สำหรับในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรับชมกับอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ จากแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษอย่าง Lotus ที่ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์อย่าง รถยนต์ Lotus ELETRE รถยนต์ Hyper-SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของโลก กับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีรถยนต์คันไหนใช้มาก่อน คันนี้ ที่ได้นำเทคโนโลยี LIDAR เข้ามาใช้ในรถยนต์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะค่อยปล่อยคลื่นตรวจจับออกไปโดยรอบ เพื่อตรวจจับวุตถุงต่าง ๆ ส่งกลับมาให้กล่องสมองกลได้คำนวนและออกคำสั่งไปในระบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ก่อนที่เราจะรู้ตัวได้เสียอีก และ ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่เตรียมวางจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งรถยนต์คันนี้จะมีรายละเอียดและสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดอย่างไรบ้าง เราไปรับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Lotus ELETRE
Exterior:ภายนอกของรถยนต์
- มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ใช้เป็นชิ้นเดียวคุมด้านหน้าของตัวรถ
- มีช่องรับอากาศด้านหน้า ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
- มีลิ้นใต้กันชนด้านหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
- บนฝากระโปรงหน้ามีล่องดักอากาศเพื่อเสริม Aero Dynamic ให้กับตัวรถ
- มีโครมไฟหน้าสีดำ
- มีไฟหน้าแบบ Adaptive LED แบบ Laser Light
- มีไฟหรี่ Daytime Running Light แบบ LED
- มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED 3 มิติ
- มีสัญลักษณ์ Lotus แบบ Full Color บนฝากระโปรงด้านหน้า
- มีใบปัดน้ำฝนแบบ Aero Blades พร้อม Rain Sensor ช่วยปัดน้ำฝนให้อัตโนมัติ
- มีหลังคากระจก Panorama Glass Roof
- มีกระจกบังลมแบบ Privacy Glass
- มี Skirt ด้านข้างตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
- มีกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่จะใช้เป็นกล้องมองภาพแทนกระจก
- กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว
- ตัวกล้องบนกระจกมองข้าง สามารถปรับองศาได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- มีกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ใช้เป็นชิ้นเดียวคุมทั้งท้ายรถ เหมือนกับด้านหน้า
- มีช่องระบายอากาศบนกันชนท้ายแบบใหม่ ช่วยเสริม Aero Dynamic ให้กับตัวรถ
- มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
- มีสัญลักษณ์ Lotus อยู่กึ่งกลางระหว่างไฟท้าย
- มีสปอยเลอร์แบบ ดีไซน์ใหม่แบบแยกชิ้นเป็น 2 ส่วน ซ้าย และ ขวา
- มีไฟท้าย Full LED
- มีไฟหรี่ด้านท้าย LED แบบ Light Gilding เป็นเส้นยาว
- มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED 3 มิติ
- มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว
- มียางหน้าขนาด 285/40 R20
- มียางหลังขนาด 305/35 R20
Dimension:มิติตัวถังรถ
- มีความยาวทั้งหมด 5,103 มิลลิเมตร
- มีความกว้างทั้งหมด 2,135 มิลลิเมตร
- มีความสูงทั้งหมด 1,630 มิลลิเมตร
- มีระยะฐานล้อ 3,019 มิลลิเมตร
- มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 150 มิลลิเมตร
- มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 600 ลิตร และอีก 1,500 ลิตร เมื่อพับเบาะลง
- มีน้ำหนักตัวถังทั้งหมด 2,455 กิโลกรัม
ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Lotus ELETRE
Interior:ภายในรถยนต์
- ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีสันสวยงาม สามารถเลือก Custom ได้อย่างหลากหลายและอิสระ
- ตกแต่งแผงประตู และ แดชบอร์ด ด้วยหนัง สลับ Alcantara เดินตะเขิบด้วยเส้นด้ายสีเหลืองทอง หรือ ตามสีที่เลือก
- ใช้วัสดุตกแต่งอุปกรณ์ด้านในด้วยสีดำเงา , สีเงินโครเมี่ยม และ ลายคาร์บอนไฟเบอร์
