Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า

รีวิวรถยอดฮิต

เรียกได้ว่าหลังจากที่เปิดตัวรุ่นก่อนหน้านี้อย่า 296 GTB ที่เป็นเครื่องยนต์ V6 แบบ Plug-in Hybrid รุ่นแรกของทางค่าย ออกไปได้ไม่นานก็ถือว่่ามีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว จึงไม่รอช้าที่จะเปิดตัว Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า คันนี้ ตามกันออกมาติด ๆ แต่ครั้งนี้จะมาในชื่อ 296 GTS แทน โดยจะไม่ได้นำชื่อ Spider มาใช้เหมือนกับในโฉมเปิดประทุนรุ่นก่อน ๆ เนื่องจากการผลิตโครงสร้างของตัวถังได้ใช้คนละวิธีกัน โดยในครั้งนี้จะมากับโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ที่ใช้หลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เปิดประทุนแบบพับได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ของแบรนด์ Ferrari ซึ่งนอกจากรถยนต์คันนี้จะมาในโฉมเปิดประทุนแล้ว ก็ยังมีรายละเอียดในบางจุดที่ในรุ่นหลังคาแข็งเองก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปรับชมข้อมูลทั้งหมดพร้อม ๆ กันเลยครับ

ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า1

Exterior:ภายนอกของรถยนต์ 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า2
  • มีกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สุดล้ำ แบบเป็นชิ้นเดียวคุมด้านหน้ารถ ตามแบบฉบับรถ Super Car 
  • มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ใต้กันชนหน้า ตกแต่งขอบด้วยสีดำ
  • มีลิ้นหน้า สไตล์ Super Car แบบคาร์บอนไฟเบอร์
  • มี Emblem แบรนด์ Ferrari แบบ Full Color บนกึ่งกลางของกันชนด้านหน้า อยู่ด้านบนของสัญลักษณ์ม้าพยศ
  • มีฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ 
  • มีโคลมไฟหน้าแบบลมดำ 
  • มีไฟหน้าแบบ Adaptive LED ดีไซน์ใหม่
  • มีไฟหรี่ Daytime Running Light แบบ LED 3 ชั้น
  • มีไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED 
  • มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED 3 มิติ
  • มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • มีระบบ ปรับไฟสูง-ไฟต่ำ ให้อัตโนมัติ 
  • มีกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ 
  • กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว
  • กระจกมองข้า่งปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า
  • มี Skirt ด้านข้างแบบ คาร์บอนไฟเบอร์
  • มีช่องรับอากาศบนด้านหน้าของโปร่งซุ้มล้อด้านหลัง
  • มีหลังคาเปิดประทุน เป็นหลังคาแข็งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ สั่งการด้วยระบบไฟฟ้า ใช้เวลาเปิด-ปิด ไม่เกิน 14 วินาที ในขณะที่รถเคลื่อนในที่ความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า3
  • มีกันชนท้ายสไตล์สปอร์ต สีทูโทน ใช้เป็นสีดำ ตัด กับสีตัวรถ
  • มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ บริเวณกันชนท้าย ปรับรูปทรงให้ช่วยเสริม Aero Dynamic ไปด้วยในตัว
  • มีไฟท้าย LED แบบหกเหลี่ยม 4 ดวง
  • มีไฟหรี่ด้านท้ายแบบ LED Light Gilding แบบวงแหวน
  • มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
  • มีไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ LED 3 มิติ
  • มีสัญลักษณ์ม้าพยศ Ferrari สีเงินโครเมี่ยม บนชุด Rear Bumper 
  • มีดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังสไตล์สปอร์ต ใช้วัสดุแบบคาร์บอนไฟเบอร์
  • มีท่อไอเสียคู่แบบ Titanium ขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชันปรับระดับความดังของเสียงได้ 
  • มีฝาปิดเครื่องยนต์ด้านหลังสีเดียวกับตัวรถ
  • มีสปอยเลอร์ดีไซน์ใหม่ แบบ Adaptive สีเดียวกับตัวรถ 
  • มีเสาอากาศครีบฉลามแบบ Shark Fin 
Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า4
  • มีล้อแม็กซ์ Forged ดีไซน์ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว 
  • มาพร้อมกับยาง Michelin รุ่น Pilot Sport Cup 2R
  • มียางหน้าขนาด 245/35 ZR20 หน้ายางกว้าง 9 นิ้ว
  • มียางหลังขนาด 305/35 ZR20 หน้ายางกว้าง 11 นิ้ว
  • พร้อมจานเบรกแบบ Ceramic Carbon กับคาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่

Dimension:มิติตัวถังรถ

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า5
  • มีความยาวทั้งหมดขนาด 4,565 มิลลิเมตร
  • มีความกว้างทังหมด 1,958 มิลลิเมตร 
  • มีความสูงทั้งหมด 1,191 มิลลิเมตร 
  • มีระยะฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร 
  • มีระยะห่างช่วงล้อคู่หน้า 1,665 มิลลิเมตร
  • มีระยะห่างช่วงล้อคู่หลัง 1,632 มิลลิเมตร
  • มีความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุด 100 มิลลิเมตร 
  • มีน้ำหนักตัวถังทั้งหมด 1,540 กิโลกรัม
  • มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 200 ลิตร 
  • มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด 65 ลิตร
  • มีรัศมีองศาในการเลี้ยว 5.75 เมตร

ดีไซน์ภายในรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า6

Interior:ภายในรถยนต์ 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า7
  • ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน สามารถเลือกเฉดสีได้อย่างหลากหลาย และ Custom ได้อย่างอิสระ  
  • ใช้วัสดุตกแต่งภายในด้วยหนัง สลับ Alcantara
  • ใช้วัสดุตกแต่งอุปกรณ์ด้านในด้วยสีดำเงา , สีเงินโครเมี่ยม และ ลายคาร์บอนไฟเบอร์
  • มีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบ Ambient Light 
  • บริเวณคอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ 
  • มีกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
  • มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และ หุ้มด้วย Alcantara 
  • มีชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full LCD Digital ที่มีฟังก์ชันรูปแบบการแสดงผลหลายรูปแบบ 
  • มีแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift 
  • มีเกียร์อัตโนมัติแบบ ปุ่มกดสไตล์ Super Car 
  • มีปุ่ม Push Start บนพวงมาลัยด้านซ้าย
  • มีกุญแจแบบ Keyless Go Entry 
  • มีปุ่มปรับโหมดการทำงานของ Traction Control
  • มีปุ่มปรับระดับความสูงของช่วงล่าง หรือ Lift Control 
  • มีปุ่ม Launch Control บนพวงมาลัยด้านขวา
  • มีแป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น
  • มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ ซ้าย , ขวา ระบบสัมผัส
  • มีช่องเชื่อมต่อ USB
Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า8
  • มีเบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยหนังสลับ Alcantara สามารถเลือกสีได้อย่างอิสระ
  • มีสัญลักษณ์ม้าพยศ Ferrari ปักอยู่บนพนักพิงศีรษะ
  • มีเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Bucket Seat 
  • เบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 
  • เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat
  • เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support 
  • เบาะนั่งคู่หน้า มีระบบ Heater มาให้

Entertainment:ระบบความบันเทิง

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า9
  • มีชุดหน้าจอเครื่องเล่นแสดงผล บนหน้าจอมาตรวัด แยก ออกจาก ตัวบอกความเร็ว และ ตัวบอกการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน 
  • สามารถรองรับระบบ Apple Car Play และ Android Auto 
  • รองรับระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth
  • มีระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
  • มีระบบเสียงรอบทิศทางพร้อมลำโพง 12 ตัว
  • มีช่องเชื่อมต่อ AUX
  • มีช่องเชื่อมต่อ USB 
  • มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 
  • มีช่องเชื่อมต่อ SD Card 
  • มีระบบเชื่อมต่อ Smart Phone เข้ากับตัวรถที่รองรับระบบต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้
    • มีระบบ Emergency Call System เป็นระบบโทรช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
    • มีระบบ Telediagnostics ช่วยวิเคราะห์สภาพของรถยนต์
    • มีระบบ Remote Engine Start ช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจรีโมท พร้อมสั่งงานให้เปิดระบบปรับอากาศได้ด้วย Smartphone 
    • มีระบบ Live Traffic Information ช่วยรายงานสภาพการจราจร
    • มีระบบ ขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เครื่องยนต์รถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า10

Engine:เครื่องยนต์

  • สำหรับในรุ่นนี้จะมากับเครื่องยนต์ V6 เบนซิน Twin Turbocharged ขนาด 3.0 ลิตร 3,000 ซีซี 24 วาล์ว รหัส F163 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ ใช้ลูกสูบขนาด 88 มิลลิเมตร กับ ระยะช่วงชัก 82 มิลลิเมตร ในอัตราส่วนกำลังอัด 9.4 : 1 สามารถเรียกพละกำลังสูงสุดได้ 663 แรงม้า แต่เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid จะได้พละกำลังเพิ่มมากขึ้นเป็น 830 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที กับ แรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Dual Clutch รุ่น F1 DCT ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง พร้อมกับเฟืองท้ายแบบพิเศษ ส่วนตัวเลขสมรรถนะที่รถยนต์คันนี้ทำได้ มีดังนี้
    • สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2.9 วินาที
    • สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.3 วินาที 
    • มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    • สามารถทำความเร็วสูงสุดในโหมด EV ได้ 134 กิโลเมตร
    • เมื่อใช้โหมดไฟฟ้าล้วน สามารถวิ่งได้ระยะทางมากที่สุด 25 กิโลเมตร 

มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งหมด 6 รูปแบบ 

  • โหมด Comfrot
  • โหมด EV
  • โหมด Rain
  • โหมด Sport 
  • โหมด Track 
  • โหมด Race 

ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า11

Frame & Suspension : โครงสร้างตัวถัง และ ช่วงล่าง

  • ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ คาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อให้ตัวรถมีความแข็งแรงทนทาน รองรับแรงบิดตัวได้มาก และ มีน้ำหนักเบา เพื่อให้สมดุลกับพละกำลังเครื่องยนต์มากที่สุด 
  • มีระบบกันสะเทือนด้านหน้า และ ด้านหลัง แบบอิสระปีกนกคู่แบบ 2 ชั้น พร้อม คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช๊คอัพเต็มรูปแบบ สามารถปรับรูปแบบการทำงาน และ ระดับความสูง ได้ด้วยระบบไฟฟ้า  
  • มีระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ใช้จากเบรกแบบ Carbon Ceramic ขนาด 398 มิลลิเมตร หนา 38 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 Pots 
  • มีระบบห้ามล้อด้านหลังเป็นดิสก์เบรก ใช้จากเบรกแบบ Carbon Ceramic ขนาด 360 มิลลิเมตร หนา 32 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 Pots

Safety:ระบบความปลอดภัย 

  • มีระบบ EPS ช่วยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยตามความเร็วรถ
  • มีระบบ ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน
  • มีระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกให้สม่ำเสมอกัน
  • มีระบบ BA ช่วยเสริมแรงเบรกให้กับล้อทั้ง 4 
  • มีระบบ ESC ช่วยควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว
  • มีระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และ ช่วยไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีโดยไม่จำเป็น 
  • มีระบบ ESS ช่วยเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินให้ทันทีเมื่อเบรกกะทันหัน 
  • มีระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • มีระบบ HDC ช่วยชะลอความเร็วรถยนต์ในเวลาลงทางลาดชัน
  • มีระบบ TPLW ช่วยแจ้งเตือนเมื่อลมยางมีแรงดันที่ผิดปกติ
  • มีระบบ Torque Vectoring ช่วยควบคุมแรงบิดให้กับตัวรถให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบนความปลอดภัยสูงสุด
  • มีระบบ FDE+ เวอร์ชั่นใหม่ ที่ตอนนี้สามารถเรียกใช้งานได้ทันทีเมื่อเข้า Race Mode จะช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้ตัวคาลิปเปอร์ช่วยทำงานแบบอัตโนมัติในเวลาเข้าโค้ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรก
  • มีระบบ ADAS โดยจะเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง ที่จะช่วยให้การขับในความเร็วสูงปลอดภัย และ ขับขี่ได้ง่ายมากขึ้น
  • มีระบบ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • มีระบบ เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
  • มีระบบ แจ้งเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยชะลอความเร็วให้อัตโนมัติ
  • มีระบบ รายงานสภาพจราจร
  • มีกล้องมองภาพจากมุมสูง
  • มีกุญแจรีโมทแบบ Smart Keyless 
  • มีเซนเซอร์ช่วยวัดระยะในการจอบรอบคัน
  • มีเซนเซอร์แจ้งเตือกวัตถุ หรือ รถ ในมุมอับสายตารอบคัน 
  • มีกล้องมองภาพรอบคันรถแบบ 360 องศา 
  • มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
  • มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • มีม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
  • มีถุงลมหัวเข่า 2 ตำแหน่ง

จุดเด่นของรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า12

สำหรับจุดเด่นของรถยนต์คันนี้ในส่วนแรกที่จะต้องพูดถึงจะเป็นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ในรุ่นนี้จะมาในสไตล์รถยนต์ Super Car แบบเปิดประทุนหลังคาแข็ง ที่จะใช้วัสดุหลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่นอกจากจะแข็งแรงทนทานแล้วยังช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงตามไปด้วย ส่วนดีไซน์การออกแบบตัวถังภายนอก และ ห้องโดยสารภายในก็จะมีรายละเอียดที่เหมือนกับในรุ่น Sport หลังคาแข็ง แต่จะมีรายละเอียดในเรื่องของ Aerodynamic ที่ดีกว่าเล็กน้อยจากรูปทรงของรถที่ต่างออกไป ส่วนต่อมาจะเป็นในเรื่องขุมพลังเครื่องยนต์ กับสมรรถนะช่วงล่าง และ ระบบความปลอดภัย นั้นซึ่งก็จะมีสมรรถนะแบบเดียวกับในรุ่น 296 GTB 

สรุปรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า13

สำหรับรถยนต์คันนี้จัดว่าเป็นรถยนต์ Super Car ที่มีราคาที่ถูกที่สุดสำหรับแบรนด์ Ferrari โดยเฉพาะในบ้านเราที่ในเวลานี้จะปรับลดราคาภาษีการนำเข้าของรถยนต์แบบ PHEV จึงทำให้รถยนต์คันนี้มีราคาที่ถูกกว่าใน Ferrari บ้างรุ่นทั้งที่ในความจริง ตระกูล 296 ทั้ง GTB และ GTS มีสมรรถนะสูงกว่ารถยนต์ Ferrari ในบางรุ่นที่มีราคาแพงกว่าด้วยซ้ำไป สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์ Super Car ขุมพลัง PHEV ในเวลานี้ก็ต้องห้ามมองข้ามรถยนต์คันนี้เลย 

รถยนต์ Ferrari 296 GTS สามารถเลือก Custom สีตัวถังได้อย่างอิสระ 

Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า14

ราคารถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

รถยนต์ Ferrari 296 GTS ราคา 21,900,000 บาท

Link ซื้อรถยนต์ : Ferrari 296 GTS 

https://www.ferrari.com/en-TH

เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ Series ที่ร้อนแรงที่สุดจากแบรนด์ Ferrari ในเวลานี้เลย อย่าง Ferrari 296 GTS รถยนต์ Super Car ขุมพลัง Plug-In Hybrid โฉมเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด กับพละกำลัง 830 แรงม้า คันนี้ กับในโฉมหลังคาแข็งเองก็ได้รับความสนใจมาก ๆ ไม่แพ้กัน เพราะด้วยการมาของเครื่องยนต์ V6 แบบ Plug-In Hybrid จาก Ferrari เป็นครั้งแรก แถมเมื่อนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว เมื่อหักลบกับจำนวนภาษีออกมาจะเห็นได้ว่าในรุ่นนี้ จะกลายเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดของ Ferrari ไปเป็นที่เรียบร้อยในปัจจุบัน แถม ยังมีสมรรถนะสูงกว่าเครื่องยนต์สันดาบล้วน ที่ราคาแพงกว่าอีกด้วย และ สุดท้ายนี้ https://mywonderwheel.com/ ก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้ชมทุกท่านที่ได้เข้ามารับชมบทความของเราในครั้งนี้ ส่่วนในครั้งหน้าจะเป็นบทความเริ่องอะไร โปรดติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ 

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

บริการรับ จำนำรถ

TAG