่าว่าคืออะไร
Hyper Car คืออะไร
หากให้คำนิยามของ Hypercar แบบสั้นๆ ก็คือ Hypercar คือรถรุ่นท็อปสุดของ Supercar ในไลน์ผลิตนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทรถหรูที่ทำการผลิต โดยสมรรถนะของตัวรถ Hypercar นั้นจะสูงและเหนือชั้นกว่ารถรุ่นอื่นๆ แน่นอนอยู่แล้วหากขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง และเร็วที่สุด ราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วยเช่นกัน
11 รถยนต์ Production Car ที่ทำความเร็ว Top Speed ได้สูงที่สุดในโลก ที่เป็นสถิติของปี 2023
รถยนต์ Czinger 21C
Czinger 21C มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,233 แรงม้า น้ำหนักตัวรถค่อนข้างเบาที่ 2,734 ปอนด์ หรือ 1,240 กก. สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาที Czinger อ้างว่าโมเดลดังกล่าวสามารถทำความเร็วสูงสุด 281 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 452.2 กม./ชม.
รถยนต์ SSC Tuatara
SSC Tuatara ไฮเปอร์คาร์ตัวแรงจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ที่สามารถทำความเร็วสูงสุด 295 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 474 กม./ชม. ในสนามทดสอบ Johnny Bohmer จะค่อนข้างช้ากว่าค่าเฉลี่ยในสเปค 316 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 508 กม/ชม. แต่ก็ยังเร็วเกินพอที่จะอ้างชื่อว่าเป็นรถที่แล้วที่สุดในโลกชั่วคราว
รถยนต์ Hennessey Venom F5 Roadster
Hennessey Venom F5 Roadster ไฮเปอร์คาร์เปิดหลังคาที่เร็วที่สุดในโลก มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 วางกลาง 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร Hennessey อ้างว่าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 300 ไมล์/ชั่วโมง+ หรือมากกว่า 482 กม./ชม.
รถยนต์ Koenigsegg CC850
Koenigsegg CC850 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในสไตล์เรโทร มาพร้อมเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,385 แรงม้า Koenigsegg กล่าวว่า CC850 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และมีความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 ไมล์/ชั่วโมง+ หรือมากกว่า 482 กม./ชม.
รถยนต์ Bugatti Chiron Super Sport 300+
Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกในทางเทคนิคด้วยความเร็วสูงสุด 304.8 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 490 กม./ชม. ด้วยเครื่องยนต์ W16 4 เทอร์โบ 8.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม ในเวลาเพียง 2.3 วินาที และที่สำคัญมันสามารถทำความเร็วสูงสุดในการทดสอบอย่างเป็นทางการได้ตามที่กล่าวอ้าง ที่ 304.8 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 490 กม./ชม.
รถยนต์ SP Automotive Chaos
SP Automotive Chaos เปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 และถึงแม้ว่าจะอาจจะฟังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่มันก็มาพร้อมกับขุมพลัง 3,000 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V10 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร พร้อมระบบไฮบริด สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.8 วินาที และความเร็วสูงสุดมากกว่า 310 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 498 กม./ชม.
รถยนต์ Hennessey Venom F5
Hennessey Venom F5 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร Hennessey อ้าง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 310 ไมล์/ชั่วโมง หรือมากกว่า 498 กม./ชม. โดยทางผู้ผลิตกำลังวางแผนที่จะสร้างเพียง 24 คันเท่านั้น
รถยนต์ Bugatti Bolide
Bugatti Bolide สำหรับใช้งานในสนามแข่งเท่านั้น และนี่คือผลงานการสร้างสรรค์ที่แหวกแนวที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร 4 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 1,825 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,850 นิวตัน-เมตร ซึ่งให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 27 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 250 นิวตัน-เมตร หากเทียบกับ Chiron Super Sport 300+ ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ที่ 311 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 500 กม./ชม.
