บทความ 5 รถจักรยานยนต์ที่แพงที่สุด ในงาน Moto Expo 2023 ที่เพียงแค่มีข่าวว่าจะนำมาเปิดตัวที่งานก็มีคนมารอชมกันเพียบ เรื่องนี้
5 รถจักรยานยนต์ที่แพงที่สุด ในงาน Moto Expo 2023 ที่เพียงแค่มีข่าวว่าจะนำมาเปิดตัวที่งานก็มีคนมารอชมกันเพียบ
รถจักรยานยนต์ Honda Goldwing
New Honda Goldwing ทัวร์ริ่งระดับท็อปคลาสพร้อมพาคุณไปพบเรื่องราวแสนพิเศษ และประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าทุกจินตนาการที่คุณเคยคาดถึง BEYOND YOUR MASTERPIECE ให้ปลายทาง…เหนือทุกจินตนาการ ดีไซน์สุดหรูพร้อมฟีเจอร์ใหม่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย และการออกแบบที่ใส่ใจเป็นที่สุด เพื่อเติมเต็มความสุขและความสะดวกสบายได้อย่างเหนือชั้น มาพร้อมไฟตัดหมอกหน้าเพิ่มทัศนวิสัยขณะขับขี่เวลากลางคืน มือจับขนาดใหญ่สำหรับผู้ซ้อนท้ายเพื่อความปลอดภัย สะดวกสบายไปกับช่องใส่สัมภาระด้านข้างขนาดใหญ่ จุได้ถึง 121 ลิตร ควบคุมการเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า สะดวกทันสมัย และ Top Box ขนาด 61 ลิตร ที่สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบ Full Frame ได้ถึง 2 ใบ สะดวกในการจัดเก็บ เบาะนั่งได้รับการปรับใหม่ ให้องศาเข้ากับสรีระของผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย พร้อมพนักพิงที่กว้างขึ้น ตอบโจทย์การเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี ข้างเบาะนั่งมาพร้อมมือจับ สำหรับผู้ซ้อนท้าย ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันจับได้ถนัดมือยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับขุมพลังของ Honda Goldwing ได้มาจากเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 6 ลูกสูบแนวนอน ขนาด 1,833 ซีซี. SOHC 24 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 4 แบบ คือ Tour, Sport, Econ และ Rain ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์อัจฉริยะ DCT 7 สปีด เอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้า ใช้ระบบเกียร์อัจฉริยะ Dual-Clutch Transmission (DCT) ปรับความเร็วได้ 7 สปีด ทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมความเร็วต่ำพิเศษหรือ “Walking” และระบบคันเร่งไฟฟ้า ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมแรงบิด Honda Selectable Torque Control (HSTC) ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล
ราคาเริ่มต้นที่ 1,340,000 บาท
รถจักรยานยนต์ BMW M1000RR 2023
BMW M1000RR ปี 2023 ฉลามตัวท็อปแรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับค่าย BMW ดูเหมือนว่าในตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ภายใต้รหัส M จะกลายเป็นรุ่นรถประจำค่ายไปซะแล้ว เมื่อล่าสุดพวกเขาได้ทำการเปิดตัวรถซุปเปอร์สปอร์ตไบค์ภายใต้รหัส M กันอีกแล้วโดยใช้ชื่อว่า BMW M1000 RR ปี 2023 ซึ่งแน่นอนว่าตัวรถจะมาพร้อมกับวัสดุระดับสนามแข่งขัน พร้อมทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ที่จะให้ความแรงที่แตกต่างออกไปจากรถในรุ่นธรรมดาอย่าง BMW S1000 RR สำหรับในรุ่นนี้ตัวรถยังคงมาพร้อมกับวัสดุคุณภาพสูงเกรดเดียวกันกับสนามแข่งขันอย่าง WSBK โดยตัวรถมาพร้อมแฟริ่งภายนอกที่ทำจากวัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ส่วนด้านข้างตัวรถมาพร้อม M Winglets หรือปีกที่ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศให้ส่วนหน้าของตัวรถเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง โดยสำหรับชิ้นส่วน Winglets ใหม่นี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วสูงสุดให้กับตัวรถแล้วมันยังมาพร้อมแรงดาวน์ฟอร์ซให้ตัวรถได้ 9.1 ปอนด์ที่ 152 กม./ชม. และยังช่วยเพิ่มแรงกดได้กว่า 49.8 ปอนด์ที่ความเร็ว 300 กม./ชม. ซึ่งทำให้ตัวรถมีความเสถียรในการเข้าโค้งเป็นอย่างมาก
ขุมพลัง 205 แรงม้าจากโรงงาน BMW M1000RR ปี 2023 มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาด 999 ซี.ซี. 4 วาล์ว/สูบ DOHC พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผันหรือ Shift Cam ระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องยนต์ชุดนี้พร้อมส่งมอบขุมพลังที่ 205 แรงม้า (HP) ที่ 13,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ/นาที ทำให้ BMW M1000RR ปี 2023 มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า BMW S1000 RR ในรุ่นปกติด้วยความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 3.1 วินาทีเท่านั้น และสามารถทำความเร็วสูงสุดทะลุ 300 กม./ชม. ได้ตั้งแต่เป็นรถเดิม ๆ ออกจากโรงงานโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท
รถจักรยานยนต์ Ducati Multistrada V4 Pikes Peak
สำหรับรถจักรยานยนต์คันนี้หากมองผ่านๆมันก็อาจจะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจาก Ducati Multistrada V4 รุ่นพื้นฐานเท่าไหร่นัก นอกไปจากลวดลายชุดสีของมัน ที่ปรับใหม่ให้มาพร้อมกลิ่นอายแบบเดียวกับตัวแข่ง M แต่อันที่จริงมันยังมาพร้อมกับออพชันต่างๆที่ให้มายังถูกปรับแต่งใหม่ให้รองรับการใช้งานที่ “รวดเร็ว” กว่าเดิมด้วยอีกหลายรายการ ไล่ตั้งแต่ชุดท่อไอเสียคอไทเทเนียม-ปลายคาร์บอนของ Akrapovic ที่ช่วยให้สุ่มเสียงของเครื่องยนต์ V4 ที่เปล่งออกมามีความไพเราะ เสนาะหูมากยิ่งขึ้น, ชุดฟรอนท์เฟรมอลูมิเนียมโมโนค็อกปรับใหม่ เพื่อให้องศาแกนคือขยับจาก 24.5 องศา เป็น 25.75 องศา ของช่วงหน้าตัวรถที่มากขึ้น, ติดตั้งชุดล้ออลูมิเนียมฟอร์จ ขอบ 17 นิ้ว หน้า-หลัง จาก Marchesini ที่เบาลงกว่าเดิมรวมกันได้ 2.7 กิโลกรัม (น้ำหนักรถโดยรวมเบาลงกว่าตัวรถรุ่นพื้นฐาน 4 กิโลกรัม)
นอกนั้นในด้านรายละเอียดชิ้นส่วนอื่นๆ ก็ต่างยังคงเหมือนเดิมกับ Ducati Multistrada V4 S ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ V4 1,158CC กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (HP) ที่ 10,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตร ที่ 8,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุด เกียร์ 6 สปีด ตัดต่อกำลังด้วยชุดคลัทช์ไฮดรอลิกและมีระบบกลไกสลิปเปอร์คลัทช์ พร้อมระบบควิกชิฟท์เตอร์, ชุดมาตรวัด TFT Full- Color ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ, ชุดกุญแจ Keyless,, มีชุดเซนเซอร์ IMU, ABS Cornering, Ducati Wheelie Control (DWC), Ducati Traction Control (DTC), ระบบ Ducati Cornering Lights (DCL), ระบบ Vehicle Hold Control (VHC), uas Adaptive Cruise Control (ACC)
ราคาเริ่มต้นที่ 1,579,000 บาท
รถจักรยานยนต์ Brabus 1300 R
และนี่คือปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของแบรนด์บราบัสและ KTM ที่ได้รวมมือกันสร้างรถบิ๊กไบค์สไตล์เน็กเก็ดที่มีดีไซน์สุดหรูหราและสมรรถนะระดับท็อป ภายใต้ชื่อโมเดล BRABUS 1300 R ซึ่งนับเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกจากทางแบรนด์ สำหรับดีไซน์นั้นยึดแนวคิดสำคัญอย่าง “Black and Bold” หรือก็คือ “ดำและเด่น” แน่นอนว่าตัวรถจะมีสีดำเป็นองค์ประกอบหลักและเด่นด้วยชิ้นส่วนพรีเมียมระดับไฮเอนด์ทั่วทั้งคัน และเพื่อเพิ่มความเป็นเอ็กคลูซีฟและความพิเศษ ตัวรถจะจำหน่าย 2 สี ได้แก่ สี MAGMA RED (ถังน้ำมันแดงเบาะสีดำ) และ SIGNATURE BLACK (ถังน้ำมันสีดำเบาะสีแดง) โดยแต่ละสีจะมีจำหน่ายแค่เพียงสีละ 77 คัน ซึ่งตัวเลข 77 นั้นสื่อถึงปีที่บริษัทก่อตั้งขึ้นนั่นเอง
ขุมพลังนั้นใช้เครื่องยนต์วีทวิน ขนาด 1,301 ซีซี ซึ่งก็คือเครื่อง LC8 ของทาง KTM ที่ให้กำลังแรงถึง 180 แรงม้าที่ 9,500 รอบ และแรงบิด 140 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบ สมกับฐานะและภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่จะต้องมีสมรรถนะในระดับสูง สำหรับช่วงล่างนั้นจะใช้พื้นฐานเดียวกันกับ 1290 Super Duke โดยจะมีระบบกันสะเทือนจาก WP APEX แบบปรับไฟฟ้าเต็มระบบ ช่วยให้สามารถปรับเลือกโหมดแดมปิ้งของโช้คได้มากถึง 6 โหมด ได้แก่ COMFORT, STREET, SPORT, TRACK, ADVANCED และ AUTO ที่จะปรับให้เข้ากับถนนและสถานการณ์การขับขี่โดยอัตโนมัติ
ราคาเริ่มต้นที่ 1,990,000 บาท โควต้าคันเดียวในประเทศไทย
รถจักรยานยนต์ Harley-Davidson CVO Road Glide Limited 120th Anniversary
Harley-Davidson CVO Road Glide Limited 120th Anniversary 4.118 ล้านบาท ตัวท็อปรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 120 ปี ค่ายอินทรีย์มะกัน Custom Vehicle Operation ชื่อนี้บอกการันตีได้ถึงความแพงอยู่แล มันเป็นรถ Grand American Touring ตัวพิเศษ ที่เดิมทีราคามันก็แสนจะแพงเอาเรื่อง และบวกกับความ Limited ตัวฉลอง 1 เข้าไปอีก ก็ไม่คิดเหมือนกันว่า ราคาจะพุ่งไปไกลถึงหลัก 4 ล้านบาทเลยทีเดียว สำหรับเจ้า CVO™ Road Glide™ Limited รุ่นครบรอบปี 2030 คือ Bagger คัสตอมที่ลงหมายเลขซีเรียลในจำนวนจำกัดเพียง 1600 คัน ทั่วโลกเท่านั้น
ขุมพลังตัวใหม่กับเครื่องยนต์ MILWAUKEE-EIGHT 117 V-TWIN แรงบิดและความจุกระบอกสูบในระดับสูงสุดพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันที่แม่นยำเพื่อสร้างแรงบิดระดับ 166 Nm ที่ 3500 รอบต่อนาที ระบบไอดี Heavy Breather และระบบไอเสีย High Flow ช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ เพื่อให้อัตราเร่งที่คุณสัมผัสได้ทุกครั้งที่บิดเร่งเครื่อง
ราคาเริ่มต้นที่ 4,118,000 บาท
สรุป
บทความ 5 รถจักรยานยนต์ที่แพงที่สุด ในงาน Moto Expo 2023 ที่เพียงแค่มีข่าวว่าจะนำมาเปิดตัวที่งานก็มีคนมารอชมกันเพียบ เรื่องนี้