- สำหรับในรุ่นนี้จะไม่มีชุดหน้าจอมาตรวัดขนาดใหญ่ด้านหลังพวงมาลัย เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ โดยจะใช้เป็นหน้าจอ Digital ขนาดเล็กแนวยาว ที่มีความสูงเพียง 3 เซนติเมตรเท่านั้น ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับแผงแดชบอร์ดด้านหน้า แถมยังมีหน้าจอแบบเดียวกันบนแผงแดชบอร์ดของผู้โดยสารด้วย
- มีช่องเก็บของบริเวณ แผงประตูคู่หน้าขนาดใหญ่ ที่สามารถใส่ขวดน้ำขนาด 1 ลิตรได้สบาย ๆ
- มีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบ Ambient Light
- มีพวงมาลัยมัลดิฟังก์ชันดีไซน์ใหม่แบบ สปอร์ตท้ายตัด ที่เพิ่มปุ่มควบคุมแอร์ และ ระบบต่าง ๆ ภายในรถเข้ามาให้เกือบทั้งหมด บนพวงมาลัย
- มีเกียร์อัตโนมัติแบบ สวิตซ์คันโยก สไตล์รถยนต์ Super Car
- ตกแต่งพื้นหลังของแผงควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง ด้วยลายหินอ่อน
- มีพื้นที่เก็บของบริเวณ ใต้แผงควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง
- มีกล่องเก็บของบริเวณ คอนโซลกลางพร้อมฝาปิดที่หุ้มด้วย Alcantara แบบ Soft Touch
- มีระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- มีช่องเชื่อมต่อ USB 1 ตำแหน่ง
- มีที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง
- มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ Traction Control
- มีแป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น
- มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ ซ้าย , ขวา และ ด้านหลัง
- มีแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายแบบ Wireless Charged
- มีเบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วย Alcantara สีดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายสีเดียวกับตัวรถ หรือ ตามสีที่เลือก
- มีสัญลักษณ์ ABปักอยู่บนพนักพิงศีรษะ (ตัวเบาะนั่งสามารถเลือกตกแต่งได้อย่างอิสระ)
- มีเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Bucket Seat
- เบาะนั่งคู่หน้า ปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
- เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบ Heater มาให้
- มีเบาะนั่งด้านหลัง 2 ที่นั่ง สไตล์สปอร์ต แบบ Bucket Seat แบบเดียวกับเบาะคู่หน้า แต่หากต้องการเบาะนั่งแบบแถวยาง ทางผู้ผลิตก็มีตัวเลือกให้เช่นกัน
- เบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 2 ปรับตำแหน่งได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- เบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 2 มีระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat
- เบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 2 มีระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
- เบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 2 มีระบบอุ่นร้อน Heater Seat
- มีชุดหน้าจอ ระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 9 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ใช้เพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ของห้องโดยสารด้านหลัง
- มีช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางของผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งในตัว
- มีช่องเก็บของแบบ Cool Box ด้านล่างของกล่องเก็บของด้านหลัง
- มีที่วางแขนแบบ Soft Touch ที่สามารถพับเก็บได้เหมือนเบาะนั่งแถวยาว
Entertainment:ระบบความบันเทิง
- มีชุดหน้าจอเครื่องเล่น LCD ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 15.1 นิ้วแบบ OLED ที่ปรับองศา และ หมุนหน้าจอได้อย่างอิสระ
- รองรับวิทยุ FM/AM CD/DVD และ MP3
- รองรับวิทยุ Digital แบบ DAB
- มีระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth
- รองรับระบบ Apple Car Play และ Android Auto
- มีช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX
- มีช่องจ่าไฟ 12 V
- มีระบบนำทาง Satellite Navigation
- มีลำโพง 20 ตำแหน่ง จาก KEF พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง
เครื่องยนต์รถยนต์ : Lotus ELETRE
Power Train : ขุมพลัง
- สำหรับในรุ่นนี้จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวเป็นตัวส่งกำลังในการขับเคลื่อน ถูกติดตั้งอยู่ในล้อคู่หน้า 1 ตัว และ ล้อคู่หลังหนึ่งตัว ในจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จะใช้มอเตอร์แบบที่รวมเป็นตัวเดียวกับชุดควบคุม จึงได้มอเตอร์ที่มีขนาดเล็กและเบา ใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium Ion Polymer ความจุ 100 กิโลวัตต์ ให้พละกำลังสูงสุด 600 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่มากกว่า 800 นิวตันเมตร ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ
โหมดการขับขี่ มีให้เลือก 4 โหมด
- โหมด Range
- โหมด Tour
- โหมด Sport
- โหมด Off-Road
มีตัวเลขจากโรงงานดังนี้
- มีอัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 3.0 วินาที
- มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การชาร์จไฟฟ้า
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ AC 2 Phase 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 9 ชั่วโมง
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ AC 3 Phase 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง
- หากใช้ไฟฟ้าแบบ DC 270 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 นาที
- สำหรับการชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าแบบ DC เพียง 20 นาที ก็จะสามารถใช้งานได้ไกลถึง 400 กิโลเมตรเลย
- สำหรับแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม 100 % จะมีระยะทางสูงสุดที่ใช้งานได้ถึง 600 กิโลเมตรเลย
ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Lotus ELETRE
Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถัง และ ช่วงล่าง
- ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Modular Platfrom ที่เป็นอลูมิเนียมผสมคาร์บอนช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา แข็งแรงและทนทาน และ ยังเป็นแพลทฟอร์มที่ขยายขนาดพื้นที่จากระดับ C+ ไป E+ ได้ ทำให้สามารถวางแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก
- มีระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ พวงมาลัยพาวเวอร์กึ่งไฟฟ้า แบบ EPS
- มีระบบช่วงล่างแบบ Adaptive ที่สามารถปรับระดับความสูงของตัวรถได้ด้วยระบบไฟฟ้า และ ปรับค่าการทำงานของระบบกันสะเทือนได้
- มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช๊คอัพ
- มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ 5-Link พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช๊คอัพ
- มีเฟืองท้ายแบบสปอร์ต ที่มาพร้อมกับระบบ Torque Vectoring
- มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็น ดิสก์เบรก โดยใช้จานเบรกแบบ Ceramic พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 10 Pot
- มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็น ดิสก์เบรก โดยใช้จานเบรกแบบ Ceramic พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 Pot
Safety:ระบบความปลอดภัย
- มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน
- มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
- มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4
- มีระบบ CBC ช่วยควบคุมการกระจายแรงเบรกในขณะเข้าโค้ง
- มีระบบ DBC ช่วยควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน
- มีระบบ ESC ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
- มีระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และ ช่วยไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีโดยไม่จำเป็น
- มีระบบ DBL ช่วยเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินให้ทันทีเมื่อเบรกกะทันหัน
- มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- มีระบบ HDC ช่วยชะลอความเร็วรถยนต์ในเวลาลงทางลาดชัน
- มีระบบ TPLW ช่วยแจ้งเตือนเมื่อลมยางมีแรงดันที่ผิดปกติ
- มี LIDAR 4 ตำแหน่งแบบพับเก็บได้ ช่วยตรวจจับวัตถุต่าง ๆ รอบคันรถและส่งข้อมูลมายังกล่องสมองกลเพื่อคำนวนในการใช้ระบบต่าง ๆ ให้รวดเร็วและต่อเนื่องมากที่สุด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีตัวนี้มาใส่ในรถยนต์
- มีระบบรับสัญญาณระดับ 5G เพื่ออัพเดทข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และ ได้ความเสถียรภาพมากที่สุด
- มีระบบ CMS ช่วยหยุดรถให้อัตโนมัติ ก่อนการชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- มีระบบ DOW ช่วยแจ้งเตือนไม่ให้เปิดประตูหากมีสิ่งกีดขวาง
- มีระบบ LKA ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร ไม่ออกนอกเลน
- มีระบบ IACC ช่วยควบคุมความเร็วอัตราโนมัติแบบแปรผัน สามารถเบรก และ เร่งตามคันหน้าเองได้ด้วยการประมวลผลจากกล่องสมองกล
- มีระบบ PEB ช่วยนำรถเข้าข้างทางเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- มีระบบ RCTA ช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีรถหรือวัตถุที่อยู่ในมุมอับสายตา ขณะถอยหลัง
- มีระบบ FCTA ช่วยแจ้งเตือนการชนด้านหน้า หรือ มีรถ กับ วัตถุอยู่ในจุดอับสายตา
- มีระบบ CPD ช่วยตรวจระวังเด็ก ๆ รอบตัวรถ
- มีระบบ LCA ช่วยเปลี่ยนเร็วในขณะทำความเร็ว
- มีระบบ TSI ช่วยตรวจสอบป้ายจราจรและแจ้งเตือนเมื่อทำผิดกฏจราจร หรือ ขับเร็วเกินกำหนด
- มีกล้องมองภาพรอบคันรถแบบ 360 องศา
- มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
- มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- มีม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
จุดเด่นของรถยนต์ : Lotus ELETRE
สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้ก็มีอยู่ด้วยกันรอบด้าน โดยสิ่งแรกที่เราจะพูดถึงจะเป็นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ไม่ในคอนเซ็ปท์ Carved By Air แบบเดียวกับในรุ่น Emira ทำให้รถคันนี้ดูสวยงามพริ้วไหวในทุกมุมมอง แถมยังช่วยเสริม Aero Dynamic ให้กับตัวรถในความเร็วสูงด้วย ส่วนภายในห้องโดยสารเอง ก็มาในดีไซน์สุดล้ำ สวยงามไม่แพ้ใครโดดเด่นไปกับเบาะนั่งแบบ Bucket Seat 4 ที่นั่ง และ อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครัน ส่วนขุมพลังของในรุ่นนี้ก็สามารถจัดให้เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงได้เลย เพราะมากับพละกำลังที่สูงถึง 600 แรงม้า กับ แรงบิด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ในเวลา 3 วินาทีเท่านั้น บวกกับเทคโนโลยี LIDAR ที่ใส่เข้ามาให้ถึง 4 ตำแหน่ง ซ่อนอยู่ตามส่วนต่าง ๆ รอบคันรถ จึงทำให้รถคันนี้ถูกยกให้เป็น Hyper SUV คันแรกของโลกไปเป็นที่เรียบร้อย
สรุปรถยนต์ : Lotus ELETRE
สำหรับรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ อเนกประสงค์ SUV สไตล์สปอร์ต 5 ประตู 4 ที่นั่ง พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ ที่มากับรูปร่างหน้าตาที่สวยงามล้ำสมัย อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรอบคัน มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถเดินทางได้มากที่สุดถึง 600 กิโลเมตรเลย และด้วยสมรรถนะที่น่าทึ่งของรถยนต์คันนี้จึงถูกยกให้เป็นรถยนต์ Hyper-SUV คันแรกของโลกก่อนใคร
รถยนต์ Lotus ELETRE มีทั้งหมด 7 สี
รถยนต์ Lotus ELETRE สีเทาเข้ม
รถยนต์ Lotus ELETRE สีเขียว
รถยนต์ Lotus ELETRE สีน้ำตาล
รถยนต์ Lotus ELETRE สีดำ
รถยนต์ Lotus ELETRE สีแดง
รถยนต์ Lotus ELETRE สีชมพู
รถยนต์ Lotus ELETRE สีเหลือง
ราคารถยนต์ : Lotus ELETRE
รถยนต์ Lotus ELETRE ราคาคาดการณ์ 4.39 ล้านบาท แบบที่ยังไม่รวมภาษีนะครับ แต่หากรวมภาษีแล้วด้วยสมรรถนะขนาดนี้ก็ต้องมารอรับชมกันครับ ว่าจะเปิดตัวในบ้านเราด้วยราคาที่เท่าไร
Link ซื้อรถยนต์ : Lotus ELETRE
สุดท้ายก่อนจากกันในครั้งนี้ หวังว่าบทความพรีวิว รถยนต์ Lotus ELETRE รถยนต์ Hyper-SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของโลก กับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีรถยนต์คันไหนใช้มาก่อน ของเราเรื่องนี้ จะมอบประโยชน์และคลายข้อสงสัยให้กับหลาย ๆ ท่านได้ว่าทำไมรถยนต์คันนี้จึงถูกยกให้เป็น Hyper Car ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นบทความเรื่องอะไรนั้น โปรดติดตาม mywonderwheel ของเราด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