รถยนต์ DEVEL SIXTEEN
รถที่เร็วที่สุดในโลกอันดับรองสุดท้ายก็คือ DEVEL SIXTEEN ซึ่งคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 480-515 กม./ชม. เลยทีเดียว และมี ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 49.06 ล้านบาทเท่านั้น ที่นอกจากจะมีความแรงและ ความเร็ว อันน่าทึ่งแล้ว รถคันนี้ยังมีการดีไซน์ที่ เท่ แข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกดุดันอีกด้วย
รถยนต์ Koenigsegg Jesko Absolut
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว Chiron Super Sport 300+ จะเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก แต่ Koenigsegg กล่าวว่า Jesko Absolut นั้นเร็วกว่า ด้วยพละกำลัง 1,600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และตัวถังที่สร้างแรงกดมหาศาล ทำให้มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 330 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 530 กม./ชม. ในสนามทดสอบ Ehra-Lessien ของ Volkswagen และอีกหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ เลยที่ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกนอกจากเครื่องยนต์แล้ว นั่นก็คือดีไซน์การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยเฉพาะ เริ่มที่ Koenigsegg Jesko Absolut เป็นไฮเปอร์คาร์ 2 ที่นั่ง ที่มาพร้อมหลังคาแข็งที่สามารถถอดเก็บในฝากระโปรงหน้าได้ ทำให้น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,290 กิโลกรัม (เบากว่า Jesko 30 กก.) แซสซีส์เป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์ Monocoque ห่อหุ้มด้วยเปลือกตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ผสมเคฟล่า ช่วงล่างถูกเซทใหม่ให้นุ่มขึ้น ด้านแอร์โรไดมามิกถูกพัฒนาใหม่รอบคัน เพื่อเน้นทำความเร็วโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบ CFD Simulations กว่า 5,000 ชั่วโมง ทำให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ที่ 0.278 Cd. นอกจากนี้แรงกดสูงสุดของ Jesko Absolute นั้นยังลดลงจาก Jesko ที่ทำได้ 1,400 กิโลกรัม เหลือเพียงแค่ 150 กิโลกรัม ผลจากการตัดปีกท้ายขนาดใหญ่แบบ Jesko ออกไป และแทนที่ด้วยครีบท้ายแบบแยก 2 ชิ้น ใช้รักษาสเถียรภาพในความเร็วสูง พร้อมยืดความยาวกันชนท้ายเพิ่มอีก 85 มม. ชุดล้อให้มาในขนาด 20 นิ้ว และด้านหลัง 21 นิ้ว โดยที่ล้อคู่หลังถูกออกแบบพิเศษให้ลดแรงต้านอากาศ ส่วนของยางให้ Michelin Pilot Sport Cup2 มาจากโรงงาน และมียาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R เป็นออฟชั่นให้เลือกด้วย ด้วยสมรรถนะที่ใส่ใจและลงทุนลงแรงไปกับทุกรายละเอียดแบบนี้ก็ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นเจ้าของสถิติโลกอยู่ในเวลานี้กันเลย
รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก Aspark Owl
แถมให้กันอีกสักหนึ่งคันกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก เพราะเจ้า Aspark Owl รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นคันนี้ ได้ทำลายสถิติโลกของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงสุด แถมยังได้ความเร็วสูงสุดถึง 2 สถิติด้วยกัน ทั้งในระยะ 200 เมตร และ 400 เมตร ที่ความเร็วสูงสุดราว 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากการทดสอบที่ลานบิน “อัลวิงตัน” ทางตอนเหนือของอังกฤษ โดยมีความเร็วเฉลี่ย 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับระยะ 200 เมตร และทำความเร็วได้สูงถึง 318 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะ 400 เมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0 จนถึง 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาไม่ถึงใน 2 วินาทีอีกด้วย และยังสามารถขับขี่ในความเร็วสูงสุดที่ 418 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร และใช้เวลาชาร์จเพียง 40 นาทีเท่านั้น
สรุป
เรียกได้ว่านอกจากจะเร็วและแรงแล้ว ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่หล่อเท่ห์กันทุกคันเลยสำหรับ รถยนต์ทั้งหมดที่เราได้นำมาฝากกันใน บทความ 11 รถยนต์ Production Car ที่ทำความเร็ว Top Speed ได้สูงที่สุดในโลก ที่เป็นสถิติของปี 2023 เรื่องนี้ หวังว่าจะถูกใจคนรักความเร็วกันนะครับ ส่วนใครที่หลงไหลในเสน่ห์ของรถยนต์ Hyper Car แบบนี้ เราจะมาทำรายละเอียดของแต่ละรุ่นแบบอย่างละเอียดให้รับชมกันในบทความครั้งต่อไปนะครับ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด